เราพบพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพด้วยการเป็นพยาน ไม่ใช่ด้วยการมองด้วยสายตา “คน​เหล่า​นั้น​รับ​ถ้อยคำ​ของ​เป​โตร​และ​ได้​รับศีล​ล้าง​บาป วัน​นั้น​ผู้​มี​ความ​เชื่อ​มี​จำนวน​เพิ่ม​ขึ้น​อีก​ประ​มาณ​สาม​พัน​คน”(กจ.10:41)โดยทางศีลล้างบาป คริสตชนเป็นพยานถึงสิ่งที่เขาได้เชื่อ นั่นคือพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ

          เพื่อคริสตชนจะเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จำเป็นต้องเป็นเหมือน.............

ü  มารีย์ชาวมักดาลา ผู้ที่รักพระเยซูเจ้าและยืนเคียงข้างไม้กางเขนกับพระองค์ (ยน. 19:25),
ü  สตรีทั้งสองคน ที่กอดพระบาทนมัสการพระองค์ (มธ. 28:9),
ü  เปโตรที่สำนึกผิดหลังจากปฏิเสธพระองค์ (ลก. 22:62),
ü  เป็นเหมือนผู้นำพระศาสนจักรสมัยแรก ๆ ซึ่งรับพระจิตเจ้า (ยน.20:22),
ü  ศิษย์ทั้งสองคนที่เดินทางไปเอมมาอุส เร่าร้อนเป็นไฟอยู่ภายใน (ลก. 24:32)

          พระเยซูเจ้าได้สัญญากับผู้ติดตามพระองค์ว่าจะส่งพระจิตมาเหนื่อพวกเขาเพื่อพวกเขาจะได้เป็นเป็นพยานถึงการกลับคืนชีพของพระองค์ “พระ​จิต​เจ้า​จะ​เสด็จ​ลง​มา​เหนือ​ท่านและ​ท่าน​จะ​รับ​อานุภาพ​เพื่อ​จะ​เป็น​พยาน”(กจ.1:8)“โดยพระ​หัตถ์​ของ​พระ​เจ้า​อยู่​เหนือ​ข้าพ​เจ้า” (อสค.3:22) “โดยการปกมือของบรรดาอัครสาวกนี้เอง ที่ทำให้คนทั้งหลายได้รับพระจิต” (คำสอนพระศาสนจักร: 699) การปกมือนี้คริสชนได้รับในวันรับศีลกำลัง

          ด้วยเหตุนี้คริสตชนโดยอาศัยศีลล้างลาปและศีลกำลังจึงมีหน้าที่ที่จะเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ

ภาวนา : อัลเลลูยา อัลเลลูยา อัลเลลูยา

ข้อตั้งใจ : พระ​องค์​จะ​ทรง​ทำ​ให้​ข้าพ​เจ้า​เปี่ยม​ด้วย​ความ​ยินดี​เฉพาะ​พระ​พักตร์​ของ​พระ​องค์ (กจ. 2:28)

คุณพ่อเอนก นามวงษ์

รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com