กษัตริย์อาหับเสนอหรือไม่ก็ขอซื้อที่ดินของนาโบท(1พกษ.21:2), แต่นาโบทกลับตอบปฏิเสธ เพราะว่า ทรง​ห้าม​มิ​ให้​ข้าพเจ้า​ยก​มรดก​ของ​บรรพ​บุรุษ​ให้กับกษัตริย์อาหับ”(1พกษ.21:3) การตอบเช่นนั้นนาโบททำให้เขาถูก “เอาหินทุ่มจนตาย”(1พกษ.21:13).

          หากเราดูในพระคัมภีร์ผู้ที่ทำสิ่งตรงกันข้ามนาโบท ก็มี เอซาวที่ได้ขาย “มรดกของบรรพบุรุษ”ให้กับยาโคบ (ปฐก.25:30) "ยา​โคบ​จึง​ให้​ขนมปัง​และ​แกง​ถั่ว​แก่​เอ​ซาว เอซาว​กิน​ดื่ม แล้ว​ก็​ลุก​ออก​ไป ไม่​สนใจ​สิทธิ์​บุตร​คน​แรก​ของ​ตน​เลย"(ปฐก.25:34).

          มรดกของบรรพบุรุษและสิทธิ์บุตรคนแรกมีคุณค่ามากกว่าข้าวของเงินทอง

          สำหรับคริสตชนอะไรคือมรดกของบรรพบุรุษคือ การเผยแสดงของพระเจ้าผ่านทางคำสอนพระศาสนจักร,ศีลศักดิ์สิทธิ์และโดยเฉพาะ “พระคัมภีร์” พระวาจาของพระเจ้าคือความจริงที่เผยแสดงโดยพระเยซูเจ้า

          นี่คือคุณค่าที่คริสตชนควรจะเก็บไว้ แม้จะต้องเสียสละชีวิตตนเองเหมือนนาโบท

          “ท่าน​ที่รัก​ทั้ง​หลาย ข้าพ​เจ้า​ปรารถนา​อย่าง​แรงกล้า​ที่​จะ​เขียน​ถึง​ท่าน​เรื่อง​ความ​รอด​พ้น​ซึ่ง​เรา​ได้​รับ​ร่วม​กัน ข้าพ​เจ้า​จึง​เห็น​ว่า จำเป็น​ต้อง​เขียน​เตือน​ท่าน​ให้​ต่อสู้​เพื่อ​ป้องกัน​ความ​เชื่อ​ที่​พระ​เจ้า​ประ​ทาน​แก่​บรรดา​ผู้​ศักดิ์​สิทธิ์​ครั้ง​เดียว​ตลอดไป”(ยด.1:3)

ภาวนา: ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสดับฟังเสียงคร่ำครวญของข้าพเจ้าเถิด

ข้อตั้งใจ: "อย่า​โต้ตอบ​คน​ชั่ว ผู้ใด​ตบ​แก้ม​ขวา​ของ​ท่าน จง​หัน​แก้ม​ซ้าย​ให้​เขา​ด้วย" (มธ5:39)

คุณพ่อเอนก นามวงษ์

รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com