วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์มารี มักดาลา<<ยืนอยู่ข้างไม้กางเขน(ยน.19:25)<<สถานที่ที่พระองค์ทรงถูกตรึงนั้นมีสวนแห่งหนึ่งสวนนี้มีคูหาขุดใหม่ที่ยังไม่เคยใช้ฝังผู้ใดเลยเขาจึงอัญเชิญพระศพของพระเยซูเจ้าบรรจุไว้ที่นั่นเพราะวันนั้นเป็นวันเตรียมฉลองของชาวยิวและคูหาอยู่ใกล้>>(ยน.19:41-42)พระเยซูเจ้าคือเมล็ดพันธ์ที่ตายแล้วเพื่อบังเกิดผลมากมาย ก่อนหน้านี้พระเยซูเจ้าทรงสอนพวกเขาว่า<<ถ้าเมล็ดข้าวไม่ได้ตกลงในดินและตายไปมันก็จะเป็นเพียงเมล็ดเดียวเท่านั้นแต่ถ้ามันตายมันก็จะบังเกิดผลมากมาย>>(ยน.12:24)<<สิ่งที่หว่านลงไปนั้นไม่มีเกียรติแต่สิ่งที่กลับคืนชีพนั้นมีความรุ่งเรืองสิ่งที่หว่านลงไปนั้นอ่อนแอแต่สิ่งที่กลับคืนชีพนั้นมีอานุภาพ สิ่งที่หว่านลงไปเป็นร่างกายตามธรรมชาติแต่สิ่งที่กลับคืนชีพเป็นร่างกายที่มีพระจิตเจ้าเป็นชีวิต>>(1คร.15:43-44)
มารี มักดาลาเป็นผู้ติดตามพระคริสตเจ้า(ลก.8:1-2),หลายคนหวังว่ามารี จะจำพระเยซูเจ้ามารีกลับจำพระองค์ไม่ได้ เธอ<<คิดว่าพระองค์เป็นคนสวน>>(ยน.20:15)
อย่างไรก็ตามต่อมามารี มักดาลาจำพระเยซูเจ้าได้เพราะว่า
ü มารี มักดาลาแสวงหาพระเยซูเจ้า(ยรม.29:13-14; มธ.7:7),
ü มารี มักดาลาเลือกเดินในหนทางแห่งประตูแคบ(มธ.7:13)
ü มารี มักดาลาเดินบนหนทางไม้กางเขน“เราเป็นประตูผู้ที่เข้ามาทางเราก็จะรอดพ้นเขาจะเข้าจะออกและจะพบทุ่งหญ้า”(ยน.10:9),การเดินบนหนทางนี้ทำให้ เธอค้นพบ“สถานที่ที่พระองค์ทรงถูกตรึงนั้นมีสวนแห่งหนึ่งสวนนี้มีคูหาขุดใหม่ที่ยังไม่เคยใช้ฝังผู้ใดเลย>> (ยน. 19:41)
ü ที่สุดเพระใจร้อนร้นที่จะแสวงหาพระเจ้า มารี มักดาลาคิดว่าพระองค์คือคนสวน(ยน.20:15)“ถ้าผู้ใดอยากติดตามเราก็จงเลิกนึกถึงตนเองจงแบกไม้กางเขนของตนทุกวันและติดตามเรา>>(ลก.9:23),
พระเยซูเจ้าสัญญาว่า จะประทานพระจิตแก่บรรดาผู้ที่ติดตามพระองค์(รม.5:5) การที่<<ได้รับพระพรของพระจิตเจ้า>>(กจ.2:38)
เพื่อว่าคริสตชนจะทำให้การกลับคืนชีพของพระองค์เกิดผลในชีวิตของเขา<<ในอุทยานของพระเจ้า>>(วว.2:7)
>>ดิฉันได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว<<
(ยน.20:18)