หลักปฏิบัติเป็นผู้เมตตา ในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

 

            เมื่อเห็นดังนี้ ชาวฟาริสีจึงถามศิษย์ของพระองค์ว่า “ทำไมอาจารย์ของท่านจึงกินอาหารร่วมกับคนเก็บภาษีและคนบาปเล่า” พระเยซูเจ้าทรงได้ยินดังนั้น จึงตรัสตอบว่า “คนสบายดีย่อมไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บไข้ต้องการ จงไปเรียนรู้ความหมายของพระวาจาที่ว่า ‘เราพอใจความเมตตากรุณา มิใช่พอใจเครื่องบูชา’ เพราะเราไม่ได้มาเพื่อเรียกคนชอบธรรม แต่มาเพื่อเรียกคนบาป” (มธ 9:11-13)

            จากพระวาจาข้างต้น จะเห็นว่าพระเป็นเจ้าเป็นผู้ที่เมตตาต่อเราเสมอ พระองค์ทรงเรียกร้องกิจการที่ดีๆ จากตัวของเรา โดยเฉพาะกิจการที่เป็นกิจเมตตาต่อเพื่อนพี่น้องรอบข้าง

            นี่คือตัวอย่างกิจการที่ดี หรือข้อปฏิบัติในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมที่จะนำเสนอต่อครูคำสอน ลองไตร่ตรองดูว่าข้อไหนบ้างที่คุณครูสามารถทำได้ตลอดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมนี้ เพื่อเราจะได้เป็น “ผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด” (ลก 6:36)

            • สำรวมคำพูดตนเอง แล้วภาวนาต่อพระเป็นเจ้าว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงวางยาม
               เฝ้าปากของข้าพเจ้าไว้ ขอทรงวางยามไว้ตรงประตูริมฝีปากของข้าพเจ้า” (สดด 141:3)

             เสียสละของใช้ เสื้อผ้า แบ่งปันให้กับผู้ขัดสนและผู้ที่ขาดแคลน

             ยกโทรศัพท์ แล้วโทรหาเพื่อนที่ต้องการกำลังใจ สำหรับเรื่องเศร้าๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวของเขา

             ลองส่งไลน์ เขียนเฟซบุ๊ก ส่งอีเมล ขอโทษเพื่อน แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ ก็ตามที

            • วางโทรศัพท์ ฟังเพื่อนคุยบ้าง

            • เข้าวัดแล้วสวดว่า “พระเยซูเจ้าข้า โปรดอวยพระพรให้แก่ ...........
               (ออกชื่อคนนั้นที่เราไม่ชอบ เกลียด ทำร้าย เอาเปรียบตัวฉัน) 

            • ทำดีเล็กๆ น้อยๆ เพื่อคนที่ทำผิดต่อเรา

            • ไปแสวงบุญที่วัดใดวัดหนึ่งในสังฆมณฑลของเรา 

            • ใช้เวลาในการสวดภาวนานานขึ้น

            • ยิ้มทักทายเพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกัน

            • มีสติเวลาจะเล่นสังคมออนไลน์ด้วยความสร้างสรรค์ ไม่ใช้เป็นเครื่องมือออนไลน์
               ว่าใคร ดูถูก เยาะเย้ย ถากถาง ตำหนิ ทำลายใคร

            • อ่านหนังสือให้ผู้สูงอายุฟัง

            • ยอมให้เพื่อนทำอะไรดีให้เราบ้าง เพื่อนจะได้รู้สึกดีที่ได้ทำความดีให้เรา

            • จูงคนตาบอด ผู้สูงอายุข้ามถนน ขึ้นบันได

            • เดินไปขอเพื่อนให้ยกโทษให้แก่เรา ในเรื่องที่เราทำผิดต่อเขา

            • บริจาคเงินเพื่อคนไร้บ้าน

            • ไปเลี้ยงอาหารที่บ้านเด็กกำพร้า บ้านพักคนชรา

            • แม้ไม่สามารถไปเลี้ยงอาหารด้วยตนเองได้ ก็สามารถบริจาคปัจจัยสำหรับ
               บ้านเด็กกำพร้า บ้านพักคนชรา

            • ส่งการ์ด ส่งดอกไม้ ร่วมแสดงความยินดีกับคนที่แต่งงาน วันเกิด ได้เลื่อนตำแหน่ง

            • ทำกับข้าวหรือซื้อกับข้าวเผื่อเพื่อนบ้าน

            • พาเพื่อนที่ทำงานที่ยากจนไปทานข้าวบ้าง 

            • อาหารที่ทานไม่หมด แทนที่จะทิ้ง ก็เก็บไว้ สำหรับนำไปให้ผู้ที่ไม่มีอะไรจะทาน

            • ป้อนข้าวให้พ่อ ให้แม่บ้าง ไม่ต้องรอให้ท่านป่วยก่อน แล้วค่อยทำ

            • อาสาสมัครช่วยสอนหนังสือเด็กยากจน

            • แม้เราไม่สามารถไปทำดีที่บ้านเด็กกำพร้า แต่เราสามารถบริจาคปัจจัยอื่นๆ
               แก่เด็กกำพร้าได้

            นี่คือกิจการตัวอย่างที่ได้นำเสนอ ยังมีกิจการดีอีกมากมายที่เราสามารถทำได้

            พระเยซูเจ้าได้แนะนำกิจการดีที่ให้เราปฏิบัติด้วย เช่น

            • จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน (ลก 6:27)

            • จงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน (ลก 6:28)

            • ผู้ใดตบแก้มท่านข้างหนึ่ง จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาตบด้วย
               ผู้ใดเอาเสื้อคลุมของท่านไป
จงปล่อยให้เขาเอาเสื้อยาวไปด้วย (ลก 6:29) 

            • จงให้แก่ทุกคนที่ขอท่าน และอย่าทวงของของท่านคืนจากผู้ที่ได้แย่งไป (ลก 6:30) 

            • เมื่อเราหิว ท่านให้เรากิน เรากระหาย ท่านให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า
               ท่านก็ต้อนรับ (มธ 25:35)

            • เราไม่มีเสื้อผ้า ท่านก็ให้เสื้อผ้าแก่เรา เราเจ็บป่วย ท่านก็มาเยี่ยม เราอยู่ในคุก
               ท่านก็มาหา
(มธ 25:36)

            ครูคำสอนทุกท่านครับ พระศาสนจักรกำลังฉลองปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม การฉลองนี้ เป็นการฉลองระยะยาว เพื่อให้ครูคำสอนมีโอกาสเติบโตในความศักดิ์สิทธิ์ เป็นเวลาที่ให้ครูคำสอนได้ค้นพบ ค้นหา สัมผัส พระเมตตาจากพระเป็นเจ้า เพื่อจะนำสิ่งที่ครูคำสอนได้มีประสบการณ์พระเมตตานี้ นำไปแบ่งปันต่อคนรอบข้างครูคำสอนต่อไปโดยผ่านทางกิจการที่ดีของครูคำสอนทุกท่าน