แม่พระ : มารดาของพระเจ้าและมารดาของเรา

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

บทความจากวารสารมิตรสงฆ์

แม่พระ : มารดาของพระเจ้าและมารดาของเรา

โดย ล.เทียนชัย สมานจิต

มิตรสงฆ์ที่รัก

            เนื่องด้วยกองบรรณาธิการมิตรสงฆ์ขอร้องให้เขียนเรื่อง "แม่พระ" ในมิตรสงฆ์ฉบับนี้ หลังจากหายเงียบไปนาน ก็พอดีมีเวลาว่างบ้าง จึงยินดีแบ่งปันเรื่องแม่พระ ซึ่งเป็นมารดาของพระคริสตเจ้าและมารดาของเราพระสงฆ์และมนุษยชาติ ซึ่งพระคริสตเจ้าทรงมอบให้บนไม้กางเขน โดย ยอห์นอัครสาวก เป็นตัวแทน จากความรักและประสบการณ์ที่มีต่อแม่พระ ตั้งแต่เล็กๆ มา ให้แก่พี่น้องมิตรสงฆ์ แม้เราได้ยินเรื่องแม่พระกันอยู่เสมอๆ นักบุญเบอร์นาร์ด กล่าวว่า "De Maria numquam satis" เกี่ยวกับแม่พระ พูดเท่าไรก็ไม่เคยพอ เชื่อว่าข้อเขียนเรื่องแม่พระครั้งนี้ คงจะเป็นประโยชน์แก่พี่น้องมิตรสงฆ์ไม่มากก็น้อยให้มีความรักความศรัทธาต่อแม่พระในชีวิตประจำวันและในหน้าที่อภิบาลช่วยพี่น้องคริสตชนของเราให้มีความรักความศรัทธาต่อแม่พระมากยิ่งขึ้น

            หลังจากอาดัม เอวา ทำบาปแล้ว พระทรงลงโทษมนุษย์ แต่ในเวลาเดียวกันก็ประกาศข่าวดีว่า "จะตั้งการเป็นศัตรูระหว่างปีศาจและเอวา ระหว่างพงศ์พันธุ์ของปีศาจและพงศ์พันธุ์ของเอวา พงศ์พันธุ์ของเอวาผู้หนึ่งจะเหยียบหัวงูปีศาจให้แหลก พงศ์พันธุ์ของเอวาผู้นี้ อันดับแรกหมายถึงอาดัมคนใหม่ คือพระคริสตเจ้า บุตรของพระเจ้าผู้เสด็จลงมาบังเกิดเป็นบุตรมนุษย์จากเอวาคนใหม่ คือแม่พระซึ่งพระเจ้าทรงเลือกสรรให้เป็นพระมารดาของพระเจ้า เป็นสตรีผู้ได้รับพระพรกว่าสตรีใดๆ ปฏิสนธินิรมล บริสุทธิ์พรหมจรรย์ เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน สมเป็นพระมารดาของพระเจ้า

            ในปีหนึ่งๆ เรามีวันฉลองแม่พระแทบทุกเดือน พระศาสนจักรยังถวายเดือนพฤษภาคมและตุลาคมเป็นเดือนแม่พระอีกด้วย แต่ต้องถือว่าในวันฉลองต่างๆ ของแม่พระ วันสมโภชแม่พระเป็นพระชนนีของพระเจ้ายิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งพระศาสนจักรกำหนดให้ทำการสมโภชในวันที่ 1 มกราคมของทุกปี วันสมโภชนี้ทำให้เราคิดถึงพระธรรมล้ำลึกแห่งความเชื่อ พระธรรมล้ำลึกแห่งการอวตารของพระวจนาตถ์ ซึ่งเป็นกิจการของ 3 พระบุคคลแห่งพระตรีเอกภาพ พระแม่เป็นธิดาที่รักของพระบิดา เป็นเจ้าสาวที่รักของพระจิตและเป็นพระมารดาที่รักของพระบุตร

            เนื่องจากแม่พระได้รับเกียรติสูงส่งเป็นพระมารดาของพระเจ้า (Theotokos) ตามที่การประชุมสังคายนาที่เมืองเอเฟซัส ในปี ค.ศ. 431 ประกาศเป็นข้อความเชื่อว่าในพระคริสตเจ้ามีพระบุคคลเดียวที่เป็นพระเจ้า ต่อต้านเนสโตรีอุส สังฆบิดรของกอนสตันติโนเปิลที่สอนว่าในพระคริสตเจ้ามี 2 พระบุคคลที่เป็นพระเจ้าและมนุษย์ แม่พระเป็นแต่มารดาของพระคริสตเจ้าที่เป็นมนุษย์ (Christotokos) พระเจ้าจึงทรงประทานอภิสิทธิ์มากมายแด่แม่พระ อาศัยบุญบารมีของพระคริสตเจ้า พระแม่ปฏิสนธินิรมล ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ประกาศเป็นข้อความเชื่อในปี ค.ศ. 1854 และได้รับการยืนยันจากแม่พระเองที่เมืองลูร์ดส ในปี ค.ศ. 1858 แม่พระเป็นพรหมจารีเสมอ แม่พระได้รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ ดังที่สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ประกาศเป็นข้อความเชื่อในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 1950 พระแม่ได้รับมงกุฏเป็นราชินีเหนือเทวทูตและนักบุญทั้งหลายในสวรรค์

            ยิ่งกว่านั้นในรหัสธรรมการไถ่กู้มนุษย์ที่บุตรพระเจ้ามาบังเกิดเป็นบุตรมนุษย์ เพื่อทำให้บุตรมนุษย์เกิดใหม่เป็นบุตรพระเจ้า บาปของอาดัมเอวาจึงถือว่าเป็นบาปที่มีบุญ (Felix culpa) ตามที่ปิตาจารย์สอน อาดัมคนใหม่เกิดจากเอวาคนใหม่ เรามนุษย์ทั้งชายและหญิงต้องขอบคุณและรู้คุณพระเจ้าที่ทรงเลือกสรรพระแม่เป็นพระมารดาของพระเจ้าและมารดาของเรา ในการประชุมสังคายนาวาติกันที่ 2 แม่พระได้รับการประกาศว่า เป็นพระมารดาของพระศาสนจักร เพราะพระศาสนจักรเป็นพระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้า แม่พระเป็นที่พึ่งและแบบอย่างของเรา เป็น MASTER PIECE ของพระเจ้า เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า ให้เราพระสงฆ์เข้าพึ่งแม่พระเสมอในชีวิตของเรา ไม่ว่าในยามสุข ยามทุกข์ ให้เรายึดแม่พระเป็นที่พึ่ง เราจะไม่ผิดหวัง มีบทภาวนาบทหนึ่งซึ่งคริสตชนสวดกันอยู่เสมอ นักบุญเบอร์นาร์ดเป็นผู้แต่ง "...โปรดระลึกเถิด พระแม่มารีย์พรหมจารีผู้โอบอ้อมอารี แต่ไหนแต่ไรมายังไม่เคยได้ยินเลยว่า ผู้ที่มาพึ่งพาขอความช่วยเหลือและความคุ้มครองจากพระแม่ จะถูกพระแม่ทอดทิ้ง ..." แม่พระได้ชื่อว่าเป็น OMNIPOTENTIA SUPPLEX (ผู้ขอผู้ทรงพลานุภาพ) ขออะไรพระเยซูเจ้า พระองค์ไม่กล้าปฏิเสธ

            พระแม่เจริญชีวิตสนิทกับพระเยซูเจ้าและอยู่กับพระองค์ 30 ปี คอยติดตามและเป็นกำลังใจให้พระองค์ ตลอดเวลาทำงานของพระองค์ โดยเฉพาะระหว่างพระองค์ถูกทรมานและแบกกางเขน และอยู่เชิงกางเขนจนวาระสุดท้าย ขอพระแม่อยู่ข้างเคียงเราเสมอ และเรามีพวงมาลัยฝ่ายจิตแด่พระแม่ด้วยการสวดสายประคำทุกๆ วัน แม่พระเป็นผู้สอนนักบุญดอมีนิกให้สวดสายประคำ โดยให้สวดบทเพลงสดุดี 150 บท ต่อมาพระศาสนจักรให้ใช้บทวันทามารีย์ 150 บทแทน ขณะนี้เหลือ 50 บท หรือ 10 บท แต่หลายๆ คนก็ยังไม่ได้สวด อ้างว่าไม่มีเวลาบ้าง หรือถือว่าเป็นบทภาวนาของเด็กๆ ของคนแก่คนไม่รู้หนังสือ แม่พระปรากฏมาที่เมืองลูร์ดสก็มีสายประคำคล้องแขน แม่พระที่ฟาติมาก็บอกกับเด็กว่า พระแม่เป็นพระแม่แห่งสายประคำศักดิ์สิทธิ์ นักบุญยอห์น ปอลที่ 2 พระสันตะปาปา ทรงรักแม่พระและมีความศรัทธาต่อแม่พระมาก แม้มีภาระกิจมากมายหรือต้องเดินทาง พระองค์ก็สวดสายประคำ 150 เม็ดทุกวันเป็นแบบอย่างแก่เรา

            พระเยซูเจ้าเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์อาศัยแม่พระ หรือ ผ่านทางแม่พระ ฉะนั้นเราจะเข้าหาพระเยซู ก็ต้องอาศัยแม่พระและผ่านทางแม่พระเช่นเดียวกัน AD JESUM PER MARIAM ให้เราสรรเสริญแม่พระด้วยถ้อยคำของอัครเทวทูตกาบรีเอล และสวดบททูตสวรรค์แจ้งข่าวแด่พระนางมารีย์ (เช้า เที่ยง เย็น) สวดบทวันทาพระราชินี ทำนพวารแม่พระนิจจานุเคราะห์ ก่อนนอนและเมื่อใกล้จะตาย ให้เราสวดบทเยซูมารีย์โยเซฟ ให้เราใช้บทภาวนาต่างๆ ที่พระศาสนจักรจัดหาให้เรา เพื่อบำรุงความศรัทธาของเราต่อแม่พระ นอกนั้นเรายังมีบททำวัตร DIVINE OFFICE ซึ่งเราต้องสวดทุกวันในนามของพระศาสนจักร ปัจจุบันพระสงฆ์หลายองค์อ้างว่ามีงานต้องทำมากมาย (เป็น ACTIVIST) แต่เราต้องหาเวลาภาวนาด้วย (เป็น CONTEMPLATIVE) นักบุญเบเนดิกต์ยึดคติพจน์ ORA ET LABORA  (ภาวนาและทำงาน) บุญราศีแม่ชีเทเรซาแห่งกัลกัตตาบอกกับสมาชิกในคณะว่า วันหนึ่งๆ ต้องหาเวลาภาวนาอยู่ต่อหน้าศีลมหาสนิทวันละ 1 ชั่วโมง มิฉะนั้นจะไม่มีพลังทำงาน

            ความศรัทธาของเราต่อแม่พระ มิใช่เพื่อขอความช่วยเหลือจากพระแม่เท่านั้น แต่เราต้องเลียนแบบอย่างคุณธรรมความดีต่างๆ ของแม่พระด้วย เช่น ความบริสุทธิ์ ความเชื่อ ความไว้ใจ ความรัก ความนอบน้อมเชื่อฟัง โดยตอบ FIAT (ขอให้เป็นไป) ความสุภาพถ่อมตน ความอดทนร่วมทุกข์กับพระคริสตเจ้า ความเสียสละ ความใจดี ความเมตตา ความรักต่อคนบาป ฯลฯ

            นอกจากนั้น แม่พระได้ชื่อว่า เป็นดาราแห่งการประกาศพระวรสาร แม่พระมีบทบาทในชีวิตของธรรมทูต ธรรมทูตประกาศพระคริสตเจ้าที่บังเกิดจากพระแม่มารีย์ แม่พระเป็นเครื่องหมายและเครื่องมือแห่งความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าและกับมนุษย์ พระศาสนจักรเอาอย่างแม่พระในการให้กำเนิดพระเยซูเจ้า อาศัยฤทธานุภาพของพระจิตเจ้า โดยให้กำเนิดคริสตชนใหม่อาศัยศีลล้างบาป ให้เราสนใจงานธรรมทูต งานประกาศพระวรสารแก่คนต่างศาสนา โดยเฉพาะในประเทศไทยของเรา ซึ่งยังมีคริสตชนน้อยมาก เรามักจะคิดถึงแต่พระศาสนจักร ทำงานอภิบาลสำหรับคริสตชนจำนวนน้อยนิด ไม่ได้คิดถึงพระอาณาจักรของพระเจ้า ซึ่งกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งรวมทุกชาติทุกศาสนาในเขตวัดและโรงเรียนของเรา ซึ่งเป็นลูกของแม่พระและพระเจ้าด้วย ทำอย่างไรให้พี่น้องต่างศาสนาของเรา แม้ยังไม่ได้เป็นสมาชิกของพระศาสนจักร แต่ก็สามารถเป็นสมาชิกของพระอาณาจักรด้วยการประพฤติดีตามเสียงมโนธรรมและตามคำสอนของศาสนาของตน

 

ขอพระแม่วิงวอนเพื่อเราเทอญ

ขออภัยที่เขียนมายืดยาว

ขอขอบคุณที่มีความเพียร อุตส่าห์อ่านจนจบ