ศรัทธามาก่อนปัญญา

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ดวงตาคู่หนึ่งเบิกโพรงและพยายามขยับเหลือบไปทางซ้าย
และทางขวาแต่ทำไม่ได้เหมือนถูกพันธนาการ
มันจดจ้องอย่างไร้เป้าหมายบนเส้นกึ่งกลางของถนนสายหนึ่ง
ซึ่งเต็มไปด้วยรถที่วิ่งผ่านไปมาทั้งจากทางซ้ายและ
ขวาด้วยความเร็วสูง

ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาคู่นั้นยืนอยู่บนขอบทาง
เขายืนนิ่งมากราวกับว่าอยู่ในอีกมิติของเวลา
เขาปล่อยให้แฟ้มเอกสาร
ที่ดูเหมือนจะสำคัญตกกองอยู่กับพื้นถนน
สายลมพัดจนมันเริ่มปลิวกระจัดกระจาย

"ปัญญา" หนุ่มนักวิชาการผู้ประสบความสำเร็จและ
ได้รับการยอมรับอย่างสูงในฐานะผู้เขียนบทความ
ทางการศึกษากำลังจะข้ามถนนเพื่อไปยังร้านกาแฟ
ตามที่นัดหมายไว้ มันเป็นการนัดที่เขาช้าไป 7 นาทีแล้ว

ลมพัดแรงขึ้นจนกองเอกสารที่พื้นถนนของเขานั้น
หายไปบางส่วน ปัญญาหยุดยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น 6 นาทีแล้ว

เสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ดังขึ้นในความคิดของปัญญา...

ศรัทธา : เอ้อ! อย่าลืมนะปัญญา
          เจอกันที่ร้านเดิมพรุ่งนี้ 5 โมงเย็น

ปัญญา : โอเคเพื่อน แล้วเจอกัน

ปัญญายังอยู่ที่เดิมไม่ไหวติงและ
สายตาก็ยังคงตรึงไว้กับเส้นกึ่งกลางของถนน
ลมพัดแรงขึ้นอีกจนกองเอกสารของเขาหายไปจนหมด
และแล้วเขาค่อย ๆ หลับตาลง

ภาพเหตุการณ์การถกปัญหากับศรัทธาเพื่อนผู้เป็นนักบวช
ผุดขึ้นในความคิดของปัญญาอีก...

ปัญญา : ...มันก็เป็นแค่ความเชื่อนะ ศรัทธา
          แกอาจจะมีแต่ข้าไม่มีหรอก
          เลิกพยายามบอกข้าถึงการมีอยู่พระเจ้าของแกทีเถอะ
          ขอร้อง มีแต่เหตุผลเท่านั้นที่ข้ายึดถือ
          อะไรที่ไม่ได้เป็นผลจากอนุมานที่เชื่อถือได้
          ข้าก็ถือว่าไม่มีอยู่จริง
          เหมือนกับการที่แกบอกว่ามีพระเจ้า
          ก็ไม่ได้แปลว่าพระเจ้าต้องมีจริง

ศรัทธา : อืม! ข้าพอที่จะเข้าใจที่แกพูดนะแต่ที่ข้าไม่เข้าใจ คือ
          แกดำเนินชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้ยังไง
          กับความคิดแบบนั้น แกไปเอาความเชื่อมาจากไหนว่า
          แกจะไม่โดนรถชนตายก่อนแกจะตัดสินใจ
          ก้าวเท้าไปข้างหน้าเวลาข้ามถนน
          การที่แกหันทางซ้ายและหันทางขวาดูรถแล้ว
          ก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องไม่มีรถวิ่งมาชนแกได้ จริงมั้ย?
          เพราะเวลาแกหันไปทางซ้าย แกก็ไม่เห็นทางขวา
          เวลาหันทางขวา แกก็ไม่เห็นทางซ้าย 
          บอกทีว่าผลของการอนุมานของแกเป็นยังไงในกรณีนี้?

ปัญญาเดินไปข้างหน้าด้วยตาทั้งคู่ที่ปิดสนิท เมื่อไปได้แค่ 4 ก้าว
เสียงบีบแตรดังลั่นมาแต่ไกลจากทางขวา
เกือบจะทันทีที่สิ้นเสียงแตรนั้นเขารู้สึกได้ถึงรถคันหนึ่ง
ที่วิ่งเฉี่ยวหลังเขาไปเพียงนิดเดียว เขายังคงหลับตาเดินต่อไป
เสียงยางรถบดกับพื้นถนนจากการเบรคของรถอีกคัน
ดังใกล้กับเขามากจากทางขวาเช่นกันและ
มันเฉี่ยวด้านหน้าเขาไปพร้อมกับเสียงด่าทออย่างโกรธแค้น
เขาเดินต่อไป คราวนี้เป็นเสียงแตรลมของรถบรรทุกดังมาก
มาจากทางซ้าย 3 ครั้ง ทันใดนั้นมีลมพัดปะทะใบหน้าเขา
แรงมากอย่างประหลาด ปัญญาตัดสินใจหยุดเดิน
หลับตาก้มหน้าอยู่กลางถนนนั้น และแล้ว...

ปัญญาไม่ได้ยินอะไรอีกเลย
มันเงียบมากจนเขาไม่แน่จะว่าเขาอยู่ที่ไหน

เขาตัดสินใจที่จะลืมตาขึ้น...สิ่งที่เห็น คือ พื้นถนน

ปัญญาพบว่าเขาเองยังคงยืนก้มหน้าอยู่บนถนน

เขาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นช้า ๆ แล้วเขาก็เห็น...

...ขอบถนนของอีกฝั่งอยู่ห่างเขาไปแค่ 2 ก้าว

เงยหน้าขึ้นอีกแล้วเขาก็เห็น...

...เงาของคน 1 คนซึ่งยืนอยู่บนขอบทางตรงหน้าเขา

ก่อนที่จะได้ยินเสียงพูดว่า

" ช้าไปหน่อยแต่ก็มาถึง ยินดีต้อนรับ ปัญญา "

 

โดย คุณรอหรรษ์