#ความร่วมมือระหว่างเยาวชนและผู้สูงอายุจะสามารถช่วยเหลือมนุษยชาติได้ (‘Alliance between youth and elderly will save humanity’)

เมื่อวันพุธที่ 17 สิงหาคม 2022 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงสอนคำสอนให้กับบรรดาผู้แสวงบุญเรื่อง “คุณค่าของวัยชรา” โดยนำข้อความจากหนังสือดาเนียลเรื่องการล่วงเลยของวันเวลา (Ancient of Days) ซึ่งเป็นนิมิตที่กล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่มาเทศน์สอน

“ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังมองดูอยู่นั้น

ข้าพเจ้าเห็นบัลลังก์หลายองค์ถูกนำมาตั้งไว้

และผู้อาวุโสท่านหนึ่งมานั่งบนบัลลังก์

สวมอาภรณ์ขาวอย่างหิมะ

ผมบนศีรษะขาวเหมือนขนแกะ

บัลลังก์ของเขาเหมือนเปลวเพลิง

มีล้อเหมือนไฟลุกโพลง

เบื้องหน้าเขามีธารไฟไหลออกมา

ผู้รับใช้จำนวนมาก นับล้านนับโกฎิอสงไขย คอยเฝ้ารับใช้เขา

การพิจารณาคดีเริ่มขึ้น

และบรรดาหนังสือก็เปิดออก” (ดนล 7:9-10)

ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับชายในนิมิตนั้นเต็มไปด้วย "พละกำลัง ความแข็งแกร่ง ความสูงส่ง ความงาม และเสน่หา" พระสันตะปาปาตั้งข้อสังเกตว่า “ชายคนนั้นมีผมสีขาวราวหิมะ เหมือนชายชรา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการดำรงชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์เป็นเวลานานมากแล้ว"

#ความงดงามของชายผมขาว (Beauty of a white-bearded God)

นี่คือภาพลักษณ์ของพระเจ้าที่พระคัมภีร์ได้ให้ภาพลักษณ์กับเรา ผู้ทรงสูงศักดิ์และอ่อนโยน เป็นพระเจ้าผู้ทรงเฝ้ามองทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ตลอดเวลา ผู้ทรงเชื่อมโยงกาลเวลาเข้าด้วยกัน ทั้งในอดีตและในปัจจุบัน เพราะพระองค์ทรงเป็นอยู่ตลอดนิรันกาล

มนุษยชาติจึงควรที่จะค้นพบความสำคัญที่จะยอมให้คนชราและคนหนุ่มสาวได้แบ่งปันประสบการณ์ให้แก่กันและกันด้วยความกระตือรือร้น บรรดาผู้สูงอายุจะต้องเป็นประจักษ์พยานให้กับเด็ก ๆ ว่าพวกเขาเป็นพระพร ด้วยการยอมรับพระธรรมล้ำลึกเรื่องจุดหมายปลายทางของชีวิต

#ผู้สูงอายุชื่นชมกับชีวิตที่ผ่านมาและกำลังจะจากไป (Elderly bless life as it comes and goes)

ผู้สูงอายุควรดำเนินชีวิตที่น่าเชื่อถือสำหรับเด็ก ๆ ชื่นชมกับพระพรที่ได้รับในชีวิตที่ผ่านมา ละทิ้งความขุ่นเคืองใจในอดีต เชื่อมโยงกับชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน กับเรื่องราวในอดีต ปัจจุบัน และมองไปยังอนาคต (ชีวิตนิรันดร)

#ส่งต่อภูมิปัญญาแห่งความตาย (Passing on wisdom of dying)

บิดามารดา ผู้ปกครอง จึงควรส่งเสริมให้บรรดาเด็ก ๆ ได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้สูงอายุ ยอมให้บุตรหลานของตนมีปฏิสัมพันธ์กับผู้สูงอายุ แม้ในขณะที่ผู้สูงอายุอยู่ใกล้ประตูแห่งความตายเพื่อถ่ายทอด “ปรีชาญาณแห่งความตาย”

ความตายเป็นทางผ่านที่ยากลำบากจากชีวิตอย่างแน่นอน แต่เป็นการสรุปเวลาแห่งความไม่แน่นอนและโยนนาฬิกาทิ้งไป และเป็นการเริ่มต้นส่วนที่สวยงามของชีวิตซึ่งไม่มีความตายอีกต่อไป...