ก้าวไปกับโป๊ป #230 : เปิดดวงตาของคุณขึ้นและชื่นชมกับของขวัญที่พระเจ้าประทานให้

เปิดดวงตาของคุณขึ้นและชื่นชมกับของขวัญที่พระเจ้าประทานให้ (Open your eyes and be surprised by God's gifts)

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2023 โอกาสสมโภชนักบุญโยเซฟ ภัสดาบริสุทธิ์ยิ่งของพระนางมารีย์ ณ จัตุรัสนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงทักทายผู้แสวงบุญ พร้อมทั้งให้ข้อคิดจากพระวรสารประจำวัน เรื่องพระเยซูเจ้าทรงรักษาคนตาบอด ว่าเป็นการเป็นการท้าทายตัวเรา ให้มองเห็นสิ่งดีงามต่าง ๆ ที่พระเจ้าประทานให้กับเรา และเพื่อเป็นการทำความดีเพื่อผู้อื่น หลังจากนั้นทรงนำอธิษฐานภาวนาในบททูตสวรรค์แจ้งสารตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติในทุกวันอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน

ความตาบอดกับอัศจรรย์ (Blind to the wonder)

เกิดปฏิกิริยาที่หลากหลายต่อสถานการณ์ของชายตาบอดที่ได้รับการรักษาจากพระเยซูเจ้า บรรดาอัครสาวกของพระเยซูมองหาผู้ร้ายที่ทำให้ตาบอด โดยถามว่าชายตาบอด หรือพ่อแม่ของเขาว่าได้ทำบาปหรือไม่ อันเป็นสาเหตุให้ชายผู้นั้นตาบอด แต่พระสันตะปาปาฟรังซิสกล่าวว่า เราควรถามว่าการที่ชายตาบอดอยู่ในชีวิตของเรามีความหมายอย่างไรต่อเรา และพระเจ้ากำลังขออะไรจากเรา

คนอื่นๆ มีปฏิกิริยาในรูปแบบต่าง ๆ กัน เช่น คนที่ไม่เชื่อว่าเขาตาบอดจริง ๆ และพ่อแม่ของเขาที่ไม่กล้าพูดความจริงในขณะนั้น เพราะกลัวว่าอาจจะทำให้เจ้าหน้าที่ศาสนาไม่พอใจ

องค์ประกอบทั่วไปในปฏิกิริยาเหล่านี้คือ "หัวใจปิดตายต่อเครื่องหมายของพระเยซูเจ้า เพราะพวกเขาแสวงหาผู้ร้าย เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะทำให้เกิดความชื่นชมยินดีขึ้นมาได้อย่างไร เพราะพวกเขาไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง เพราะพวกเขาถูกปิดกั้นด้วยความกลัว"

ฉันเคยตาบอด...ตอนนี้ฉันมองเห็นแล้ว (I was blind, now I see)

ชายตาบอดกลับตอบสนองได้ดีต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเพียงแค่เป็นพยานถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความประหลาดใจ

ขอบคุณและยินดี โดยกล่าวว่า “ฉันเคยตาบอด ตอนนี้ฉันเห็นแล้ว” ตอนนี้เขาเป็นอิสระทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นพยานอย่างเปิดเผยถึงพระเยซูเจ้าโดยปราศจากความกลัว โดยไม่กลัวว่าคนอื่นจะพูดหรือทำอย่างไร เขามีชีวิตที่ยากลำบากก่อนที่จะขอทาน และถูกมองว่าเป็นคนนอกคอกมาก่อน

“ตอนนี้เขาหายเป็นปกติแล้ว เขาไม่กลัวท่าทีเหยียดหยามเหล่านั้นอีกต่อไป เพราะพระเยซูเจ้าได้ให้เขามีศักดิ์ศรีเต็มที่ ในวันสะบาโตต่อหน้าทุกคน พระเยซูเจ้าทรงปลดปล่อยเขา และมองเห็นเขาโดยไม่ถามอะไร แม้แต่คำขอบคุณ และเขาก็เป็นพยาน สำหรับสิ่งนี้"

เราควรจะมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างไร? (How would you react?)

เราควรสวมบทบาทของตัวละครเอกในพระวรสารตอนนี้ และคิดว่าเราจะมีปฏิกิริยาอย่างไรในตอนนั้น และสิ่งที่เราจะทำในวันนี้ เราสามารถเห็นและรู้สึกขอบคุณสำหรับของขวัญที่เราได้รับมาจากพระเจ้าได้หรือไม่ เราเป็นพยานถึงความรักและความเมตตาของพระเยซูเจ้า หรือเราเผยแพร่คำวิจารณ์ และการปฏิเสธจากความกลัว และความอ่อนแอของเรา?

เราเปิดใจที่จะแบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่นเกี่ยวกับของขวัญที่พระเจ้ามอบให้เราทุกวันหรือไม่? หรือเราเก็บปฏิกิริยานี้ไว้ข้างใน และถูกกักขังด้วยความกลัว และสุดท้าย เรามองความท้าทายทางกายภาพหรือทางสังคมของผู้อื่นว่าเป็นปัญหา? หรือเป็นโอกาสที่จะเข้าใกล้พวกเขาด้วยการปลอบโยนและความรัก?

“ให้เราขอพระหรรษทานจากพระเจ้าทุกวัน พระหรรษทานที่ทำให้เราชื่นชมยินดี และเห็นสถานการณ์ต่าง ๆ ของชีวิต แม้เป็นโอกาสที่ยากที่สุดที่จะยอมรับเพื่อทำความดี เหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงทำกับคนตาบอด ขอพระแม่มารีย์ช่วยเราในเรื่องนี้ร่วมกับนักบุญโยเซฟ ผู้เที่ยงธรรมและซื่อสัตย์”