ก้าวไปกับโป๊ป #265 : จงเป็นอิสระจากสิ่งที่ยึดติดและเปิดหนทางให้พระเจ้าทรงนำ

จงเป็นอิสระจากสิ่งที่ยึดติดและเปิดหนทางให้พระเจ้าทรงนำ (Be free from attachments, make way for the Lord)

พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงนำสวดบทราชินีสวรรค์ เมื่อตอนเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2023 ณ จัตุรัสนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน โดยทรงอ้างถึงการเป็นพยานของนักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้างที่กล่าวไว้ว่า “บุรุษผู้หนึ่งจะมาภายหลังข้าพเจ้า แต่นำหน้าข้าพเจ้า เพราะอยู่มาก่อนข้าพเจ้า” (ยน 1:30) ถ้อยคำเหล่านี้ แสดงให้เห้นถึงจิตวิญญาณแห่งการรับใช้ของท่าน ขณะที่ท่านได้เตรียมทางสำหรับองค์พระผู้ไถ่ และพร้อมที่จะหลีกทางให้เมื่อกระทำภารกิจของตนเองสำเร็จลงแล้ว

จิตวิญญาณแห่งการรับใช้ (Spirit of Service)

บางคนอาจคิดว่านักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้างสมควรที่จะได้รับ "รางวัล" หรือ “ตำแหน่ง”ที่โดดเด่นในการปฏิบัติศาสนกิจของท่านในที่สาธารณะจากพระเยซูเจ้า เมื่อนักบุญยอห์นจะรู้ว่าท่านได้ทำภารกิจสำเร็จแล้ว เมื่อเห็นพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระเยซูเจ้า ท่านไม่ได้ประกาศความสำเร็จของตนเอง แต่กลับประกาศความเป็นจริงของพระเยซูเจ้าที่ว่า "นี่คือลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก" (ยน 1:29)

นักบุญยอห์นได้เทศน์สอนประชาชน รวบรวม และอบรมศิษย์ของท่าน แต่ท่านไม่ได้ผูกมัดตัวเองไว้กับใครหรือสิ่งใด นี่เป็น "สัญลักษณ์ของนักการศึกษาที่แท้จริง" ขณะที่ท่านทำหน้าที่ของท่าน และไม่สนใจที่จะยึดติด ที่จะติดตาม หรือได้รับคำชมเชยในความสำเร็จ แต่ท่านได้ "เป็นพยานแล้วถอยหลังกลับไปเมื่องานของตนเองสำเร็จ เพื่อคนจำนวนมากจะได้มีความสุขที่ได้พบกับพระเยซูเจ้า"

อิสระจากสิ่งที่เรายึดติดต่างๆ (Freedom from attachments)

จิตวิญญาณแห่งการรับใช้ของนักบุญยอห์น และความสามารถในการถอยห่างออกไปเมื่อกระทำภารกิจสำเร็จแล้ว แสดงให้เห็นความสำคัญของความจำเป็นในการเป็นอิสระจากสิ่งผูกมัด เพราะมันง่ายที่จะ "ผูกมัด" กับตำแหน่งของเราในชีวิต ตัวตนของเรา กรได้รับความนับถือ และได้รับรางวัล

แม้ว่าจะเป็นธรรมดาที่จะปรารถนาให้เป็นที่รู้จัก แต่ "การรับใช้เกี่ยวข้องกับการให้เปล่า การดูแลผู้อื่นโดยไม่หวังผลประโยชน์สำหรับตนเอง" และอาจกลายเป็นเรื่องรอง เมื่อเรายึดติดกับความปรารถนาของตนเองมากขึ้น เช่นเดียวกับนักบุญยอห์น เราสามารถปลูกฝังคุณธรรมของการหลีกหนีในเวลาที่เหมาะสม และเป็นพยานว่าพระเยซูเจ้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรา

รู้ว่าเมื่อใดควรหลีกทาง (Knowing when to step aside)

บทบาทต่างๆ ที่ผู้คนอาจมี เช่น นักบวชที่ได้รับเรียกให้ประกาศข่าวดีและเฉลิมฉลองพิธีบูชาขอบพระคุณ เพื่อนำคนอื่นให้เข้ามาพบและเข้าใกล้กับพระเยซูเจ้า หรือพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยความเสียสละอันยิ่งใหญ่ เพื่อให้ลูกหลานได้มีทางเดินชีวิตของตัวเอง ช่วงเวลาแห่งการศึกษา การปรากฏตัว และการอยู่เคียงข้าง แม้ในหมู่เพื่อน คู่รัก หรือชีวิตในชุมชน เกี่ยวข้องกับการรับใช้เสมอ ไม่ใช่การควบคุม และการผูกมัดด้วยอัตตาของผู้อื่น

การรู้ว่าเมื่อใดควรหลีกหนี ปลดปล่อยตนเองจากความยึดติดในอัตตา และความปรารถนาของเรา เป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่จำเป็นในฐานะขั้นตอนชี้ขาด "เพื่อเติบโตในจิตวิญญาณแห่งการรับใช้"

ให้เราพิจารณาชีวิตของตนเอง และถามตนเองว่าเรายังมีที่ว่างสำหรับผู้อื่นในชีวิตของเราหรือไม่ เพื่อรับฟังพวกเขาอย่างเปิดเผย และยอมรับเสรีภาพของพวกเขา โดยไม่ต้องเรียกร้องการยอมรับในสิ่งที่เราทำเพื่อพวกเขา รู้วิธีที่จะชื่นชมยินดีเมื่อผู้คนเดินไปตามทางของตัวเอง และทำตามเสียงเรียกร้องของพวกเขา แม้ว่านั่นหมายความว่าเราต้องปล่อยมือจากพวกเขา เช่นเดียวกับที่เราชื่นชมยินดีในความสำเร็จของพวกเขาด้วยความจริงใจหรือไม่?

“ขอพระมารีย์ ผู้รับใช้ของพระเจ้า ช่วยเราให้เป็นอิสระจากสิ่งผูกมัด หลีกทางให้องค์พระผู้เป็นเจ้า และให้พื้นที่แก่ผู้อื่น”

“พี่น้องทั้งหลาย ขอให้เราอย่าลืมผู้คนที่ทารุณในยูเครนซึ่งกำลังทนทุกข์อย่างแสนสาหัส ขอให้เราอยู่ใกล้ชิดกับพวกเขาด้วยความคิด ด้วยความช่วยเหลือ และด้วยการอธิษฐานภาวนาของเรา”