บทที่ 3 ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระจิต



ตอนที่ 2 การประกาศความเชื่อของคริสตชน 
(จากหนังสือประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก  ข้อที่ 33-217)

           

บทที่ 3 ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระจิต

เมื่อพระศาสนจักรประกาศว่า “ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระจิต” หมายความว่าอะไร

       เป็นการประกาศยืนยันว่าพระจิตทรงเป็นพระบุคคลที่สามในพระตรีเอกภาพ “ทรงรับการสักการะและพระสิริรุ่งโรจน์ร่วมกับพระบิดาและพระบุตร” พระจิตเจ้า “ลงมาในดวงใจของเรา” (กท 4:6) ทำให้เราได้รับชีวิตใหม่เป็นบุตรของพระเจ้า

เหตุใดพันธกิจของพระบุตรและพระจิตจึงแยกออกจากกันไม่ได้

       พระบุตรและพระจิตทรงแตกต่างกันแต่ทรงแยกจากกันมิได้ ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงที่สุดแห่งกาลเวลาเมื่อพระบิดาทรงส่งพระบุตรมา พระองค์ทรงส่งพระจิตมาด้วยผู้ทรงรวมเรากับพระคริสตเจ้าในความเชื่อ จนทำให้เราในฐานะบุตรบุญธรรมสามารถเรียกพระเจ้าว่า “พ่อ” (รม 8:15)

พระนามที่เรียกขานพระจิตมีอะไรบ้าง

       “พระจิตเจ้า” เป็นพระนามของพระบุคคลที่สามในพระตรีเอกภาพศักด์สิทธิ์ พระเยซูเจ้าทรงเรียกพระองค์ว่าพระผู้บรรเทา  พระผู้แก้ต่างและพระจิตแห่งความจริง พันธสัญญาใหม่เรียกพระองค์ว่า พระจิตของพระคริสตเจ้า พระจิตขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระจิตของพระเจ้า พระจิตแห่งพระสิริรุ่งโรจน์และพระจิตแห่งพระสัญญา

สัญลักษณ์แห่งพระจิตคืออะไร

    สัญลักษณ์แห่งพระจิต เช่น น้ำทรงชีวิตที่หลั่งออกมาจากดวงพระทัยที่ถูกแทงของพระคริสตเจ้าและดับกระหายผู้ที่ได้รับศีลล้างบาป การเจิมด้วยน้ำมันซึ่งเป็นเครื่องหมายของศีลกำลัง ไฟซึ่งเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่ไฟนั้น ได้สัมผัสเมฆทั้งมืดมนและเจิดจ้าซึ่งใช้เผยแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า การปกมือเพื่ออัญเชิญพระจิตเจ้า นกพิราบที่เสด็จลงมาเหนือพระเยซูเจ้าและยังคงประทับอยู่เมื่อพระองค์ทรงทำพิธีล้าง

พระจิตตรัส “ผ่านทางบรรดาประกาศก” หมายความว่าอะไร

      คำว่าประกาศก หมายความว่าผู้ที่ได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้าให้พูดในนามของพระเจ้า พระจิตทรงทำให้คำพยากรณ์ในพันธสัญญาเดิมสำเร็จบริบูรณ์ไปในพระคริสตเจ้า ซึ่งเป็นการเผยแสดงธรรมล้ำลึกในพันธสัญญาใหม่

พระจิตได้ทรงกระทำอะไรให้สำเร็จไปในท่านยอห์นผู้ทำพิธีล้าง

       พระจิตได้ทรงกระทำให้สำเร็จไปในตัวยอห์น ผู้ทำพิธีล้าง ในการกระทำของท่านที่ได้รับพระบัญชาให้ “มาเตรียมรับการเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้า” (ลก 1:17) และให้ประกาศการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า ผู้ที่พระจิตเจ้าเสด็จลงมาประทับอยู่เหนือท่าน “ผู้นั้นคือผู้ที่ทำพิธีล้างเดชะพระจิตเจ้า” (ยน 1:33)

พระจิตทรงกระทำกิจการใดในพระนางมารีย์

       พระจิตได้ทรงกระทำให้การรอคอยและการเตรียมการต่างๆของพันธสัญญาเดิมเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระคริสตเจ้าสำเร็จสมบูรณ์ในพระนางมารีย์ ทรงกระทำให้พระนางเปี่ยมด้วยพระหรรษทาน และเป็นพรหมจารีย์ทรงครรภ์ ที่ให้กำเนิดพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงรับสภาพมนุษย์ เป็นพระมารดาของ”พระคริสต์ทั้งครบ” คือพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเศียรและพระศาสนจักรเป็นพระกายของพระองค์ พระนางมารีย์ประทับท่ามกลางอัครสาวกทั้งสิบสองในวันที่พระจิตเจ้าเสด็จลงมา เมื่อพระจิตเจ้าทรงเริ่ม “ยุคสุดท้าย” ด้วยการแสดงถึงพระศาสนจักร

พระเยซูคริสตเจ้ากับพระจิตในพันธกิจของพระองค์บนแผ่นดินนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างไร

       เริ่มจากการบังเกิดเป็นมนุษย์พระบุตรพระเจ้าได้รับการอภิเษกเป็นพระเมสสิยาห์โดยการเจิมของพระจิตในธรรมชาติมนุษย์ของพระองค์ ทรงเผยแสดงพระจิตในการสอน ทรงกระทำให้พันธสัญญากับบรรดาบรรพบุรุษสำเร็จบริบูรณ์ไป และทรงมอบพระองค์แก่พระศาสนจักรที่เพิ่งถือกำเนิดมา เมื่อทรงหลั่งพระจิตเหนือบรรดาอัครสาวกหลังการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์

ในวันสมโภชพระจิตเจ้า มีอะไรเกิดขึ้น

       ในวันสมโภชพระจิตเจ้า พระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงหลั่งพระจิตลงมาอย่างอุดมและทรงเผยแสดงพระบุคคลของพระองค์ที่เป็นพระเจ้า เพื่อว่าพระตรีเอกภาพได้รับการเผยแสดงอย่างเต็มที่พันธกิจของพระคริสตเจ้าและของพระจิตได้กลายเป็นพันธกิจของพระศาสนจักรซึ่งถูกออกไปเพื่อประกาศและเผยแผ่ธรรมล้ำลึกแห่งการรวมเป็นหนึ่งเดียวของพระตรีเอกภาพ

พระจิตทรงกระทำอะไรในพระศาสนจักร

       ทรงสร้างประทานชีวิตและทำให้พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์  พระจิตแห่งความรักได้ทรงคืนสภาพความคล้ายคลึงกับพระเจ้าซึ่งสูญเสียไปเพราะบาปให้แก่ผู้รับศีลล้างบาป  และทรงกระทำให้พวกเขาดำเนินชีวิตในพระคริสตเจ้า

พระคริสตเจ้าและพระจิตทรงทำอย่างไรในจิตใจของบรรดาสัตบุรุษ

       อาศัยศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ พระคริสตเจ้าทรงแจ้งถึงพระจิตและประทานพระหรรษทานของพระเจ้าแก่สมาชิกทั้งหลายแห่งพระวรกายของพระองค์ ซึ่งบังเกิดผลในชีวิตใหม่โดยพระจิตในที่สุด พระจิตยังทรงเป็นพระอาจารย์แห่งการภาวนาด้วย

           

แบบฝึกหัดบทที่ 3 ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระจิต