ก้าวไปกับโป๊ป #107 : วัยชราเปรียบเสมือนปรีชาญาณที่ถูกถักทอ (Pope at Audience)

#วัยชราเปรียบเสมือนปรีชาญาณที่ถูกถักทอ (‘Old age is where wisdom is woven’)

โอกาสเข้าฝ้าทั่วไปในวันพุธที่ 24 สิงหาคม 2022 ที่ผ่านมา พระสันตะปาปาฟรังซิสได้ทรงเทศน์สอนบรรดาผู้แสวงบุญต่อเนื่องในหัวข้อ “คุณค่าของวัยชรา” ณ หอประชุมเปาโลกที่ 6 นครรัฐวาติกัน ประเทศอิตาลี

โดยทรงนำบทจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโรม บทที่ 8 ข้อ 22-24 ซึ่งนักบุญเปาโลเปรียบเทียบความเจ็บปวดของการคลอดบุตร ว่าเปรียบได้กับ “การช่วยให้รอดพ้นด้านร่างกายของเรา”

 “เรารู้ดีว่า จนถึงเวลานี้ สรรพสิ่งกำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดราวกับสตรีคลอดบุตร มิใช่เพียงสรรพสิ่งเท่านั้น แม้แต่เราซึ่งได้รับผลิตผลครั้งแรกของพระจิตเจ้าแล้วก็ยังคร่ำครวญอยู่ภายใน ในเมื่อเรามีความกระตือรือร้นรอคอยให้พระเจ้าทรงรับเราเป็นบุตรบุญธรรม ให้ร่างกายของเราได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ เพราะเราได้รอดพ้นเพียงในความหวัง แต่ความหวังที่มองเห็นได้ก็ไม่ใช่ความหวัง เพราะสิ่งที่มองเห็นแล้ว เขาจะหวังไปทำไมอีกเล่า” (รม 8:22-24)

การสมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณที่ผ่านมา ทำให้เราได้เห็นภาพเป้าหมาย่สูงสุดในชีวิตของเรา แม้ว่าจะแตกต่างกันตามธรรมประเพณีของชาวตะวันตกและชาวตะวันออกก็ตาม

ชาวตะวันตก (ทวีปยุโรปและอเมริกา) เป็นภาพการถูกยกขึ้นสวรรค์ของพระแม่ที่ห้อมล้อมไปด้วยแสงสว่างอันรุ่งโรจน์ ส่วนชาวตะวันออก (เอเชีย) พิจารณาถึงภาพของพระแม่ที่ยืนเอนกาย ห้อมล้อมไปด้วยบรรดาอัครสาวก โดยอุ้มพระกุมารเยซูอยู่ในอ้อมแขนของพระนาง

#ความตายเป็นการเกิดใหม่ครั้งที่สอง (Death: a ‘second birth’)

การเกิดและการตายมีความสัมพันธ์กัน เช่นเดียวกับ การถูกยกขึ้นสวรรค์ของพระนางมารีย์ ก็มีความสัมพันธ์กับการเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูเจ้า สำหรับพระเยซูเจ้าที่เป็นพระเจ้า พระเทวภาพของพระองค์ที่เสด็จสู่สวรรค์ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สำหรับพระนางมารีย์ที่เป็นมนุษย์แล้ว การถูกยกขึ้นสวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณถือเป็นเรื่องไม่ธรรมดา

ความตายจึงเปรียบเสมือนเป็นการเกิดใหม่ครั้งที่สอง เมื่อเราได้กำเนิดออกมาจากครรภ์ของมารดา เราก็เป็นบุคคลเดียวกับที่เราได้เคยเป็นมาก่อน และเมื่อเราได้เกิดใหม่ในสวรรค์ เราก็ยังเป็นคนเดิมเช่นเดียวกันกับที่เราเคยเป็นบนแผ่นดินนี้

เช่นเดียวกับพระเยซูเจ้า ที่พระองค์สิ้นพระชนม์ และทรงกลับคืนพระชนมชีพ พระองค์ก็เป็นบุคคลเดียวกันกับที่พระองค์ทรงพระดำเนินอยู่บนแผ่นดินนี้ พระองค์ไม่ทรงสูญเสียความเป็นมนุษย์ ประสบการณ์ หรือแม้แต่พระวรกายของพระองค์ เพราะหากไม่มีสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ พระองค์ก็จะไม่ทรงเป็นพระองค์อีกต่อไป

ความจริงเหล่านี้ถูกเปิดเผย เมื่อพระเยซูผู้ทรงฟื้นคืนพระชนม์ทรงปรากฏต่อบรรดาสาวกของพระองค์หลังทรงได้กลับคืนพระชนมชีพ แสดงบาดแผลของพระองค์แก่พวกเขา และยังคงมีความสัมพันธ์กับพวกเขา

#ภาพลักษณ์ของเมืองสวรรค์ที่พระเยซูเจ้าทรงกล่าวถึง (Jesus’ festive images of heaven)

พระเยซูเจ้าทรงพุดถึงหลายครั้ง ว่าเมืองสวรรค์เปรียบได้กับงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส หรืองานเลี้ยงกับเพื่อนฝูง ภาพลักษณ์เหล่านี้ช่วยให้เราได้มีความหวังถึงโลกหน้า ว่าเราจะอยู่ในบรรยากาศแห่งความรักที่สร้างสรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ในวัยชรา มีรายละเอียดมากมายของชีวิตที่ได้ถูกสร้างขึ้น เช่น การกอดรัด รอยยิ้ม ท่าทาง ความพยายามที่น่าชื่นชม ความประหลาดใจที่ไม่คาดคิด ความร่าเริงเป็นกันเอง ความผูกพันที่ซื่อสัตย์

#ความเจ็บปวดและสัญญาณของร่างกายที่เพิ่มขึ้น (Pangs and promise of our risen body)

ในวัยชรา ปรีชาญาณต่าง ๆ ได้ถูกถักทอขึ้น ให้แสงสว่างแห่งชีวิตไปยังคนรุ่นหลัง และชุมชนทั้งหมด เช่นเดียวกับเมล็ดพืช ที่จะต้องถูกฝังลงดินเพื่อที่จะทำให้เติบโต ให้ดอกไม้และพืชผล ฉันใดก็ฉันนั้น นี่คือการเกิดใหม่ เช่นเดียวกันกับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้

ความตายและการเกิดใหม่ในเมืองสวรรค์ก็เช่นเดียวกัน ก็ต้องผ่านความเจ็บปวดและความอ่อนแรง แต่สิ่งที่เราจะได้ลิ้มรสในเมืองสวรรค์นั้น มากมายหลายเท่ากว่าสิ่งที่เราได้ลิ้มรสบนแผ่นดินนี้...