ก้าวไปกับโป๊ป #319 : นักบุญกาเตรีเทคักวิธาแสดงให้เห็นการกระทำธรรมดาๆก็สามารถบรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ได้

นักบุญกาเตรีเทคักวิธาแสดงให้เห็นการกระทำธรรมดาๆก็สามารถบรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ได้ (St. Káteri Tekakwitha shows ordinary acts can achieve great holiness)

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2023 ในระหว่างการเข้าเฝ้าทั่วไปในวันพุธ (Wednesday General Audience) พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงยกย่องความกระตือรือร้นในการเผยแพร่ศาสนาของนักบุญคาเทรี เทคักวิธา นักบุญชาวอเมริกันพื้นเมืองคนแรกของทวีปอเมริกาเหนือ โดยกล่าวว่า “ความศรัทธาของเธอเริ่มต้นในครอบครัวของเธอ ความทุกข์ทรมานของเธอดึงเธอไปที่ไม้กางเขน และการกระทำอันศักดิ์สิทธิ์ธรรมดา ๆ ของเธอให้แบบอย่างอันยิ่งใหญ่”

“การกระทำที่เงียบสงบทุกวันสามารถแสดงความบริสุทธิ์อันยิ่งใหญ่ได้”

พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงดำเนินคำสอนอย่างต่อเนื่อง หัวข้อ “ความกระตือรือร้นในการเผยแพร่ศาสนา” และวิธีการเป็นพยานยืนยันถึงพระวรสารของพี่น้องชายหญิงทั่วโลก จะสามารถเผยแพร่ความเชื่อของคริสตชนได้อย่างไร?

ความเชื่อในครอบครัว (Faith in the family)

พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงไตร่ตรองถึงนักบุญองค์นี้ว่า คาเทรีซึ่งเกิดทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก เป็นลูกสาวของหัวหน้าเผ่าโมฮอว์ก (Mohawk chief) และเป็นมารดาที่เป็นคริสตชนชาวอัลกอนควิน (Algonquin Christian mother) ผู้สอนให้เธอสวดภาวนาและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า

“พวกเราหลายคนได้รับการแนะนำให้รู้จักกับพระเจ้าเป็นครั้งแรกในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคุณแม่และคุณย่าของเรา”

การประกาศข่าวดีมักเริ่มต้นเช่นนี้ "ด้วยท่าทางที่เรียบง่ายและเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น พ่อแม่ช่วยให้ลูกเรียนรู้ที่จะพูดคุยกับพระเจ้าในการอธิษฐานภาวนา และบอกพวกเขาถึงความรักอันยิ่งใหญ่และเมตตาของพระองค์"

รากฐานความศรัทธาของนักบุญคาทารี และรากฐานความเชื่อของเราหลายคนที่พระสันตะปาปาตั้งข้อสังเกต เกิดขึ้นในลักษณะเช่นนี้

ความทุกข์ทรมานเป็นแรงบันดาลใจให้เธอรักไม้กางเขน (Sufferings inspired her love for the Cross)

ท่านมีแผลเป็นจากไข้ทรพิษตั้งแต่อายุยังน้อย "ความทุกข์ทรมานของเธอดึงเธอมาสู่ความรักอันยิ่งใหญ่ที่ไม้กางเขน" และ "การใกล้ชิดกับพระคริสตเจ้าในความรักแห่งการไถ่บาปของพระองค์ที่มีต่อมนุษยชาติ"

“เมื่อเราเผชิญหน้ากับความยากลำบากในการดำเนินชีวิต และการประกาศพระวรสาร เราอาจจะถูกล่อลวงให้ท้อแท้ ให้ลี้ภัยในความมั่นใจของเรา หรือปิดตัวเองให้อยู่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ ที่คิดเหมือนเรา”

“ชีวิตของนักบุญคาเทรี เทคักวิธา แสดงให้เราเห็นว่าทุกความท้าทายสามารถเอาชนะได้ถ้าเราเปิดใจรับพระเยซูเจ้า ผู้ทรงประทานพระหรรษทานให้แก่เรา เพื่อดำเนินชีวิตบนเส้นทางชีวิตคริสตชนต่อไปด้วยความสัตย์ซื่อและความอุตสาหะ"

ความศรัทธาและการอธิษฐานภาวนาอย่างลึกซึ้ง (Deep piety and prayer)

“ความศรัทธาและการอธิษฐานภาวนาอย่างลึกซึ้งของเธอ แสดงให้เห็นด้วยความซื่อสัตย์ต่อศีลศักดิ์สิทธิ์ สายประคำ และการพลีกรรมต่าง ๆ มาพร้อมกับความห่วงใยในงานเมตตาสงเคราะห์สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วย และสำหรับการสอนเด็ก ๆ ในความเชื่อ”

ชีวิตของนักบุญคาเทรีเป็น "ประจักษ์พยานเพิ่มเติมถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ความกระตือรือร้นในการทำงานแพร่ธรรมบ่งบอกถึงทั้งการรวมกันที่สำคัญกับพระเยซูเจ้า ได้รับการบำรุงเลี้ยงด้วยการอธิษฐานภาวนาและศีลศักดิ์สิทธิ์ และความปรารถนาที่จะเผยแพร่ความงดงามของข่าวสารของคริสตชนผ่านทางความซื่อสัตย์ต่อกระแสเรียกที่ได้รับมาโดยเฉพาะ"

แม้ว่าเธอจะได้รับการสนับสนุนให้แต่งงาน แต่เธอกลับต้องการอุทิศชีวิตของเธอให้กับพระเยซูเจ้าอย่างสมบูรณ์แทน เธอได้ปฏิญาณว่าจะถือพรหมจารีตลอดไปในวันที่ 25 มีนาคม 1679 ซึ่งตรงกับวันสมโภชการแจ้งสารเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภามนุษย์

“การเลือกของเธอ เผยให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของความกระตือรือร้นในการเผยแพร่ศาสนา นั่นก็คือ การอุทิศตนอย่างเต็มที่ต่อพระเจ้า”

ความสุขเงียบๆและการเปิดใจต่อพระเจ้า (Silent joy, openness to the Lord)

พระสันตะปาปาตรัสว่า “ที่กาเตรี เทคักวิธา” พระสันตะปาปาตรัส “เราพบสตรีผู้เป็นพยานถึงพระวรสาร ไม่ค่อยมีผลงานยิ่งใหญ่นัก เพราะเธอไม่เคยก่อตั้งคณะนักบวชหรือสถาบันการศึกษาหรือการกุศลใด ๆ เลย มีแต่ความยินดีอย่างเงียบ ๆ และ เสรีภาพแห่งชีวิตที่เปิดกว้างแก่องค์พระผู้เป็นเจ้าและผู้อื่น”

แม้ว่าในวันที่ 17 เมษายน 1680 เธอจะเสียชีวิตเมื่อายุได้เพียง 24 ปี แต่ชีวิตที่ผ่านมา เธอได้ทำตามกระแสเรียกที่เธอได้รับด้วยความเรียบง่าย รักและสรรเสริญพระเจ้า และสอนผู้ที่เธออาศัยอยู่ด้วยให้ทำแบบเดียวกัน คำพูดสุดท้ายของเธอ คือ “พระเยซูเจ้าข้า ข้าพเจ้ารักพระองค์”

การกระทำธรรมดาๆด้วยความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ (Ordinary actions with great faith)

พระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสว่า “ให้เรารับเอากำลังจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ดังเช่นที่นักบุญคาเทรี เทคักวิธาทำ จงเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตธรรมดา ๆ ในวิธีที่พิเศษ และด้วยเหตุนี้จงเติบโตในแต่ละวันด้วยความศรัทธา มีจิตสาธารณะ และเป็นพยานยืนยันอย่างกระตือรือร้นต่อพระเยซูเจ้า พลังของข่าวดีที่จะเกิดผลอันอุดมสมบูรณ์ในความศักดิ์สิทธิ์ ที่แสดงออกด้วยการกระทำอันเงียบสงบทุกวัน ซึ่งถึงกระนั้นก็มีพลังในการเปลี่ยนแปลงโลกของเรา”