พระศาสนจักรได้เน้นว่า คริสตชนเป็นลูกของพระเจ้า เมื่อเป็นลูกของพระเจ้า คริสตชนต้องเป็นเหมือนกับบิดาของตน คริสตชน “จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด” (ลก.6:36) โดยการ....

           “อย่า​ตัดสิน​เขา”(ลก.6:37)“เพราะ​พระ​บิดา​ไม่​ทรง​พิพากษาผู้ใดแต่​ทรง​มอบ​การ​พิพากษา​ทั้งหมด​ให้​พระ​บุตร”(ยน.5:22)

           เมื่อคริสตชนเป็นอิสระจากการตัดสินเพื่อนพี่น้อง คริสตชนก็สามารถให้อภัยและแบ่งปันสิ่งที่ตนเองมีแก่เพื่อนพี่น้องได้ (ลก.6:37-38)เพราะพระบิดาคือผู้ให้อภัยเสมอ พระเยซูสอนให้คริสตชนภาวนาต่อพระองค์ “โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า” (มธ.6:12)

           เมื่อคริสตชนได้ทำบาปผิดต่อพระเจ้า พระบิดาส่งพระบุตร “เสด็จ​มา​เพื่อ​ช่วย​สิ่ง​ที่​เสีย​ไป​ให้​รอด​พ้น”“ท่าน​ทั้ง​หลาย​คิด​อย่างไรถ้า​ชาย​คน​หนึ่ง​มี​แกะ​อยู่​ร้อย​ตัวแล้ว​แกะ​ตัว​หนึ่ง​บังเอิญ​หลงทางเขา​จะ​ไม่​ปล่อย​แกะ​เก้า​สิบ​เก้า​ตัว​ไว้​บน​ภูเขาเพื่อ​ค้นหา​แกะ​ตัว​ที่​หลง​ไป​หรือ(มธ. 6:11-12)

           พระบิดาเป็นดั่งบิดาผู้ใจดี (ลก 15: 11-32) บิดาสามารถพูดกับลูกทำผิดได้ว่า “เร็ว​เข้าจง​ไป​นำ​เสื้อ​สวย​ที่สุด​มา​สวม​ให้​ลูก​เรานำ​แหวน​มา​สวม​นิ้วนำ​รองเท้า​มา​ใส่​ให้”(ลก.15:22)“จงนำ​ลูก​วัว​ที่​ขุน​อ้วน​แล้ว​ไป​ฆ่าแล้ว​กินเลี้ยง​ฉลอง​กัน​เถิดเพราะ​ลูก​ของ​เรา​ผู้​นี้​ตาย​ไป​แล้ว​กลับ​มี​ชีวิต​อีกหาย​ไป​แล้วได้​พบ​กัน​อีก”แล้ว​การ​ฉลอง​ก็​เริ่ม​ขึ้น เพราะลูกของเราผู้นี้ตายไปแล้วกลับมีชีวิตอีกหายไปแล้วได้พบกันอีก”แล้วการฉลองก็เริ่มขึ้น”(ลก.15:23-24) “เรา​บอก​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า​ใน​สวรรค์​จะ​มี​ความ​ยินดี​เช่นนี้​เพราะ​คน​บาป​คน​หนึ่ง​กลับใจ​มาก​กว่า​ความ​ยินดี​เพราะ​คน​ชอบ​ธรรม​เก้า​สิบ​เก้า​คน​ที่​ไม่​ต้อง​การ​กลับใจ​ใหม่” (ลก.15:7)

           ดังนั้น “จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด” (ลก.6:36)

ภาวนา:​“ข้า​แต่​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ​พระ​เจ้า​ผู้​ยิ่งใหญ่” (ดนล. 9:4) “​พระ​กรุณา​และ​การ​อภัย​โทษ​เป็น​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า(ดนล.9:9)

ข้อตั้งใจ: “อย่าตัดสิน อย่ากล่าวโทษ ให้อภัย จงให้”(ลก.6:36-38)

คุณพ่อเอนก นามวงษ์

รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com