รำพึงพระวาจาประจำวัน วันที่ 4 มิถุนายน 2561 วันจันทร์สัปดาห์ที่ 9 เทศกาลธรรมดา {2ปต.1:2-7; สดด.91; มก.12:1-12} "เมื่อถึงเวลากำหนด เขาก็ใช้ผู้รับใช้คนหนึ่งไปหาคนเช่าสวน
พระวาจาแรกหรือคำพูดแรกที่พระเจ้าตรัสกับมนุษย์คือ “จงมีลูกมาก และทวีจำนวนขึ้นจนเต็มแผ่นดิน(ปฐก.1:28) พระเจ้าเมื่อสร้างมนุษย์ตามภาพลักษณ์ของพระองค์ พระองค์ต้องการให้มนุษย์บังเกิดผลนั่นเอง พระเยซูทรงเรียกพระองค์เองเป็น “เถาองุ่น”(ยน.15:5) เพื่อทรงยืนยันว่าผู้ที่อยู่กับพระองค์จะเกิดผลและหนทางที่พระองค์เปิดเผยให้กับเราทุกคนคือ หนทางที่จะเกิดผล“เราได้เลือกท่านมอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผลและผลของท่านจะคงอยู่”(ยน.15:16) พระเยซูเองได้เตือนอัครสาวกด้วยอุปมาเรื่องต้นมะเดื่อเทศไร้ผล ชีวิตของพวกเขาจะต้องบังเกิดผล(ลก.13:1-9) หากไม่บังเกิดผลพระเยซูเจ้าจะตรัสว่า “เมื่อทอดพระเนตรแต่ไกล ทรงเห็นมะเดื่อเทศต้นหนึ่งมีใบ จึงเสด็จเข้าไปทอดพระเนตรว่ามีผลหรือไม่ ทรงพบแต่ใบ เพราะมิใช่ฤดูมะเดื่อเทศพระองค์จึงตรัสแก่มะเดื่อเทศต้นนั้นว่า “ตั้งแต่นี้ต่อไป อย่าให้ใครได้กินผลของเจ้าอีกเลย” (มก.11:13-14) “เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่บรรดาศิษย์ผ่านมา ได้เห็นต้นมะเดื่อเทศเหี่ยวเฉาไปจนถึงราก”(มก.11:20) อุปมาเรื่องคนเช่าสวนชั่วร้าย (มก.12:1-12) เจ้าของสวนได้ส่ง ผู้รับใช้,บตรสุดที่รัก ไปรับส่วนแบ่งจากผลผลิตของสวน แต่ผู้เช่าสวนทุบตีบ้าง ฆ่าผู้รับใช้และบตุรของเจ้าของสวน พระเยซูเจ้าสอนว่า ชีวิตผู้ติดตามพระเยซูเจ้าจะต้องบังเกิดผลเสมอ แม้จะต้องสละชีวิตของตน พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่าถ้าเมล็ดข้าวไม่ได้ตกลงในดิน และตายไปมันก็จะเป็นเพียงเมล็ดเดียวเท่านั้นแต่ถ้ามันตายมันก็จะบังเกิดผลมากมาย”(ยน.12:24)
ภาวนา:จงวางใจในองค์พระเจ้า เพราะข้าฯ จะสรรเสริญพระองค์อีกพระองค์ทรงเป็นความรอด พระเจ้าของข้าฯ ข้อตั้งใจ:พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะมีความหวังในพระองค์
คุณพ่อเอนก นามวงษ์ รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com
|