รำพึงพระวาจาประจำวัน วันที่ 17 พฤษภาคม 2562 วันศุกร์ สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา {กจ.13:26-33; สดด. 2:6-11;ยน. 14:1-6} <<บัดนี้เขาทั้งหลายเป็นพยานยืนยันถึงพระองค์ต่อหน้าประชาชน>> {กจ.13:31}
บันทึกในหนังสือกิจการอัครสาวกแสดงให้คริสตชนได้ตระหนักว่า พระประสงค์ของพระเจ้าก็คือ สั่งในผู้ติดตาม สานุศิษย์ของพระองค์ต้องเป็นพยานถึงองค์พระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ{กจ.1:8; 2:32; 3:15; 10:39; 13:31} เวลาที่ต้องไปขึ้นศาล องค์ประกอบหนึ่งของกระบวนการยุติธรรมคือต้องมีพยาน เพื่อจะยืนยันถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้เป็นจริง น่าเชื่อถือ ซึ่งความน่าเชื่อถือก็ขึ้นอยู่กับว่าพยานฝ่ายไหนมีน้ำหนักมากกว่า คริสตชนได้เดินมาถึงครึ่งทางแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา ขณะนี้เรากำลังอยู่ในสัปดาห์ที่ 4 เทศนกาลปัสกา เราได้ตระหนักถึงการเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าหรือไม่? พระเยซูเจ้าทรงยืนยันถึงการเป็นพยานถึงพระองค์ เนื่องจาก พระเจ้าทรงรักมาก<<พระเจ้าทรงพิสูจน์ว่าทรงรักเรา เพราะพระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพื่อเราขณะที่เรายังเป็นคนบาป>>{รม.5:8}และ <<พระองค์มีพระประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดพ้นและรู้ความจริงที่สมบูรณ์>>{1ทธ.2:4} และเพื่อจะได้รับความรอดพ้น คริสตชนจำเป็นต้องยอมรับพระเยซูเจ้าเป็น<<องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าและพระเจ้าของข้าพเจ้า>>{ยน. 20:28} เมื่อคริสตชนตระหนักถึงความรักของพระเยซูเจ้า ของพระเจ้าที่มีต่อพวกเขา และยอมรับว่าพระเยซูเจ้าคือองค์พระเจ้าของเขาพวกเขาจะเป็นพยานยืนยันถึงพระองค์อย่างไม่มีข้อแม้ และข้อแก้ตัวแต่อย่างใดทั้งสิ้น ดังนั้น เพื่อให้พระเยซูเป็นที่ยอมรับในฐานะพระเจ้าของเรา เราต้องเป็นพยานถึงความจริงข้อนี้ให้บุคคลรอบข้างได้เชื่อในองค์พระคริสตเจ้า
>>พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่าน และท่านจะรับอานุภาพเพื่อจะเป็นพยาน ถึงเราในกรุงเยรูซาเล็มทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรียจนถึงสุดปลายแผ่นดิน<< {กจ.1:8}
คุณพ่อเอนก นามวงษ์ รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com
|