รำพึงพระวาจาประจำวัน วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2563 วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต {1ซมอ.16:1, 6-7, 10-13; สดด.23:1-6; อฟ.5:8-14; ยน.9:1-41} <<ชาวฟาริสีบางคนซึ่งอยู่ที่นั่นได้ยินพระวาจาเหล่านี้ จึงทูลถามพระองค์ว่า พวกเราก็ตาบอดด้วยใช่ไหม>>
พระเยซูเจ้าตรัสกับฟารีสี เป็นผู้นำที่ตาบอด<<วิบัติจงเกิดแก่ท่าน ผู้นำทางที่ตาบอด;..คนโง่เขลาและตาบอดเอ๋ย>> {มธ. 23:16-17} พระเยซูเจ้าตรัสกับอัครสาวก เป็นผู้ตาบอด<<มีตา แต่ไม่เห็น มีหู แต่ไม่ได้ยินหรือ ท่านจำไม่ได้หรือว่า เมื่อเราบิขนมปังห้าก้อนเลี้ยงคนห้าพันคน ท่านเก็บเศษที่เหลือได้เต็มกี่กระบุง>> {มก.8:18} พระเยซูเจ้าทรงเรียกพระศาสนจักรที่เมืองเลาดิเซียตาบอด<<ท่านพูดว่า ฉันร่ำรวย มีสมบัติมากมายและไม่ต้องการอะไรอีก แต่ท่านไม่รู้ว่าท่านเป็นคนอาภัพ น่าสงสาร ยากจน ตาบอดและเปลือยเปล่า>> {วว.3:17} ความหมายคำว่า “ตาบอด” ไม่ได้หมายความว่าตาบอดทางกายแต่ตาบอดทางจิตใจ, ทางจิตวิญญาณ เป็นผู้<<ที่ไม่มีความเชื่อ ซาตานพระของโลกนี้ ทำให้จิตใจของคนเหล่านั้นมืด เพื่อมิให้เขาแลเห็นแสงสว่างคือข่าวดีเรื่องพระสิริรุ่งโรจน์ของพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้า>> {2คร.4:4} มีหลาย ๆ ครั้งที่พระเยซูเจ้าทรงตรัสว่า พวกเราตาบอด บางคนยอมรับไม่ได้ ฟาริสียอมรับไม่ได้<<ที่คนเหล่านั้นตอบว่า “ท่านเกิดมาในบาปทั้งตัว แล้วยังกล้ามาสั่งสอนพวกเราอีกหรือ” แล้วจึงขับไล่เขาออกไป>> {ยน.9:34} และคนเหล่านี้จะเกลียดความสว่าง<<ที่ทุกคนที่ทำความชั่วย่อมเกลียดความสว่าง และไม่เข้าใกล้ความสว่างเกรงว่าการกระทำของตนจะปรากฏชัดแจ้ง>>{ยน.3:20} ที่สุดพวกเขาเกลียดพระเยซูเจ้า{ยน.9:5} และต้องการตรึงพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน<<หากยังคงกระทำผิดอีก ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นทุกข์กลับใจใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพราะเขาเหล่านั้นกำลังตรึงพระบุตรของพระเจ้าบนไม้กางเขนและประจานพระองค์อีกครั้งหนึ่ง>>{ฮบ.6:6} หากคริสตชนยอมรับว่าจิตวิญญาณของตนมืดบอด เขาเหล่านั้นจะขอเยียวยารักษาจากพระเยซูเจ้า<<ผู้หลับใหล จงตื่นเถิดจงลุกขึ้นจากบรรดาผู้ตายและพระคริสตเจ้าจะทรงส่องสว่างเหนือท่าน>>{อฟ.5:14} เทศกาลมหาพรตนี้เป็นการเดินทางฝ่ายจิต ให้เรายอมรับและรับการรักษาความมืดบอดทางวิญญาณของเรา
>>เราเป็นแสงสว่างส่องโลก ผู้ที่ตามเรามา จะไม่เดินในความมืด แต่จะมีแสงสว่างส่องชีวิต<< {ยน.8:12}
คุณพ่อเอนก นามวงษ์ รำพึงพระวาจาประจำวันได้ที่ www.kamsonchan.com
|