หอบาเบล พระคัมภีร์ต้องการจะสื่อและสอนเราในเรื่องอะไรกันแน่ เป็นเรื่องจริงมั้ย มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์หรือไม่?
เรื่องราวเกี่ยวกับลูกหลานของโนอาห์ ซึ่งอาศัยอยู่ในเมโสโปเตเมีย คิดจะ “สร้างเมืองและสร้างหอให้ยอดสูงเทียมฟ้า” (ปฐก 11:4) เป็นเรื่องจริงหรือไม่? คำตอบคือ “ไม่จริง”
แต่เรื่อง “จริง” ที่ยังพบเห็นซากปรักหักพังหลงเหลืออยู่หลายแห่ง ก็คือวิหารโบราณของชาวเมโสโปเตเมียที่เรียกว่า Ziggurat วิหารอันใหญ่โตนี้มีโครงสร้างเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นมีขนาดลดหลั่นไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นบนสุด ห้องชั้นบนสุดเป็นตัวแทนของสวรรค์ ตรงกึ่งกลางห้องจะมี “เทพเจ้า” ของชาวเมโสโปเตเมียประทับอยู่บนบัลลังก์ ในสมัยต่อมา กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้สร้างหอทำนองนี้ขึ้นใหม่ในบาบิโลน แม้แต่ปิรามิดของชาวอียิปต์และวิหารของชาวมายันในอเมริกากลางก็สะท้อนการออกแบบของหอบาเบลนี้
กระนั้นก็ตาม สิ่งก่อสร้างเหล่านี้มิได้สะท้อนความยิ่งใหญ่ทางด้านก่อสร้างของชาวเมโสโปเตเมีย แต่กลับสะท้อนความหยิ่งจองหองและต้องการละทิ้งพระเจ้าผู้ทรงสั่งโนอาห์และบรรดาบุตรว่า “จงมีลูกมากๆ ทวีจำนวนขึ้นจนเต็มแผ่นดิน” (ปฐก 9:1) แต่พวกเขากลับต้องการสร้างเมือง สร้างหอคอย สร้างชื่อเสียง “เพื่อจะไม่ต้องกระจัดกระจายกันไปทั่วแผ่นดิน” (ปฐก 11:4)
ปีศาจเกือบจะประสบความสำเร็จอีกครั้งในการครอบงำมนุษยชาติ เหมือนที่มันเคยประสบความสำเร็จมาแล้วเมื่อคราวที่บิดามารดาคู่แรกของเราทำบาปกำเนิด รวมทั้งเมื่อก่อนเกิดน้ำมหาวินาศด้วย
สิ่งที่พระคัมภีร์ต้องการสื่อและสอนเราอยู่ตรงพระดำรัสของพระเจ้าที่ฟังดูออกจะแปลกๆ สักหน่อย “ดูซิ เขาทุกคนเป็นชนชาติเดียวกัน มีภาษาเดียวกัน นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของการงานของเขา บัดนี้ ไม่มีอะไรที่เขาอยากทำแล้วทำไม่ได้” (ปฐก 11:6) พระองค์จึงทรง “ทำให้ภาษาของมนุษย์สับสนวุ่นวาย จนเขาไม่เข้าใจกันอีกต่อไป ทรงกระทำให้เขากระจัดกระจายจากที่นั่นไปทั่วแผ่นดิน” (ปฐก 11:7-8)
เราอาจสงสัยว่าลำพัง “ภาษา” จะทำให้มนุษย์ถลำลึกชนิดที่ “ไม่มีบาปอะไรที่เขาอยากทำแล้วทำไม่ได้” จริงๆ หรือ?
เพื่อให้เห็นว่าหนทางของพระเจ้าที่ทรงทำให้ภาษาของมนุษย์หลากหลายนั้นถูกต้อง เราลองนึกภาพดูสิว่าโลกของเราจะเป็นอย่างไรหากมนุษย์ทุกคนพูดภาษาเดียวกันเหมือนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
เพราะฉะนั้น การที่พระเจ้าทรงแทรงแซงโครงการสร้างหอบาเบลด้วยการทำให้ภาษาของมนุษย์สับสนวุ่นวาย และทำให้มนุษย์กระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดินนั้น ต้องนับว่าพระองค์ทรงกระทำไปด้วยความรักและด้วยวัตถุประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ กล่าวคือเพื่อยับยั้งหนทางของปีศาจ อย่างแท้จริง
ที่สุด ในวันเปนเตกอสเต พระองค์ทรงทำให้มนุษย์จากทุกชาติทั่วโลกเข้าใจภาษาเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง (เทียบ กจ 2:1-11)