ความหมายแท้จริง “เทศกาลคริสต์มาส”
พระเจ้าทรงเป็นความรัก (1 ยน 4:16)
ความรักของพระเป็นเจ้าต่อมนุษย์ ปรากฎเด่นชัดอย่างยิ่งในการรับเอากายบังเกิดเป็นมนุษย์
“พระเป็นเจ้าทรงรักโลกมาก จนถึงกับประทานพระบุตรแต่องค์เดียวแก่เรา” (ยน 3:16)
คนโดยทั่วไป จะรับรู้ว่า วันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันฉลองคริสต์มาสของชาวคริสต์ทั้งหลาย และเป็นวันประสูติของพระเยซูเจ้า โดยมีสัญลักษณ์คือ ซานตาครอส ต้นคริสต์มาส ของขวัญ การ์ดอวยพร ประโยคคำพูด “Merry Christmas” และงานรื่นเริง เป็นที่น่าสังเกตว่า โดยทั่วไปวันฉลองคริสตมาส จะเป็นวันฉลองเชิงพาณิชย์มากกว่าวันฉลองด้านศาสนา
สำหรับคริสตชน วันฉลองคริสตมาสหรือเทศกาลคริสตมาส ต้องมีความหมายมากกว่าเรื่องพาณิชย์หรืองานรื่นเริง พระอัครสังฆราชราชฟูลตัน ชีน (Archbishop Fulton J. Sheen: 1895-1979) ชาวอเมริกัน ซึ่งมีชื่อเสียงในการเทศน์สอนทางโทรทัศน์ ท่านพูดหัวข้อ “The True Meaning of Christmas” ท่านได้กล่าวว่า “พระเป็นเจ้ารักมนุษย์ก่อนลงมา (come down) บังเกิดเป็นมนุษย์”
“พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร เพราะพระเจ้าทรงส่งพระบุตรมาในโลกนี้มิใช่เพื่อตัดสินลงโทษโลกแต่เพื่อโลกจะได้รับความรอดพ้นเดชะพระบุตรนั้น” (ยน 3:16-17)
การฉลองคริสตมาส จึงเป็นวันที่เราฉลองความรักและความเมตตาของพระเป็นเจ้าที่มีต่อมนุษย์ทุกคน “พระเยซูเจ้าทรงเป็นภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์ขององค์พระเจ้า” (ฮบ 1:3) “พระองค์ทรงเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้าที่เรามองไม่เห็น ทรงเป็นบุตรคนแรกในบรรดาสิ่งสร้างทั้งปวง” (คส 1:15)
พระสันตะปาปาฟรังซิส ได้เทศน์วันคริสต์มาส ปี 2013 ว่า “วันนี้เป็นวันเผยแสดงของพระเยซูเจ้า ที่เข้ามาในประวัติศาสตร์มนุษย์ มาร่วมเดินทางพร้อมกับมนุษย์ พระองค์ทรงบังเกิดจากพระแม่มารีย์ เป็นพระเจ้าแท้และมนุษย์แท้ พระองค์ทรงปล่อยเราเป็นอิสระจากความมืด สู่ความสว่างในพระองค์ ทรงเปิดเผยความเมตตา ความรักของพระบิดาเจ้า” 1 การเทศน์ของพระสันตะปาปาได้ยืนยันพระวรสารของนักบุญยอห์นว่า “พระเจ้าทรงเป็นความสว่าง และไม่มีความมืดใดๆ อยู่ในพระองค์เลย” (1 ยน 1:5)
หนังสือคำสอนชีวิตจิตฉบับสมบูรณ์ของนักบุญเทเรซา แห่งสีชีเออช์ บทที่ 1 เขียนโดยคุณพ่อฟรังชัวส์ ยามาร์ต โอ.ชี.ดี ได้เขียนไว้ว่า “คำสอนที่พระเยซูเจ้าทรงนำมาสู่โลก คือข่าวประเสริฐหรือพระวรสาร เป็นการเผยแสดงความรักที่ไม่รู้ลบเลือนของพระเป็นเจ้าต่อมนุษย์” 2
ความรักของพระเป็นเจ้าต่อมนุษย์ ปรากฎเด่นชัดอย่างยิ่งในการรับเอากายบังเกิดเป็นมนุษย์ “พระเป็นเจ้าทรงรักโลกมาก จนถึงกับประทานพระบุตรแต่องค์เดียวแก่เรา” (ยน 3:16) ไม่เพียงแต่ประทานพระบุตรแก่เราเท่านั้น แต่เพราะเห็นแก่เรา พระเป็นเจ้าจึงทรงให้พระองค์รับทรมานอย่างสาหัส และรับความตายบนไม้กางเขนเยี่ยงอาชญากร นักบุญยอห์นและนักบุญเปาโล กล่าวย้ำพระวาจาของพระคริสตเจ้าหลายครั้งในจดหมายของท่าน เช่น นักบุญยอห์นกล่าวว่า “ด้วยความรักนี้พระเป็นเจ้าได้ส่งพระบุตร เพื่อชดเชยบาปของเรา” (อฟ 5:2 ; รม 5:8) 3
ที่พ่อยกบทความมากล่าวอ้างทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพระวรสารนักบุญยอห์น นักบุญเปาโล การเทศน์ของพระสันตะปาปาฟรังซิส การพูดของพระอัครสังฆราช และงานเขียนของพระสงฆ์ ต่างยืนยันว่า “พระเป็นเจ้าทรงเป็นความรัก” (1 ยน 4:16)บังเกิดมาเพื่อรักมนุษย์ ชดเชยบาปของมนุษย์ทุกคน
ด้วยเหตุนี้ พระศาสนจักรไม่เคยอ่อนล้าที่จะขับเพลงสรรเสริญสิริโรจนาแห่งราตรีนั้น
วันนี้ พรหมจารีให้กำเนิดองค์นิรันดรแก่โลก
และแผ่นดินก็ถวายถ้ำแด่องค์พระที่ไม่มีใครเข้าถึง
ทูตสวรรค์และชุมพาบาลสรรเสริญพระองค์
และพระยาสามองค์ก็ก้าวไปพร้อมกับดวงดาว
เพราะพระองค์ได้ทรงบังเกิดเพื่อเรา
กุมารน้อย พระเจ้านิรันดร
(คำสอนของพระศาสนจักร ข้อ 525)
คริสต์มาสปีนี้ นอกจากเตรียมการฉลองภายนอกแล้ว อย่าลืมขอบคุณความรักและความเมตตาของพระเป็นเจ้าที่มีต่อเรา แสดงกตัญญูต่อพระเป็นเจ้าในความรักของพระองค์ โดยพ่อขอยกคำของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู ที่ได้พูดกับคุณแม่อักแนสวว่า “พันธกิจของลูก (นักบุญเทเรซา) ทำให้ผู้อื่นรักพระเป็นเจ้าเหมือนที่ลูกรักพระองค์” 4
1 taken from__http://www.catholicnewsagency.com/news/jesus-is-the-meaning-of-life-and-history-pope-preaches-on-christmas/
เทศน์คืนวันที่ 24 ธันวาคม 2013, มหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน
2 อารามนักบุญเทเรซา แห่งพระกุมารเยซู คาร์แมล จันทบุรี, คำสอนชีวิตจิตฉบับสมบูรณ์ของนักบุญเทเรซา แห่งลีชีเออช์, บทที่ 1 หน้า 1
3 อารามนักบุญเทเรซา แห่งพระกุมารเยซู คาร์แมล จันทบุรี, คำสอนชีวิตจิตฉบับสมบูรณ์ของนักบุญเทเรซา แห่งลีชีเออช์, บทที่ 1 หน้า 1
4 อารามนักบุญเทเรซา แห่งพระกุมารเยซู คาร์แมล จันทบุรี, คำสอนชีวิตจิตฉบับสมบูรณ์ของนักบุญเทเรซา แห่งลีชีเออช์, บทนำ หน้า xvii