การร่วมฉลองครบรอบ 100 ปี
แม่พระฟาติมา
ปี 2017 เป็นช่วงเวลาที่คริสตชนฉลองการประจักษ์ของพระแม่มารีย์แก่เด็ก 3 คน ยาชินทา ฟรังซิสโกและลูเชียอา ที่ฟาติมา ประเทศโปรตุเกส ครบรอบ 100
สิ่งสำคัญในการร่วมฉลองครบรอบ 100 ปีแม่พระฟาติมา คงไม่ใช่เพียงไปแสวงบุญที่ฟาติมา โปรตุเกส วุ่นกับการถ่ายรูปกับสถานที่ที่เราไปแสวงบุญ ตื่นเต้นที่ได้ไปฟาติมา หรือแค่ได้ไปสวด ณ สถานที่จริง ที่แม่พระประจักษ์ กลับจากแสวงบุญนั้นแล้ว ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตคริสตชนของเรา
สิ่งสำคัญในการร่วมฉลองครบรอบ 100 ปีแม่พระฟาติมา คือ เราต้องตระหนักถึงสารของพระแม่มารีย์ที่บอกกับเรา และตอบสนองข่าวสารของพระแม่มารีย์ สิ่งที่พระแม่มารีย์บอกกับเราลูก ๆ ของแม่คือ แก่นแท้ของข่าวดีที่พระเยซูเจ้าประกาศและสอนเรานั่นเอง
สิ่งสำคัญในการร่วมฉลองครบรอบ 100 ปีแม่พระฟาติมา ต้องช่วยนำเราให้เข้าใกล้พระเยซูเจ้ามากขึ้น
วันที่ 13 พฤษภาคม 1981 เมห์เมต อาลี อาห์จา ชายชาวตุรกีผู้แฝงตัวท่ามกลางฝูงชน ที่กำลังรอคอยเข้าเฝ้านักบุญสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ณ จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ได้สาดกระสุนใส่พระองค์จนบาดเจ็บสาหัส
วันที่ 13 พฤษภาคม 1982 บทเทศน์ของนักบุญพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ในโอกาสที่ท่านมาแสวงบุญเพื่อโมทนาคุณพระแม่มารีย์ที่ปกป้องพระองค์จากการลอบสังหารท่านได้เทศน์ว่า “สารของพระแม่มารีย์เป็นแก่นแท้ของพระวรสาร พระแม่มารีย์บอกให้ลูก ๆ กลับใจ ใช้โทษบาป นี่เป็นข่าวสาร เป็นเครื่องหมายแห่งกาลเวลาในสมัยปัจจุบันอย่างแท้จริง”
นักบุญสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ต้องการจะบอกอะไรแก่เรา? พระองค์ทรงเรียกร้องให้เราตระหนักถึงสารของแม่พระและปฏิบัติตามอีกครั้งหนึ่งคือ บาป กลับใจและชดเชยบาป
ดังนั้น สิ่งสำคัญในการร่วมฉลองครบรอบ 100 ปีแม่พระฟาติมา คือ เราจะต้อง “กลับใจ” ตัวของเรานั่นเองและปฏิบัติตามคำขอของพระแม่มารีย์
ตอบรับคำขอของพระแม่มารีย์ที่ฟาติมา
1.หยุดทำบาปต่อพระเยซูเจ้า (13 ตุลาคม 1917)
การประจักษ์ของพระแม่มารีย์ครั้งสุดท้ายในวันนี้ 13 ตุลาคม แม่พระได้ตรัสว่า
“อย่าทำเคืองพระทัยพระเจ้าอีกเลย เพราะมีผู้กระทำผิดต่อพระองค์มากเกินไปแล้ว”
เวลาที่แม่พระตรัสประโยคนี้ แม่พระตรัสด้วยใบหน้าที่เศร้า หากเราไตร่ตรองให้ดี ๆ มองไปรอบ ๆ สิ่งที่เกิดขึ้น เช่น การทำแท้ง, รักร่วมเพศ, การฆ่ากัน, การหมิ่นเชื้อชาติ, การกดขี่คนจน, การค้ามนุษย์, การทำผิดต่อสามี-ภรรยาของตน และอื่น ๆ
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นบาปที่กระทำเคืองพระทัยของพระเยซู โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่ได้ทำบาปหนัก
บาปหนัก (Mortal sin)
X เป็นบาปที่ทำให้เป็นที่เคืองพระทัยพระเป็นเจ้าโดยตรง
X เป็นบาปที่ทำให้เราปฏิบัติต่อเพื่อนพี่น้องในทางลบ
X บาปหนักทำให้มนุษย์เป็นทาสของปีศาจอย่างแท้จริง
X บาปหนัก ทำลายความรักในใจมนุษย์อันเป็นเหตุของการฝ่าฝืนธรรมบัญญัติของพระเจ้าในข้อหนัก (คำสอนพระศาสนจักร 1855)
หนังสือคำสอนพระศาสนจักรข้อ 1854- 1864 ระบุว่าการกระทำของบุคคลหนึ่งนั้นเป็นบาปหนัก มีดังต่อไปนี้
1. เป็นเรื่องที่ร้ายแรง การกระทำนั้นต้องเป็นเรื่องที่ร้ายแรงในตัวเอง หรืออย่างน้อยบุคคลนั้นก็ต้องคิดไว้ก่อนแล้วว่า เป็นความผิดที่ร้ายแรง
2. เป็นเรื่องรู้ตัวเต็มที่และตั้งใจทำจริง บุคคลต้องรับรู้อย่างชัดเจนในเวลาที่กระทำว่าเป็นความผิดร้ายแรงและขัดกันกับพระเจ้า แต่ถ้าเขาลืม หรือกระทำพลาดไป หรือกำลังสับสนหรือตื่นเต้นมาก จนไม่สามารถคิดได้ชัดเจน ก็ไม่ถือว่าบุคคลนั้นทำบาปหนัก
3. เป็นเรื่องเจตนากระทำ บุคคลต้องเลือกสิ่งที่รู้ว่าผิดอย่างอิสระ
บาปหนักเป็นการลดค่าแห่งชีวิตเบื้องต้นคือความรัก จึงเรียกร้องให้เริ่มต้นใหม่ด้วยพระเมตตาของพระเป็นเจ้า และการกลับใจ (คำสอนพระศาสนจักร 1856)
ดังนั้น พระแม่มารีย์ ประจักษ์ที่ฟาติมา มีพระประสงค์ จะนำเรามนุษย์กลับไปหาพระเป็นเจ้า และขอให้เราหยุดทำเคืองพระทัยพระเยซูเจ้า ให้เราดำเนินชีวิตชีวิตด้วยความซื่อสัตย์ต่อพระเป็นเจ้า, ตามพระหรรษทานที่ผ่านทางศีลศักดิสิทธิ์ต่าง ๆ
ตอบสนองคำขอของพระแม่มารีย์ที่ฟาติมา
/ คริสตชนต้องหันหลังให้กับบาป วอนขอพระเมตตาจากพระเป็นเจ้า
/ รับศีลอภัยบาป ณ ที่แก้บาป จะเป็นการพบปะระหว่างเรากับพระเป็นเจ้า ผ่านทางพระสงฆ์
/ ทำพลีกรรมชดเชยบาปของตนเอง แม่พระตรัสกับเด็กทั้งสามว่า "หนูเต็มใจถวายพลีกรรม และความยากลำบากต่าง ๆ แด่พระเป็นเจ้า เพื่อใช้โทษบาปมากมายที่ผิดแสลงพระทัยพระองค์ไหม?...
หากเราไม่ทำเคืองพระทัยพระเยซู สันติสุขเกิดขึ้นในใจของเรา เมื่อสันติสุขมีในใจของเรา เราก็แสดงออกซี่งความรักต่อเพื่อนพี่น้องรอบข้าง
ให้เราตอบรับคำขอของพระแม่มารีย์ที่ฟาติมา ด้วยถ้อยคำของพระแม่มารีย์ว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” (ลก. 1:38)
(อ่านต่อฉบับหน้า)