(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)
ความเดิมตอนที่ ๓ พระเยซูเจ้าใช้เวลานานเพื่อการภาวนาสำหรับภารกิจของพระองค์ เช่น การเลือกอัครสาวก พระองค์ภาวนาตลอดคืน และพระเยซูเจ้าไม่ได้ภาวนาสำหรับภารกิจของพระองค์เท่านั้น แต่ยังสอนเราให้ภาวนาสำหรับผู้อื่นด้วย เช่นพระเยซูเจ้าภาวนาเพื่อความเชื่อของเปโตร (ลูกา 22:32) และอัครสาวกคนอื่น ๆ ด้วย (ยอห์น 17:6-26)
ไม่เพียงแต่ภาวนาสำหรับอัครสาวกเท่านั้น พระองค์ยังภาวนาสำหรับผู้ที่เชื่อในพระองค์อีกด้วย (ยอห์น 17) ซึ่งรวมทั้งคุณผู้อ่านทุกท่านด้วยการภาวนาของพระเยซูเพื่อเราทุกคน ไม่ใช่พระองค์นึกอยากจะสวดให้เราก็สวด สักแต่สวดให้เราเท่านั้น แต่เบื้องลึกเบี้องหลังที่พระเยซูเจ้าภาวนาให้เรานั้นมาจาก “ความรัก”
“ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนาสำหรับเขาเหล่านี้ ข้าพเจ้ามิได้อธิษฐานภาวนาสำหรับโลก แต่สำหรับผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้า เพราะเขาเป็นของพระองค์ ทุกสิ่งที่เป็นของข้าพเจ้า เป็นของพระองค์ ทุกสิ่งที่เป็นของพระองค์ ก็เป็นของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้รับสิริรุ่งโรจน์โดยทางเขา ข้าพเจ้าไม่อยู่ในโลกอีกต่อไป แต่เขายังอยู่ในโลก และข้าพเจ้ากำลังกลับไปเฝ้าพระองค์
ข้าแต่พระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ โปรดเฝ้ารักษาบรรดาผู้ที่ทรงมอบให้ข้าพเจ้าไว้ในพระนามของพระองค์ เพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนกับพระองค์และข้าพเจ้าเมื่อข้าพเจ้าอยู่กับบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเฝ้ารักษาเขาเหล่านั้นไว้ในพระนามของพระองค์ ข้าพเจ้าเฝ้ารักษาไว้ และไม่มีผู้ใดพินาศ"
พูดง่าย ๆ ก็คือ เพราะความรักของพระองค์ที่มีต่อเราก่อน พระองค์ก็ภาวนาเพื่อเรา พระเยซูเจ้าต้องการจะบอกเราว่า การภาวนาเพื่อผู้อื่นนั้น ต้องมีแรงบันดาลใจหรือแรงขับมาจากความรักนั่นเอง
จากตัวอย่างการภาวนาของพระเยซูเจ้าที่มาจากดวงหฤทัยแห่งความรักที่มีต่อเรา เป็นเสมือนแรงดลใจที่ทำให้อัครสาวกปรารถนาจะภาวนาแบบพระองค์บ้าง เห็นได้จากพระวรสารของนักบุญลูกาบทที่ 11 ข้อ 1
“วันหนึ่ง พระเยซูเจ้าทรงอธิษฐานภาวนาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อทรงอธิษฐานจบแล้ว ศิษย์คนหนึ่งทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า โปรดสอนเราให้อธิษฐานภาวนาเหมือนกับที่ยอห์นสอนศิษย์ของเขาเถิด”
ดังนั้น การภาวนาที่ไหลมาจากธาร “ความรัก” ภายในตัวของเรา จะสร้างแรงบันดาลใจให้คนรอบข้าง ปรารถนาที่จะภาวนาด้วย
เราลองหันกลับมาไตร่ตรองตนเองสักนิด เวลาที่เราภาวนาเพื่อคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นใคร เราภาวนาด้วยท่าทีอะไร? ด้วยความรักภายในไหม? มีความรักต่อเพื่อนพี่น้องมาเกี่ยวข้องไหม? หรือ เป็นหน้าที่ที่ต้องภาวนาให้คนเหล่านั้นเท่านั้น? หรือ เขาเหล่านั้นขอ ฉันเลยภาวนาให้เท่านั้น?
ถ้าเป็นแบบนี้ เราต้องใช้เวลาสักหน่อย ในอ่านพระวรสารของนักบุญยอห์นบทที่17 ซ้ำแล้วซ้ำอีก ให้ซึบซับเข้าไปในหัวใจของเราให้ได้……..
(ติดตามตอนต่อไป)