(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)
- คริสตชนเชื่อพระคัมภีร์ พระคัมภีร์คือ หนังสือที่บรรจุพระวาจาของพระเป็นเจ้า ที่ได้รับการบันทึกลงไว้ด้วยการดลใจของพระจิตเจ้า พระศาสนจักร มารดาศักดิ์สิทธิ์ อาศัยความเชื่อที่สืบจากอัครสาวกถื่อว่าหนังสือทุกเล่มในพันธสัญญาเดิมและในพันธสัญญาใหม่ (DV 11)พระวาจาของพระเป็นเจ้าเป็นแรงบันดาลใจ ค้ำจุนและเป็นพลังของพระศาสนจักร เป็นพละกำลังแห่งความเชื่อ เป็นอาหารเลี้ยงวิญญาณ เป็นธารบริสุทธิ์ไม่มีวันเหือดแห้งของชึวิตฝ่ายวิญญาณสำหรับบรรดาบุตรแห่งพระศาสนจักร (DV 21)
“ทุกถ้อยคำในพระคัมภีร์ได้รับการดลใจจากพระเจ้าและมีประโยชน์เพื่อสั่งสอนว่ากล่าวตักเตือนให้ปรับปรุงแก้ไขและอบรมให้ดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรมคนของพระเจ้าจะได้เตรียมพร้อมและพร้อมสรรพเพื่อกิจการดีทุกอย่าง”(2ทธ. 3:1617) “เพราะไม่เคยมีถ้อยคำใดของบรรดาประกาศกที่มาจากเจตนารมณ์ของมนุษย์ แต่มนุษย์กล่าวถ้อยคำซึ่งมาจากพระเจ้าตามที่พระจิตเจ้าทรงดลใจ”(2ปต. 1:21) |
- คริสตชนเชื่อในพระเป็นเจ้า“ชาวอิสราเอลเอ๋ย จงฟังเถิด พระยาห์เวห์ ทรงเป็นพระเจ้าของเรา พระยาห์เวห์มีเพียงพระองค์เดียว(ฉธบ. 6:4); พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “บทบัญญัติเอกก็คือ อิสราเอลเอ๋ย จงฟังเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของเราทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงพระองค์เดียว(มก. 12:29)ทั้งนี้เพราะมีพระเจ้าเพียงพระองค์เดียว และพระเจ้ากับมนุษย์ก็มีคนกลางแต่เพียงผู้เดียวซึ่งเป็นมนุษย์คนหนึ่ง คือพระคริสตเยซู(1ทธ. 2:5), พระองค์ทรงเป็นพระผู้สร้าง
“เมื่อแรกเริ่มนั้น พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดินแผ่นดินยังเป็นที่ร้างไร้รูปร่าง ความมืดมิดปกคลุมอยู่เหนือทะเลลึก และลมพายุแรงกล้า พัดอยู่เหนือน้ำ”(ปฐก. 1:1-2) “เพราะในหกวัน พระยาห์เวห์ทรงสร้างฟ้า แผ่นดิน ทะเล และสรรพสิ่งที่มีอยู่ในที่เหล่านี้ แต่ในวันที่เจ็ด พระองค์ทรงพักผ่อน เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์ทรงอวยพระพรวันสับบาโต และทรงทำให้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์”(อพย. 20:11) “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ผู้เดียวทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเนรมิตท้องฟ้า สวรรค์สูงสุดและดวงดาวทั้งหลาย ทรงเนรมิตแผ่นดินและทุกสิ่งที่อยู่บนแผ่นดิน ทรงเนรมิตทะเลและทุกสิ่งที่อยู่ในทะเล พระองค์ประทานชีวิตแก่ทุกสิ่ง และดวงดาวบนท้องฟ้าถวายนมัสการพระองค์”(นหม. 9:6) |
|
(ติดตามตอนต่อไป)