(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)
เมืองโครินธ์นี้เป็นเมืองท่าใหญ่และมีพลเมืองมากเมืองโครินธ์เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมกรีกที่ดึงดูดปรัชญาและศาสนาทุกประเภทมารวมกันและเป็นเมืองที่เป็นเมืองที่มีความเสื่อมทางศีลธรรม เมืองโครินธ์อาจสร้างปัญหาน่าลำบากใจสำหรับสำหรับคริสตชนที่กลับใจใหม่ ซึ่งคริสตชนส่วนใหญ่เป็นคนยากจน(1คร 1:26-28)1
คริสตชนเมืองโครินธ์มีปัญหาหลายเรื่อง เรื่องความประพฤติ เช่น การแตกแยกและการเป็นตัวอย่างไม่ดีความผิดเรื่องทางเพศ หรือแตกแยกกันในเรื่องข้อคำสอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคำสอนเรื่อง “การกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า”
ดังนั้นเปาโลจึงได้เขียนจดหมายถึงเพื่อแก้ปัญหาต่างๆเหล่านี้
นักบุญเปาโลได้เขียนจดหมายถึงชาวโครินธ์ฉบับที่ 1 บทที่ 15 ข้อที่ 17 ว่า “ถ้าพระคริสตเจ้ามิได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ ความเชื่อของท่านก็ไร้ความหมายและท่านก็ยังคงอยู่ในบาป" นักบุญเปาโลได้บอกกับคริสตชนว่า เหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้าทรงยอมรับทรมาน ถูกเฆียนตี ถูกสวมมงกุฎหนาม ถูกเยาะเย้ย แบกกางเขนและถูกตรึงและตายบนไม้กางเขน จะไม่มีความหมายหากพระองค์ไม่ได้กลับคืนพระชนมชีพ และนักบุญเปาโลได้เพิ่มเติมอีกว่า หากพระเยซูเจ้าไม่ได้กลับคืนพระชนมชีพ“เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้ที่ล่วงหลับไปในพระคริสตเจ้าก็พินาศไปด้วยถ้าเรามีความหวังในพระคริสตเจ้าเพียงเพื่อชีวิตนี้เท่านั้น เราก็เป็นมนุษย์ที่น่าสงสารที่สุด”(1คร. 15:18-19)
ดังนั้น การกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าจึงเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับคริสตชน เป็นสุดยอดของความเชื่อของคริสตชนในพระคริสตเจ้าเป็นเครื่องหมายแสดงพร้อมกับไม้กางเขนของพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของธรรมล้ำลึกปัสกา(คำสอนพระศาสนจักร : 631, 638)และไม่มีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ใด ๆ ในโลกนี้มีความสำคัญกว่าเหตุการณ์การกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า
บทจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ฉบับที่ 1 ยังได้บอกเราว่าทำไมพระเยซูเจ้าต้องกลับคืนพระชนมชีพจากความตายว่า “ความตายมาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันใดการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายก็มาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันนั้นมนุษย์ทุกคนตายเพราะอาดัมฉันใดมนุษย์ทุกคนก็จะกลับมีชีวิตเพราะพระคริสตเจ้าฉันนั้น.”(1คร. 15:21-22)
บทจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโรมได้ย้ำอีกครั้งว่า “บาปเข้ามาในโลกเพราะมนุษย์คนเดียวและความตายเข้ามาเพราะบาปฉันใดความตายก็แพร่กระจายไปถึงมนุษย์ทุกคนเพราะทุกคนทำบาปฉันนั้น(รม. 5:12) และถึงกระนั้น ความตายก็มีอานุภาพเหนือมนุษยชาติตั้งแต่อาดัมมาจนถึงโมเสสมีอานุภาพเหนือแม้คนที่ไม่ได้ทำบาปเหมือนกับอาดัมที่ได้ล่วงละเมิดอาดัมเป็นรูปแบบล่วงหน้าของผู้ที่จะมาในภายหลัง (รม. 5:14)
ด้วยเหตุนี้ ความรอดพ้นของการกลับคืนพระชนมชีพมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการกลับคืนพระชนมชีพคือสุดยอดของการบังเกิดเป็นมนุษย์ เป็นการยืนยันถึงการเป็นพระเป็นเจ้าของพระคริสตเจ้า ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงกระทำและทรงสอน ทรงกระทำให้พระสัญญาทั้งหมดเป็นจริงขึ้นมาเพื่อประโยชน์ของเรา ยิ่งกว่านั้นพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ ผู้มีชัยชนะเหนือบาปและความตาย ทรงเป็นการเริ่มต้นความชอบธรรมและการกลับคืนชีพของเรา แต่นี้ไปเราได้รับพระพรแห่งการเป็นบุตรบุญธรรมเป็นการมีส่วนร่วมอย่างแท้จิรงในชีวิตของพระบุตรองค์เดียวของพระเป็นเจ้า จนถึงสิ้นสุดแห่งกาลเวลาแล้วพระองค์จะทรงทำให้ร่างกายของเรากลับคืนชีพขึ้นมา(คำสอนพระศาสนจักร : 651-655, 658)
“เครื่องหมาย” ยืนยันถึงการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าคือเครื่องหมายที่จำเป็นที่สุดของพระคูหาว่างเปล่าแล้ว การกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้ายังได้รับการยืนยันจากบรรดาสตรีที่ได้พบพระเยซูเจ้าเป็นพวกแรก และได้ไปบอกให้บรรดาอัครสาวกทราบ นอกนั้น พระเยซูเจ้า “ทรงแสดงพระองค์แก่เคฟาส” (เปโตร) แล้วจึงแสดงพระองค์แก่อัครสาวกสิบสองคนในคราวเดียว” (1 คร 15:5-6) และคนอื่นๆ อีก บรรดาอัครสาวกไม่สามารถที่จะแต่งเรื่องการกลับคืนพระชนมชีพนี้ขึ้นมาได้เพราะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขา ความจริงพระเยซูเจ้ายังได้ทรงตำหนิพวกเขาเพราะการที่ไม่ยอมเชื่ออีกด้วย(คำสอนพระศาสนจักร : 639-644, 656-657)
1 พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ โดยคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์ พิมพ์ครั้งที่ 1 ปี 2002 หน้า 476