(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)
นักธุรกิจหนุ่มใหญ่คนหนึ่งมัวยุ่งกับงานที่รัดตัวจนไม่มีเวลา
ดูแลตัวเองเท่าไหร่นัก ในวันหยุดวันหนึ่งเขามองดูตัวเองใน
กระจกเห็นผมที่เริ่มยาวและหนวดที่เริ่มไม่เป็นทรงของตัวเอง
จึงคิดในใจว่าได้เวลาต้องไปตัดผมแล้ว
เขาก็ออกจากบ้านตรงไปยังร้านตัดผมทันที
ขณะที่ช่างตัดผมและแต่งหนวดให้นั้น ช่างก็ชวนคุยเรื่องต่างๆ
ไปเรื่อยแต่ไม่รู้ไปยังไงมายังไงสุดท้ายลงเอยด้วยเรื่องพระเจ้าได้
ช่างตัดผมพูดว่า "ผมไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง"
"ทำไมล่ะ?" นักธุรกิจถาม
ช่างตัดผมก็ให้เหตุผลว่า;
"ก็...ง่ายๆเลยนะ คุณลองออกไปข้างนอกโน่นแล้ว
คุณจะรู้ว่าไม่มีพระเจ้า อ่ะ...ถ้ามีพระเจ้าจริงนะ
บอกผมหน่อย ทำไมถึงมีคนเจ็บป่วยมากมายขนาดนี้?
ทำไมมีเด็กกำพร้า เด็กถูกทอดทิ้งเต็มบ้านเต็มเมืองอย่างนี้?
ถ้าพระเจ้ามีจริงก็จะต้องไม่มีความเจ็บปวด
ไม่มีความทุกข์ทรมาน ผมนึกไม่ออกว่าพระเจ้าที่ใครๆบอกว่า
เป็นพระเจ้าแห่งความรักจะให้เกิดสิ่งเหล่านี้ได้ยังไง?"
นักธุรกิจผู้นี้ก็นิ่งคิดในใจว่าจะตอบอย่างไรดี
แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจไม่พูดอะไร
เนื่องจากเกรงว่าจะกลายเป็นเหตุให้เกิดการทุ่มเถียงกัน
เมื่อช่างได้ตัดผมและแต่งหนวดให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
นักธุรกิจผู้นี้ก็จ่ายเงินแล้วตั้งใจว่าจะตรงกลับบ้านเลย
แต่ขณะที่ยังยืนอยู่หน้าร้านเขาก็เห็นชายคนหนึ่งผมยาวรุงรัง
หนวดเครายาวเฟิ้ม ดูไม่สะอาดสะอ้านเอาซะเลย
นักธุรกิจผู้นี้ก็กลับเข้าไปในร้านแล้วพูดกับช่างตัดผมว่า
"คุณรู้อะไรมั้ย? ช่างตัดผมไม่มีจริงหรอก"
ช่างตัดผมงง
"ทำไมพูดอย่างงั้นล่ะ ก็ผมนี่ไง!
แล้วผมก็เพิ่งจะตัดผมแล้วก็แต่งหนวดให้คุณเมื่อกี๊นี่เอง"
นักธุรกิจพูดต่อ;
"ไม่หรอก ไม่มีช่างตัดผมจริงหรอก
เพราะถ้าช่างตัดผมมีจริง ก็จะต้องไม่มีคนผมยาว
หนวดเครายาวรุงรัง ดูอย่างผู้ชายคนที่อยู่ข้างนอกนั่นสิ"
ช่างตัดผมมองไปที่ชายคนนั้นแล้วพูดว่า;
"โห...แต่ยังไงก็ตาม ช่างตัดผมมีจริงๆ! ก็คนเหล่านั้นเขาไม่ได้มาให้ผมตัดให้นี่"
"ถูกต้อง!"
นักธุรกิจตอบอย่างมั่นใจ;
"ประเด็นอยู่ตรงนั้นแหละ! พระเจ้าก็มีอยู่จริง! แต่คนไม่มาหาพระองค์
ไม่แสวงหาพระองค์ โลกจึงมีความเจ็บปวดทรมานมากมายขนาดนี้"
โดย คุณศิริพรรษา โชคช่วยพัฒนากิจ