(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)
ทุกวันผมต้องตื่นเช้าเข้างานแปดโมง วันนี้...ก็เหมือนเคยแต่
เมื่อคืนผมทำงานจนดึกเลยตื่นสาย อารมณ์ตอนนั้น
โมโหตัวเองมากที่ลืมตั้งนาฬิกาปลุก
“โดนเจ้านายด่าแน่ๆ”
แม่มาเคาะประตูห้อง
“ตื่นหรือยังลูก หกโมงแล้ว”
ผมหงุดหงิดมาก
"โธ่ !! แล้วทำไมแม่ไม่ปลุกให้เร็วกว่านี้ เนี่ย...
ไปทำงาน ไม่ทันแล้ว วันนี้...มีประชุมด้วย"
“แม่ทำข้าวต้มให้ลูกอยู่เมื่อคืนเห็นนอนดึก
อยากให้กินอะไรร้อน ๆ หน่อย"
“แม่ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่กินแล้ว”
แม่จับแขนเบา ๆ ก่อนเดินออกจากห้องอาบน้ำ
... แต่งตัวเสร็จ ลงมาข้างล่าง...แม่นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว...
“กินข้าวต้มกับแม่ก่อนนะลูกแม่รออยู่"
“ ผมไม่กิน ! ! ! ”
พูดโดย ไม่มองหน้าแม่ เดินออกมาจากบ้านทันที ถึงที่ทำงาน
"ไม่รู้หรืองัย ว่าวันนี้มีประชุมแล้วรายงานอยู่ไหน"
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
ยกมือไหว้ ...“ขอโทษครับพี่”
รีบส่งรายงานให้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
"พี่เลื่อนประชุมไปเป็น 10 โมงนะ"
"เดี๋ยวช่วยไปหาอะไรให้พี่กินหน่อยสิ"
“ได้ครับ”
วิ่งเข้าห้องครัว หยิบโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป เติมน้ำร้อน ...ว๊า!! น้ำร้อนลวกมือ
“มาแล้วครับพี่ โจ๊กร้อน ๆ เลย”
ออกจากห้องประชุมเกือบเที่ยง
...แม่โทรมาจากบ้าน...
“เมื่อเช้า ลูกวางผ้าเช็ดหน้าไว้ตรงไหนลูก
แม่หาในตะกร้าไม่เจอ จะเอาไปซักน่ะ”
“หาไม่เจอ ก็ไม่ต้องซัก ผมจำไม่ได้ คงโยนไว้ที่ไหนนั่นแหละ
เมื่อเช้าผมรีบ”
“ไม่เป็นไรลูก แล้วเย็นนี้กลับกี่โมง มากินข้าวกับแม่นะ"
"ยังไม่รู้หรอกแม่ ว่างานเสร็จเมื่อไหร่ ยังงัย
แม่กินไปก่อนเลยแล้วกัน"
ไม่ต้องรอวางหูโทรศัพท์ ก้มหน้าก้มตาทำงาน เอาใจเจ้านาย
“เอ!! พี่วางบัญชีรายชื่อลูกค้าทิ้งไว้แถวนี้มั่งรึเปล่า
ไม่รู้ไปลืมไว้ที่ไหน หาไม่เจอ”
“ไม่เป็นไรครับพี่เดี๋ยวผมช่วยหา
พี่ลงไปทานข้าวเถอะเที่ยงกว่า แล้วนะ ครับ”
หา หา หา หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ โธ่! ก็พี่มาทำหล่นไว้ใต้เก้าอี้
ในห้องประชุมนี่นา โอย !! เที่ยงครึ่งแล้ว ลงไปกินข้าวไม่ทันแน่ๆ
ไม่เป็นไร บะหมี่ซักห่อพออิ่มก็แล้วกัน
“พี่ครับเจอแล้วนะครับ พี่ทำหล่นไว้ที่ห้องประชุมครับ อ้าว เหรอ!”
รับเอกสารคืน ไม่มีแม้แต่ขอบใจสักคำ แต่ผมกลับปลื้ม
ที่ทำให้เจ้านายพอใจได้ ใกล้เลิกงานแล้ว.. รีบกลับบ้านไปนอนดีกว่า
ช่วยแก้งานตรงนี้ให้พี่หน่อยนะ เสร็จแล้ววางไว้บนโต๊ะพี่เลย
พี่กลับก่อนละ.. ว่าแต่ว่า เราน่ะมีธุระอะไรรึเปล่า คงต้องกลับ
ช้านิดนึงนะ วันนี้
ยิ้มรับ “ไม่มีธุระอะไรครับพี่ เดี๋ยวผมพิมพ์ให้เลยครับ”
โทรหาเจ้านายตอนเกือบทุ่ม...
“พี่ครับผมแก้ไขและตรวจทานเรียบร้อยแล้ว
ผมวางไว้บนโต๊ะนะครับ”
“กลับดึกจังลูก จะอาบน้ำก่อน หรือกินข้าวก่อนล่ะ”
...เงียบไม่มีเสียงตอบ ไม่มีรอยยิ้มจากผม...
“มาแม่ช่วย”
แม่รวบเอกสารจากมือผมไปวางบนโต๊ะ
"ผมเหนื่อยมากเลยแม่ ผมอยากพักผ่อน"
กำลังจะเดินขึ้นห้อง
" ...ฮัลโหล สวัสดีครับ เจ้านายเหรอครับ มีอะไรรึเปล่าครับ"
“อ๋อ !! ไม่ยุ่งครับ เดี๋ยวผมจัดการให้เลยครับ”
กุลี กุจอเปิดคอมพิวเตอร์....
“เจ้านายครับ เรียบร้อยแล้วครับ” ...
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
แม่..หายไปไหน! ในครัวไม่มี ห้องนอนไม่มี
แม่นั่งอยู่หลังบ้านเหงาๆ คนเดียว แม่แอบร้องไห้ เพราะผมสินะ
ผมทำให้แม่ต้องร้องไห้ แม่ดูแลผมมาทั้งชีวิตเป็นห่วงผม รักผม
มากกว่า ใครๆ แต่..ผมตอบแทนได้สาสมเหลือเกิน
ผมเริ่มทบทวน เจ้านายคนที่ให้เงินเดือนผม กับแม่
คนที่ให้ ความเป็นคนแก่ผม เพื่อประจบสอพลอเจ้านาย
ผมทำร้ายผู้ให้กำเนิดได้เพียงนี้เลยหรือ
แ ม่ ! ! ผ ม ข อ โ ท ษ
ใครเคยเป็นแบบผมบ้าง? แม่มีเพียงคนเดียวครับ คนเดียวจริง ๆ
ทำดีกับท่านไว้เถอะครับ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดมักเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญที่สุดคือ
สิ่งที่เราเห็นอยู่ทุกวัน เราก็คิดอยู่ว่าเรา ก็ต้องเห็น อยู่แบบนั้นต่อไป
ไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้มันสำคัญ ไม่เคยเห็นแม้แต่ค่า
เหมือนกับการที่เราเห็นหน้าใคร อยู่ทุกวัน คน ๆ นั้นวิ่งตามเราอยู่ทุกวัน
ใส่ใจเราอยู่ทุกวัน เราก็มักจะเห็นแค่ว่า ใครคนหนึ่งกำลังทำ อะไรที่ดูงี่เง่า
น่ารำคาญ จนวันหนึ่งถ้าเราสูญเสียคน ๆ นั้นไป เราก็อาจจะรู้สึกเสียใจบ้าง
เราอาจ จะต้องการเรียกร้องให้มาเหมือนเดิม
หรือบางทีเราก็อาจจะรู้สึกว่าดีใจที่ได้มีชีวิตที่ปราศจากความรำคาญ
แต่จะมีใครที่เคยรู้สึกถึงความรู้สึกของคนที่เป็นผู้ให้ ๆ
เราทุกสิ่งทุกอย่าง บางทีสิ่งที่เขาทำอยู่ อาจไม่ได้ ตั้งใจจะให้คุณรำคาญ
แต่เขาทำไปเพราะเขารักคุณจริง ๆ เหมือนความรักของพ่อแม่
เหมือนความรักของญาติผู้ใหญ่ของคุณ เหมือนความรักของใคร
อีกหลายคนที่ให้คุณด้วยความจริงใจ
คุณเคยคิดว่า สิ่งเหล่านี้สำคัญบ้างไหม คุณเคยคิดว่า
คุณดูแลพวกเขาดีพอหรือยัง คุณให้ความสำคัญกับคน หรือเปล่า ?
คุณให้ความสำคัญกับคนที่ให้วัตถุคุณมากกว่าคนที่
ให้ความรู้สึกที่ดีกับคุณหรือเปล่า ? สิ่งที่สำคัญมักมองไม่เห็นด้วยตา
แต่ต้องมองด้วยหัวใจ แต่เรามักไม่มีเวลาพอที่จะใช้หัวใจมอง
เรามองอะไรแค่ฉาบฉวยแล้วก็ตัดสิน เรามองดูความรวยความจนของคน
ที่สิ่งของที่เขาใช้ เรามองความดีของคน ตรงที่เขาแสดงให้เราเห็น
เรามองอะไรหลายอย่าง ด้วยตาแล้ว เราก็ตัดสินคนเพียงแค่เวลา
ไม่เกิน 5 นาที เราต้องสูญเสียมิตรที่ดีไปเพียงเพราะเราอ้างว่าไม่มีเวลา
เราไม่มีเวลาก็ต่อเมื่อ เราไม่สนใจ เราไม่ให้ความสำคัญต่อสิ่งนั้น
ต่อคน ๆ นั้น แต่ถ้าลองมองย้อนดู ทำไมเราถึงมีเวลาทำอะไรมากมาย
หลายอย่างในแต่ละวัน เพราะเราให้ความสนใจ ให้ความสำคัญ
ทำไมคุณไม่ลองให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณลืมไป
กับคนที่หวังดีกับคุณแต่คุณไม่เคยมอง อย่าปล่อย
ให้มิตรภาพดี ๆ ต้องมีรอยร้าว เพราะเมื่อวันหนึ่งที่คน ๆ
นั้นต้องจากเราไป เราจะได้จากกันด้วยความ รู้สึกที่ดี
เราจะได้ไม่รู้สึกผิด เพราะว่า เรายังทำดีกับเขาไม่เพียงพอ
โดย คุณ น.ศ.รามคำแหง