(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)
ชายคนหนึ่งพบรังไหมของตัวอ่อนผีเสื้อ เขาเฝ้าจับตาความคืบหน้า
มาตลอด กระทั่งได้เห็นรอยปริขนาดเล็กปรากฏอยู่ที่ผิวภายนอก
ชายคนนั้นจึงนั่งลงและเฝ้าจับตามองความเคลื่อนไหว
ของตัวอ่อนผีเสื้ออยู่นานหลายชั่วโมง
เขาเห็นมันพยายามดิ้นรนจะพ้นจากช่องเล็ก ๆ ของรังไหมให้ได้
แต่เมื่อไม่สำเร็จ เจ้าตัวน้อยก็หยุดการเคลื่อนไหว เหมือนจะยอมรับว่า
ไม่อาจขืนทำอะไรไปมากกว่านั้น
เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะช่วยตัวอ่อนแล้ว ชายคนนั้นจึงหยิบกรรไกรขึ้นมา
ตัดเปิดช่องรังไหม จนกว้างพอที่ตัวอ่อนจะสามารถออกมาได้อย่าง
ง่ายดาย ตัวอ่อนผีเสื้อน้อยจึงออกมาเผชิญโลกทั้งสภาพร่างกาย
บวมกลม ตรงข้ามกับปีกที่มีขนาดเล็กนิดเดียว !
แต่เขาก็เฝ้าจับตามองตัวอ่อนนั้นต่อไป ด้วยความหวังว่าอีกไม่ช้า
ปีกของมันจะขยายใหญ่ขึ้น และแข็งแรงพอจะพยุงร่างกายมันได้
เมื่อถึงเวลาอันควร แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง !
ผีเสื้อน้อยต้องเดิน และคลานไปมาทั้งชีวิต ด้วยสภาพร่างกายบวมกลม
และปีกแห้งเล็กที่ไม่มีโอกาสจะบินได้ ภายใต้การดูแลอย่างอ่อนโยน
ของชายผู้หวังดี
สิ่งที่ชายคนนี้ไม่เคยเข้าใจก็คือ ธรรมชาติได้กำหนดมาแล้วว่า
ตัวอ่อนจะออกไปเผชิญโลกได้ ก็ต่อเมื่อของเหลวในร่างกายลดน้อยลง
จนลำตัวมีขนาดสมดุลกับปีกเท่านั้น จึงจะสามารถลอดออกจากช่องว่าง
ขนาดเล็กของรังไหมได้สำเร็จ และถ้าตัวอ่อนได้ผ่านการดิ้นรน
จนถึงเวลานั้น มันจึงจะเติบโตเป็นผีเสื้อที่พร้อมโบกบินจากรังได้
อย่างอิสระโดยแท้
การมีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องผ่านอุปสรรคใด ๆ เลย จึงมีแต่จะทำให้เราพิการ
และไม่แข็งแรง การดิ้นรนฝ่าฟันอุปสรรคต่างหาก ที่เป็นหัวใจสำคัญของ
การดำเนินชีวิต ซึ่งจะช่วยให้เรายืนหยัดอยู่ได้อย่างแข็งแกร่ง
เพราะอย่างนั้นภูมิใจกับการดิ้นรนในวันนี้เถอะ ถ้าคุณหวังจะไปให้ถึง
วันดี ๆ ของชีวิตที่สามารถโบยบินได้อย่างเสรี...
โดย คุณเทียนชัย กีระนันทน์