(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)
ช่วงเวลาเดือนกว่าๆที่ผ่านมา ตารางเวลาชีวิตทำให้ต้อง
เดินทางออกต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง แต่ละแห่งก็อยู่กัน
คนละทิศละทาง ในบางครั้งต้องเป็นผู้นำกลุ่ม บางเวลา
เดินทางไปคนเดียว บางครั้งเป็นเพียงผู้ร่วมเดินทางไป
กับคนอื่น และบางครั้งก็ต้องเป็นผู้กุมชะตาของทุกคนที่
ร่วมเดินทาง แต่ละครั้ง แต่ละที่ ล้วนแล้วแต่มีมิติของ
ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ในเวลาที่เป็นคนนำกลุ่มเป็น
ช่วงที่ต้องรับผิดชอบในทุกกรณี ต้องรู้จักหนทาง
ต้องรู้จักที่ที่จะไป ต้องทำให้บรรลุเป้าหมาย
ไปให้ถึงปลายทางของภารกิจให้ได้
แม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยก็ต้องไม่ท้อให้ใครเห็น
ในครั้งที่ต้องเดินทางคนเดียว อาจจะโดดเดี่ยว
เดียวดายบ้าง แต่ก็บางเบาในความรับผิดชอบ
มีเวลานั่งคิดนั่งมองและเรียนรู้ในสิ่งรอบๆข้าง
เพื่อนำพาสิ่งเหล่านั้นสู่การค้นหาตัวตน
สำหรับคราวที่เป็นเพียงผู้ร่วมขบวนเดินทาง
ช่างเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ได้มองสองข้างทาง
ที่ผ่านพ้นอย่างเต็มที่และเต็มตา ได้พูดได้คุย ได้เฮฮา
และเป็นคนชี้ชวนให้คนอื่นได้เห็นในสิ่งที่เราเห็น
ทั้งๆที่คนอื่นไม่อยากจะเห็น
และในครั้งที่ต้องเป็นผู้ขับขี่ เป็นคนควบคุมพวงมาลัย
หัวใจยิ่งต้องพร้อม แม้หนทางข้างหน้าจะไม่ชินตา
แม้ไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าอยู่ตรงไหน จะเกิดอะไรขึ้น
แต่ตรงนี้ต้องทำให้ดีที่สุด
ต้องมีใจมั่นคงพร้อมรับทุกสถานการณ์....
ชีวิตนี้คือการเดินทาง ปลายทางที่แท้จริงจะไปหยุดอยู่ตรงไหน !!!!
การเดินทางสู่เป้าหมาย ถึงแม้ว่าจะมีการกำหนด
แม้ว่าจะมีการวางแผน แต่บ่อยครั้งก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้น
บางครั้งอาจจะถึงก่อน เพราะหนทางสะดวก
บางคราวก็ล่วงเลยเวลาไปนานเพราะหลงทาง หาทางไม่พบ
อย่างไรก็แล้วแต่ เมื่อเริ่มต้นเดินทาง ทุกคนก็ต้องฝ่าฟัน
ไปให้ถึงที่หมาย ชีวิตนี้ก็เช่นกัน ทุกชีวิตล้วนมีเป้าหมาย
มีภารกิจ มีพันธะสัญญาต่อสิ่งๆหนึ่ง และเพื่อให้ไปสู่สิ่งนั้น
อาจจะช้าบ้าง เร็วบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับการค้นพบ
และมีบ่อยครั้งที่เราก็ต้องเริ่มต้นการเดินทางในครั้งใหม่อยู่เสมอ
และต้องไม่รอช้าที่จะเริ่มต้น เพราะถ้าปลายทาง คือ
วันนี้ แต่เป้าหมายยังไปไม่ถึง ชีวิตก็หมดความหมาย
การเดินทางมักจะคู่กับการพักแรมค้างคืนในที่อื่น
หลายครั้งลืมตาตื่นขึ้นมาในที่อื่น ในที่ที่แปลกไปจากเดิม
ก็อดที่จะหวนคิดถึงคนที่จากมา อดคิดถึงที่ที่เคยอยู่ที่
ที่เคยนอน แต่ครั้นยามอยู่ในที่นั้น เราก็ฝันจะโบยบินไปยัง
ดินแดนอันไกลโพ้น หลายครั้งที่วิถีชีวิตมักนำพาสิ่งใหม่ให้พบเห็น
ในการเดินทาง แต่หลายครั้งก็มักพบเห็นแต่เรื่องเดิม ๆ เก่า ๆ
ซ้ำ ๆ เห็นการเดินทางของหลายคนเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนที่กิน
ที่อยู่เปลี่ยนที่นั่งคุย มีความสุขกับการเยือนต่างถิ่น มีความสนุก
กับการเห็นสิ่งที่ต่างไปจากเดิม บางคนไม่สนใจในการเดินทาง
แต่สนใจกิจกรรมระหว่างการเดินทาง หลายคนก็ขอหลับตาลง
เพียงเพื่อให้ตื่นมาพบกับที่ใหม่ๆพบกับจุดหมายปลายทาง
มีไม่น้อยที่พยายามตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ เพื่อมองดูพระอาทิตย์
ดวงเดิม ทั้งๆที่ในชีวิตปกติกว่าจะตื่นมาได้ ก็วิ่งไล่ตามตะวันไม่ทัน
ต้องนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์กวดไล่
พระอาทิตย์ดวงเดิม ดวงเดียวกันในทุกๆที่
มันต่างกันตรงที่บรรยากาศพาไปและต่างมุมมองใหม่ๆ
ตื่นเช้าในที่อื่น ย่อมตื่นได้ง่ายกว่าในที่เดิมๆ เพราะความตื่นเต้น
ตื่นมาในที่อื่น เพื่อก้าวต่อไปในที่ใหม่
ตื่นนอนในที่ใหม่ เพื่อบรรลุถึงจุดหมาย...
แต่บางครั้งตื่นมาในที่อื่น ก็ยังงุนงงว่าที่นี่ที่ไหนกัน!!!!
ในชีวิตของเราแต่ละคนไม่มากก็น้อย ต้องเดินทางไปเยือนในต่างถิ่น
ต่างแดนต่างกันก็แต่ว่า เรารับภาระหน้าที่อะไรในการเดินทาง
ไปครั้งนั้น และเราได้ทำมันอย่างดีแค่ไหน แน่ล่ะ
บางครั้งเวลาในโลกนี้ก็ไม่อาจจะวัดผลลัพธ์ได้
และบางคนก็ไม่สนใจขอใช้ชีวิตในโลกนี้แบบไม่รู้จักรับผิดชอบ
ทำตัวเป็นเพียงคนที่ร่วมขบวนเดินทาง ถึงขั้นทำตัวถ่วงทำให้ผู้อื่น
เดินทางล่าช้าก็มาก และถ้าเราต้องตื่นมาพบกับคนประเภทนี้มาก ๆ
เราจะมีความสุขได้ไหม เช่นกัน เราก็ต้องไม่ทำให้คนอื่นต้องตื่นมา
พบกับความหวาดกลัวกับการกระทำของเราด้วย
เช่นนี้ชีวิตนี้จึงจะมีคุณค่าและงดงาม
จะมีวันใดไหมที่เราจะตื่นนอนขึ้นมา แล้วสามารถมองทุกสิ่ง
รอบข้างด้วยความสดชื่น สบายใจ หากว่าโลกนี้สวยงาม
คนงดงามไม่ว่าจะตื่นนอนที่ไหน ชีวิตก็มีความสุข
การเดินทางก็จะเปี่ยมไปด้วยความหวัง ใช่หรือไม่
จุดหมายที่แท้จริงอยู่ที่ทุกย่างก้าวของเรา
เดินมาถึงปลายทางในทุกๆวัน แม้จะตื่นมาในที่อื่น
โดย คุณเทียนชัย กีระนันทน์