(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)
อายุขัยของเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ เดี๋ยวนี้ดูจะสั้นลงไปทุกที
เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้งานได้ปีสองปีก็เสีย นาฬิกาแขวน
นาฬิกาข้อมือ โทรศัพท์มือถือ ใช้ยังไม่คุ้มค่าก็เสียต้อง
เปลี่ยนใหม่ ฯลฯ ไม่เหมือนเครื่องยุคแรกๆ บางเครื่อง
จนถึงวันนี้ก็ยังใช้งานได้อยู่ เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกไม่หรู
และใหญ่โตกินพื้นที่จัดวาง นั่นเป็นเพราะเหตุผลทาง
การตลาด ที่ผู้ผลิตจงใจทำให้เครื่องใช้เหล่านั้นมีกำหนดอายุ
การใช้งานสั้นลง เพื่อจะได้เพิ่มผลทางการผลิต จึงทำให้โลก
ของเราเต็มไปด้วยขยะ และเป็นขยะที่ไม่อาจจะย่อยสลาย
ได้ง่ายๆ ขยะอิเล็คโทนิค ขยะดิจิตอล ขยะพลาสติก
ยิ่งตลาดธุรกิจเร่งผลกำไรมากเท่าไหร่ ขยะก็จะเพิ่มจำนวน
มากขึ้นเท่านั้น มลภาวะทางอากาศก็จะเพิ่มขึ้นมหาศาล
โลกจะร้อนขึ้น ฤดูกาลจะผิดเพี้ยน ซึ่งเราก็เริ่มมองเห็น
เค้ารางกันบ้างแล้ว..
ความอดทนของคนสมัยใหม่นี้ มีน้อยลง ระยะทางแห่ง
น้ำอึดน้ำทนลดสั้นลง ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
ไม่สามารถควบคุมอารมณ์กันได้ นั่นเป็นเพราะสังคมเรา
อยู่ในภาวะแห่งการแข่งขัน ใครได้ใครอยู่ (ไม่ใช่ใครดีใครอยู่)
ความกดดันที่มาจากทั้งภายใน ภายนอกประเดประดังกันเข้ามา
ความรุนแรงจึงก่อตัว คุกรุ่นขึ้น และพร้อมจะระเบิดออกมาได้
ทุกเวลา ในวันๆหนึ่ง คนเราอารมณ์เสียมากยิ่งขึ้น ไม่ค่อยจะหา
คนที่อารมณ์ดีๆได้สักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน
บนท้องถนน ในบ้าน เราไม่ค่อยได้ยินเสียงหัวเราะในที่ทำงาน
เราไม่พบเห็นรอยยิ้มของผู้คนรอบข้าง เราไม่ค่อยได้ฟัง ได้ดู
ได้คุยกันในเรื่องที่สร้างอารมณ์หรรษาที่นำพาเสียงหัวเราะและ
รอยยิ้มของผู้คน มลภาวะทางจิตใจของคนมากขึ้น
คนเครียดมากขึ้น เป็นโรคประจำตัวมากขึ้น
รู้สึกบ้างไหม? ว่าบางครั้ง เราก็มักถูกลูกหลงขยะอารมณ์
ของคนรอบข้าง บางคนมาทำงานก็นิ่งเงียบ ถามอะไรก็ไม่พูด
ไม่ตอบ บางวันก็เจอคนที่ชอบบ่น ทำอะไรก็ต้องบ่น ต้องโวยวาย
บางวันก็เจออารมณ์หงุดหงิดของเจ้านายเที่ยวฟาดงวงฟาดงา
ด่ากราดไปทั่ว บางวันขับรถอยู่ดีก็มีเสียงด่า เสียงสบถ ด่าพ่อ
ล่อแม่กันเต็มถนน บางมื้ออาหารควรจะเป็นการบริโภคอย่าง
อร่อยต้องมากร่อยกับอารมณ์ของคนขาย อารมณ์ของลูกค้า
ที่ไม่ได้ดั่งใจ บางวันกลับบ้านหวังได้กำลังใจจากคนใกล้ตัว
กลับได้ความตื่นกลัวในอารมณ์หุนหันพลันแล่น ทำอะไรก็ไม่
เข้าตากรรมการ นี่เป็นขยะอารมณ์ที่เราปล่อยกันออกมา
มากมายเสียยิ่งกว่าไอเสียของรถยนต์บนท้องถนนในเมืองกรุง
ไอเสียทางจิตใจของผู้คนที่พุ่งออกมานี้ เป็นที่มาของปัญหามากมาย
รู้สึกบ้างไหม? ว่าบางวันเราก็เป็นคนที่ปล่อยมลพิษทางจิตใจให้กับ
คนอื่น และอาจจะปล่อยออกมามากกว่าคนอื่นก็ได้ ...
ขยะที่เกิดจากกากซากของเครื่องมือ เครื่องใช้เหล่านั้น
อาจจะกำจัดลงได้บ้าง ผ่านทางการคิดค้นของผู้ผลิตที่ต้องช่วยกัน
รับผิดชอบ และแน่แท้ทีเดียว เราซึ่งเป็นผู้ใช้ ผู้บริโภคของเหล่านั้น
ก็ต้องรู้จักใช้อย่างประหยัด ใช้อย่างถูกวิธี ใช้อย่างพอเพียง
ไม่ใช่ตะบี้ตะบันใช้ อันไหนไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนก็ไม่ควรเปลี่ยน
เพราะไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีที่ยืนอยู่บนโลก ต้องยืนอยู่บนกองขยะ
ซากของนวัตกรรม ..
ขยะที่มาจากอารมณ์ของผู้คน ยิ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องช่วยกันกำจัด
และป้องกัน พยายามไม่ให้เกิดขึ้น ต้องเรียนรู้จักการเป็นอยู่
“อย่างพอเพียง” ไม่ดิ้นรนจนเกินเหตุ ให้เวลากับร่างกาย
และที่สำคัญให้เวลากับภาวะทางจิตใจ บำรุง หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ
ที่สุดแล้วนำสิ่งที่เหลือ นำสิ่งที่ได้จากอาหารฝ่ายจิตใจ กลับไปเก็บไว้
ใช้ยามที่เกิดภาวะกดดันในชีวิต ช่วยกันลดขยะพิษทางจิต
ของกันและกัน เผื่อแผ่เรื่องดีๆ คุยกันเรื่องงดงาม ฟังและอ่านเรื่องที่
เป็นมงคล พึ่งพิงหลักธรรมในศาสนา เพิ่มพูนความเข้มแข็งให้กับ
จิตวิญญาณ เพื่อเราจะได้มีสุขภาพจิตที่ดี รู้จักแบ่งปันเสียงหัวเราะ
รอยยิ้มให้กันและกัน ความสุขที่แท้ก็จะเกิดขึ้นในสังคม
ปลาสองตัวกับขนมปังห้าก้อนยังเลี้ยงผู้คนได้หลายพันคน
และกับคนที่มีจิตใจที่ดีงาม พร้อมที่จะมอบสันติสุข
ให้กันและกันก็จะเกิดผลเป็นพันล้านเท่าทวีคุณ..
โดย คุณธนธรณ์ จงตระกูลศิริ