(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)
นายธนาคารฝ่ายลงทุนชาวอังกฤษคนหนึ่ง ผ่านไปที่ท่าเรือของหมู่บ้านเล็กๆชายฝั่งเม็กซิโกแห่งหนึ่ง
ขณะที่เรือลำเล็กๆลำหนึ่งเข้ามาเทียบท่า ในเรือลำเล็กนั้น มีปลาทูน่าครีบเหลืองตัวใหญ่ๆอยู่หลายตัว
นายธนาคารชาวอังกฤษเอ่ยปากชมชาวประมงเม็กซิกันว่าจับปลาได้ดี
และถามว่าเขาใช้เวลาจับปลาทั้งหมดนี้นานเท่าใด ชาวเม็กซิกันคนนั้นตอบว่า
“แค่พักเดียวเท่านั้น”
นายธนาคารจึงถามต่อว่า
“ทำไมคุณไม่อยู่จับปลานานขึ้นอีกหน่อย จะได้จับปลาได้มากกว่านี้?”
ชาวเม็กซิกันนั้นตอบว่า
“ได้แค่นี้ ก็มากเกินพอแล้ว เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวของผม”
ชาวอังกฤษจึงถามต่ออีกว่า
“แล้วคุณใช้เวลาที่เหลือ ไปทำอะไร?”
เขาตอบว่า
“ชีวิตของผมก็คือ นอนตื่นสายๆ ไปจับปลานิดหน่อย แล้วไปเล่นกับลูกๆ
นอนพักผ่อนกลางวันกับมาเรียภรรยาของผม ตกเย็นก็เข้าไปในหมู่บ้าน
จิบเหล้าองุ่นและเล่นกีตาร์กับเพื่อนๆ ชีวิตผมไม่ว่างเปล่าหรอก”
ชาวอังกฤษได้ยินแล้วรู้สึกเย้ยหยัน และพูดว่า
“ผมจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของอเมริกา สามารถช่วยคุณได้
คุณควรใช้เวลาจับปลาให้ได้มากขึ้น พอมีเงิน คุณก็ซื้อเรือลำใหญ่ขึ้น
จากนั้นก็ซื้อเรือเพิ่มขึ้นอีกหลายๆลำ ต่อไป แทนที่จะขายปลาให้คนกลาง
ก็นำไปขายโดยตรงกับบริษัท ที่สุดคุณก็สามารถตั้งบริษัทของตัวเอง
จากนั้นคุณก็ผันตัวเองจากหมู่บ้านเล็กๆนี้ไปยังเมืองเม็กซิโกซิตี้ แล้วก็เมืองลอสแอนเจลีส
หรืออาจเป็นเมืองนิวยอร์ค ซึ่งคุณสามารถบริหารกิจการใหญ่โตร่ำรวยได้เอง”
ชาวประมงเม็กซิกันถามว่า
“ทั้งหมดนี้ ผมต้องใช้เวลาเท่าใด?”
ชาวอังกฤษตอบว่า
“15 หรือไม่ก็ 20 ปี”
ชาวเม็กซิกันถามต่อไปว่า
“แล้วหลังจากนั้นล่ะ ชีวิตผมจะเป็นอย่างไร?”
ชาวอังกฤษหัวเราะแล้วก็บอกส่วนสำคัญที่สุดว่า
“เมื่อถึงเวลานั้น คุณก็เข้าตลาดหลักทรัพย์ แล้วขายหุ้นบริษัทให้กับมหาชน คุณก็จะกลายเป็นเศรษฐี
คุณอาจมีเงินเป็นล้านทีเดียว”
“เป็นล้านเชียวหรือ? แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป?”
ชาวอังกฤษตอบว่า
“หลังจากนั้น คุณก็เกษียณ กลับมาอยู่หมู่บ้านเล็กๆของคุณ คุณสามารถนอนตื่นสายๆ
แล้วออกไปจับปลานิดหน่อย กลับมาเล่นกับลูกๆ นอนพักผ่อนกลางวันกับภรรยา
ตกเย็นก็เข้าไปในหมู่บ้าน จิบเหล้าองุ่นและเล่นกีตาร์กับเพื่อนๆไงล่ะ!”
โดย คุณสุญาโณ จงตระกูลศิริ