Homeบทความบทความ :: จากทางบ้านสายสัมพันธ์พ่อลูกที่ไม่มีวันลืม

สายสัมพันธ์พ่อลูกที่ไม่มีวันลืม

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ครอบครัวของผม เป็นครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยด้วยเงินทอง
แต่ผมก็มีความสุขที่ผมยังมีพ่อและแม่ของผมที่ให้ความรักความเอ็นดู
คอยดูแลเอาใจใส่ผมเสมอมา ทุก ๆ วันก่อนไปโรงเรียน
พ่อของผม จะชงไมโลร้อนถ้วยหนึ่งให้ผมได้ดื่มทุก ๆ วัน 
ผมก็เป็นคนเรียนดีแต่ก็ไม่ถึงกับเป็นคนที่เรียนเก่งมาก
พ่อของผมทำงานก็ไม่ได้เงินมากเท่าไหร่
พ่อของผมพยายามหาเงินมาให้ผมได้เรียน แม้จะทำงานหนักอย่างไรก็ตาม 
ผมเห็นพ่อของผมทำงานกลับมาดึกทุกวัน ผมก็ถามพ่อว่า

"พ่อครับ พ่อน่ะอย่าหักโหมมากนะครับ เดี๋ยวสุขภาพจะทรุดโทรม"

ผมพูดพร้อมหยิบน้ำดื่มมาให้พ่อดื่ม แต่พ่อก็บอกผมเพียงว่า

"พ่อน่ะไม่เป็นอะไรหรอก สุขภาพก็แข็งแรง
ลูกน่ะต้องดูแลสุขภาพให้มาก ๆ ละกัน เดี๋ยวจะไม่สบาย
ใกล้จะเอ็นแล้วนะ รีบขึ้นนอนเถอะลูก"

ตอนนั้นผมคิดเพียงว่าพ่อน่ะห่วงผมมากแต่พ่อไม่ยอมห่วงตัวของพ่อเองเลย
ผมเลยขึ้นมาที่ห้องนอนของผม ผมก็ได้นอนคิดว่า อีก 2 วัน ใกล้เอ็นทราน
วันเอ็นทรานเป็นวันที่ 13 แต่วันนี้วันที่ 10 อีก 2 วัน เท่านั้นที่ผมต้องลงสนามสอบใหญ่
และการสอบครั้งนี้มันเป็นการบอกอาชีพและอนาคตของผม
และพ่อของผมก็หวังวันนี้ไม่น้อยเหมือนกัน

วันที่ 11 วันนี้อากาศแจ่มใส แต่ผมรู้สึกเครียดมาก ๆ ผมได้สวนทางกับพ่อตรงบันได
เพราะพ่อของผมจะเดินไปห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำ
ผมก็กำลังจะเดินไปเอาหนังสือมานั่งอ่าน แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรกับพ่อ
ผมรีบเดินไปเอาหนังสือแล้วขึ้นไปที่ห้องของผม
เพื่อนั่งจับเวลาทำข้อสอบเก่า ๆ ซึ่งทุก ๆ คนก็ทำอย่างผมแน่
และก็กำลังเครียดอย่างผมด้วย ผมคิดสักครู่ พ่อก็เดินเข้ามาในห้องผม
พร้อมกับถือไมโลร้อนมาหนึ่งถ้วย พร้อมบอกกับผมว่า

"อย่าเครียดนะลูก ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร"

พร้อมกับเอามือมาลูบที่หัวผมและหลังผมเพื่อให้กำลังใจ ในตอนนั้นผมคิดในใจว่า

"พ่อนะอยากให้ผมได้ พ่อมุ่งหวังให้ผมเข้าแพทย์ที่ใดก็ได้ ผมต้องเอาให้ได้"

ผมจึงไม่ได้พูดกับพ่อ พ่อก็เดินออกจากห้องไป
แม่ของผมเรียกผมลงไปทานข้าว ผมจึงพักการจับเวลาทำข้อสอบไว้
แล้วลงมาทานข้าว แต่ผมก็แปลกใจมาก เพราะพ่อของผมไม่ได้อยู่ทานข้าวกับผมด้วย
เพราะทุกครั้งพ่อของผมจะอยู่ทานข้าวกับผมและแม่ของผม ผมจึงถามแม่ว่า

"แม่ครับพ่อไปไหนหละครับ"

แม่ก็ตอบว่า "พ่อของลูกน่ะรีบออกไปทำงานนะ วันนี้งานพ่อเยอะ พ่อก็เลยรีบออกไปจ๊ะ"

ผมก็รีบทานข้าวแล้วขึ้นไปทำข้อสอบต่อ จนเวลา 3 ทุ่มครึ่ง
แม่ผมก็เรียกผมให้ลงมาทานข้าวอีก ผมจึงถามแม่อีกว่า

"แม่ครับพ่อยังไม่กลับอีกหรอครับ"

แม่ก็ตอบว่า "สงสัยจะงานเยอะน่ะจ๊ะ เลยกลับช้า
ลูกรีบทานข้าวก่อนเถอะ กินเยอะ ๆ นะไม่ต้องกลัวว่าพ่อจะไม่มีทาน
แม่ทำกับข้าวอีกชุดอยู่ในห้องครัวให้พ่อแล้วจ๊ะ"

4 ทุ่ม 5 ทุ่ม ผ่านไป พ่อยังไม่กลับ ไม่มีวี่แววการมาของพ่อ
ผมกับแม่เริ่มไม่สบายใจ 5 ทุ่ม 12... 5 ทุ่ม 30... 5 ทุ่ม 50
กริ๊ง กริ๊ง……ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังมาอีกห้องหนึ่ง ตอนนั้นผมคิดเพียงว่า
พ่อจะต้องโทรมาแน่ แม่ของผมก็ไปรับโทรศัพท์
แม่ก็รับโทรศัพท์ขึ้นมา แทนที่จะเป็นเสียงของพ่อ
แต่นั้นไม่ใช่ ไม่ใช่เสียงคนที่เรารัก และไม่ใช่เสียงคนที่เรารู้จัก
ข้อความที่แม่ได้ยินนั้นมีเพียงว่า นั้นเป็นภรรยาของคุณวินิจใช่ไหม?
ตอนนี้คุณวินิจประสบอุบัติเหตุ อยู่ที่โรงพยาบาลรามคำแหง
แล้วแม่ก็จับประเด็นอะไรไม่ได้เลย แม่ก็รีบวางโทรศัพท์ แล้วรีบวิ่งมาอีกห้อง บอกกับผมว่า

"แม่จะต้องรีบไปโรงพยาบาลไปดูอาการของพ่อนะ"

ผมได้ยินคำว่าพ่อ ผมก็พูดว่า "แม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพ่อหรอครับ"

แม่ก็บอกว่า "ไม่มีอะไรมากหรอก แม่ต้องรีบไป เฝ้าบ้านด้วยนะลูก"

ตอนนั้นผมคิดเพียงว่าคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพ่อมากหรอก อย่างดีก็แค่กระดูกหัก
แล้วเข้าเฟือกก็เท่านั้นเอง เทียงคืน 15 นาที ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีก
ผมรีบวิ่งไปรับ คราวนี้แม่ของผมโทรมา ผมคิดในใจว่า พ่อไม่เป็นไรอีกประเดี๋ยวก็จะกลับมาบ้าน
แต่มันไม่ใช่ มันตรงกันข้ามกับเรื่องที่ผมคิดทั้งหมด แม่บอกกับผมว่า แม่จะอยู่ที่โรงพยาบาลดูแลพ่อ
ผมเริ่มไม่สบายใจก็ถามแม่ว่า พ่อเป็นอะไรมากไหม แม่ก็ตอบว่าเป็นไม่มากหรอกลูก
ผมก็รีบขึ้นนอน เพราะมันก็ดึกมากแล้ว แต่ใจของผมก็ยังอดคิดถึงพ่อไม่ได้
ข่มตาเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับ มารู้สึกตัวอีกทีตอน ตีห้า เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก คงจะเป็นข่าวดีแน่เลย
แม่โทรมาบอกผมถึงเรื่องอาหารเช้าว่า ในตู้เย็นมีอาหารนะลูก แต่ผมพูดกับแม่ว่า

"แม่ครับอาการของพ่อเป็นอย่าไรบ้างครับ"

แม่ก็ตอบเพียงว่าดีขึ้นแล้วอีกสองสามวันก็กลับบ้านได้
ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อหรอก รีบไปทานอาหารแล้วรีบไปอ่านหนังสือเถอะ
ผมยังคุยอะไรกับแม่ไม่ได้มากนักก็มีเสียงสัญญาณดัง ตี๊ด……
ทำให้สายโทรศัพท์หลุด ผมก็รีบไปทำอาหาร อีกใจก็คิดถึงพ่อ
อีกใจก็เรื่องเอ็นทราน ผมทำอะไรไม่ถูก อยากจะไปหาพ่อ
อยากจะไปดูอาการของพ่อ อยากจะไปอยู่ใกล้ ๆ พ่อ
แต่พอมานึกอีกที พ่อต้องการให้เราสอบเอ็นทราน ผมก็เลยรีบไปอ่านหนังสือ
เวลาผ่านไปด้วยความรวดเร็ว 6 โมง 1 ทุ่ม …….. 3 ทุ่ม
ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังมาอีก ผมก็รีบวิ่งไปรับ

แม่บอกผมว่า "แม่จะอยู่เป็นเพื่อนพ่อนะจ๊ะลูก
พ่อฝากบอกลูกนะว่าพรุ่งนี้พ่อไปเฝ้าลูกไม่ได้นะจ๊ะ
ลูกจงตั้งใจทำข้อสอบ แล้วจะสอบได้ในคณะที่ลูกใฝ่ฝันนะ
รีบทานข้าวนะลูก"

ตี๊ด……สัญญาณตัดอีกแล้ว
ผมอยากไปหาพ่อจัง ผมรีบทานข้าวแล้วอาบน้ำ และรีบขึ้นนอน
พรุ่งนี้ผมคิดเพียงว่าถ้าผมสอบเสร็จแล้วจะรีบไปหาพ่อ

ติ๊ด……ติ๊ด……ติ๊ด เสียงนาฬิกาปลุก ปลุกผมตื่นนอน
วันที่ 13 วันนี้ผมต้องรีบไปสอบ ผมรีบอาบน้ำทานอาหารเช้าแล้วคว้ากระเป๋า
และหนังสือคู่มือบ้างเล่มออกจากบ้าน ตอนเที่ยงผมคิดเพียงว่าใกล้แล้วใกล้แล้วอีก 3 วิชา
5 โมงเป็นเวลาที่ผมสอบเสร็จ ผมก็รีบขึ้นรถเมล์ เพื่อจะไปหาพ่อ

โรงพยาบาลรามคำแหง 435 ห้องคุณวินิจ
ผมรีบวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต จนมาถึงหน้าห้องของพ่อ เห็นแม่นั่งร้องไห้อยู่
ผมไม่ทันได้พูดกับแม่ เพราะผมรู้ว่าจะต้องมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นแน่
ผมรีบวิ่งไปที่เตียงของพ่อ พ่อของผมยังนอนอย่างไร้สติ
ไม่มีอีกแล้วที่เรียกว่าลูกผู้ชาย น้ำตาผมเริ่มไหลออกมา ผมบอกพ่อซึ่งไร้สติว่า

"พ่อครับผมสอบเสร็จแล้วครับ พ่อครับ พ่อ พ่อ ตื่นสิครับ พ่อ พ่อ
นี่ลูกของพ่อนะครับ พ่อ ตื่นมาคุยกับผมสิครับ พ่อตื่นมาดูผลเอ็นกับผม พ่อ พ่อ"

ในตอนนั้นแม่ของผมก็วิ่งเข้ามาบอกผมว่า อย่าร้องไห้ อย่าร้องไห้ แต่มันก็ทำใจไม่ได้
น้ำตาของผมและแม่ไหลออกมา แม่บอกผมว่า

"วันนั้นที่พ่อรีบออกไปทำงานแต่เช้าน่ะไม่ใช่หรอก
พ่อจะต้องการรีบไปบน เพื่อให้ลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้
แต่โชคไม่ดีประสบอุบัติเหตุเสียก่อน"

ผมวิ่งไปกอดร่างที่ไร้สติของพ่อ ร้องไห้อย่าไม่มีที่จะสิ้นสุด
แม่ของผมก็รีบให้ผมกลับบ้าน ผมบอกแม่ของผมว่า

"แม่ครับ ผมไม่อยากจะกลับบ้านเลย ผมอยากอยู่กับพ่อของผม"

แต่แม่ก็บอกว่า "กลับเถอะลูกไม่มีคนเฝ้าบ้าน"

ผมเลยจำเป็นต้องกลับ แม่บอกกับผมอีกว่า "ถ้ามีอะไรจะโทรไปนะจ๊ะ"

ในระหว่างกลับ ผมไม่คิดอะไรนอกจากเรื่องของพ่อ ถึงบ้าน 2 ทุ่ม กว่า ๆ ผมก็รีบอาบน้ำขึ้นนอน
ผมนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย นึกถึงแต่พ่อของผม
กริ๊ง…กริ๊ง…กริ๊ง เสียงโทรศัพท์ปลุกผมตื่น ผมรีบไปรับโทรศัพท์
นั่นเป็นเวลาตีสี่ เสียงแม่ของผม พร้อมกับเสียงสะอื้น
บอกผมว่าให้หยิบเสื้อสูทของพ่อที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าแล้วรีบมาที่โรงพยาบาล 
ผมได้ฟังข้อความ ผมแทบไม่เชื่อ ผมแทบจะขาดใจตายตรงนั้น ข้อความสุดท้ายที่แม่พูดก็คือ

"หารูปพ่อมาด้วยนะจ๊ะ"

ผมร้องไห้อีก หมดแล้วกับคนที่ผมรัก ผมรีบไปที่โรงพยาบาล นางพยาบาลบอกกับผมว่า
ตอนที่มาเปลี่ยนถุงน้ำเกลือ เห็นพ่อของผมลืมตา แล้วยิ้ม ตลอดทั้งคืน
แล้วเขาบอกกับนางพยาบาลว่า เขาสบายใจแล้ว ผมได้ยินดังนั้นผมก็ร้องไห้อีก
หมดแล้วคนที่ผมรัก หมดแล้วกับคนที่ผมเรียกว่าพ่อ
ไม่มีคนที่จะมาคอยชงไมโลให้ผม คนที่เคยเป็นห่วงผม
คนที่เคยเป็นทั้งเพื่อนและเป็นอาจารย์ยามที่ผมไม่เข้าใจ
หมดแล้ว หมดทุกสิ่งทุกอย่าง ผมน่าจะบอกว่ารักพ่อ ขณะที่พ่อยังมีชีวิตอยู่

"พ่อ! ผมจะไม่ได้พูดและเรียกพ่ออีก"

น้ำตาแห่งความเศร้าก็เริ่มไหล...

วันที่ 5 เดือนถัดมาประกาศผลเอ็นทราน ผมได้แพทย์ มหิดล
ผมวิ่งไปที่หลุมศพพ่อ แล้วบอกความยินดีแก่พ่อ
ผมอยากให้คนที่ผมรักนั้นอยู่กับผม ซึ่งก็คือพ่อของผม

"ผมอยากบอกพ่อของผมว่า ผมรักพ่อ ผมมีวันนี้เพราะพ่อ
ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อมีให้ผม..."

อย่าให้มันสายเกินไปก่อนที่คุณจะไม่ได้พูดคำคำนี้กับคนที่คุณรัก

…พ่อผมรักพ่อ ...

 

โดย คุณสุญาโณ จงตระกูลศิริ

สถิติการเยี่ยมชม

10487939
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
2372
3833
8915
10448190
8915
124638
10487939
Your IP: 18.223.158.132
Server Time: 2024-12-03 03:53:42

แบบฟอร์ม

instagram

พระศาสนจักร


สื่อ YOUTUBE


Laudato si’

บทเรียนคำสอน





บทภาวนา

พิธีกรรมต่างๆ

เอกสารพระศาสนจักร

บทความคำสอน



KAMSONCHAN

 

   องค์กรคาทอลิก              คณะนักบวช  
 

สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม
แผนกคริสตศาสนธรรม
อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ศูนย์คริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
สังฆมณฑลจันทบุรี
คณะรักกางเขนแห่งจันทบุรี
มูลนิธิสงเคราะห์เด็ก พัทยา
คามิลเลียนโซเชียลเซนเตอร์ ระยอง

  สังฆมณฑลนครราชสีมา                       
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลนครราชสีมา
สังฆมณฑลอุบลราชธานี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลอุบลราชธานี   
สังฆมณฑลราชบุรี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลราชบุรี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลราชบุรี
สังฆมณฑลนครสวรรค์
สังฆมณฑลเชียงใหม่
  สังฆมณฑลสุราษฎ์ธานี
สังฆมณฑลอุดรธานี
ศูนย์คริสตศาสนธรรม สังฆมณฑลอุดรธานี

สภาการศึกษาคาทอลิกประเทศไทย
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อความยุติธรรมและสันติ (ยส.)
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพระคัมภีร์
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อสุขภาพอนามัย
สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย (อุดมสาร)
  ชมรมอธิการิณีเจ้าคณะนักบวชแห่งประเทศไทย
คณะภคินีเซนต์ปอลเดอร์ชาร์ต
คณะภคินีศรีชุมพาบาล       
คณะพระมหาไถ่แห่งประเทศไทย
คณะเซนต์คาเบรียล
คณะซาเลเซียน
คณะซาเลเซียน (ซิสเตอร์)
กางเขนแดงสาร

 



JSN Megazine template designed by JoomlaShine.com