สงครามคือความชั่วร้ายและการดูหมิ่นพระเจ้า (War is an outrage and a blasphemy)
โอกาสการเข้าเฝ้าทั่วไปในวันพุธที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2022 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงประณามการใช้อำนาจและความรุนแรงว่า เป็นสิ่งตรงกันข้ามกับสันติสุขที่พระเยซูเจ้านำมาให้ และการใช้อาวุธเป็นสิ่งที่ทำให้ขุ่นเคืองพระทัยของพระเจ้า
หนทางแห่งความอ่อนโยนและไม้กางเขน (The way of meekness and the Cross)
จากวันอาทิตย์ใบลาน วันเริ่มต้นสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ เราระลึกถึงการเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่าของพระเยซูเจ้า ประชาชนได้ออกมาต้อนรับพระองค์ดังเช่นพระเมสสิยาห์ ผู้ที่นำสันติสุขมาให้จากการปลดปล่อยจากผู้มีอำนาจทางการเมือง หรือเปิดยุคใหม่แห่งความยุติธรรมทางสังคม
แต่ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ประชาชนคิด พระเยซูเจ้าประทับนั่งบนหลังลา เพื่อมอบสันติสุขอาศัยความสุภาพและถ่อมตนของพระองค์ (มิใช่กษัตริย์ที่ขี่ม้าออกไปรบเพื่อทำศึกสงคราม) เป็นลาที่ยังไม่เคยมีใครขี่มาก่อน (มก 11:2) นั่นหมายความว่า สันติสุขที่พระองค์นำมาให้ ไม่เหมือนกับสันติสุขที่ใช้อำนาจแบบทางโลก หรือใช้กำลังเพื่อให้ได้มา
สันติสุขของพระคริสตเจ้า (The peace of Christ)
หนทางของพระเจ้าแตกต่างจากหนทางของโลกนี้ พระเยซูเจ้าไม่ได้ใช้ความรุนแรง หรือการแทรกแซงเพื่อให้ได้มาซึ่งสันติภาพ ซึ่งจะกลายเป็นเพียงสันติภาพที่จอมปลอมที่แลกมาด้วยการทำสงคราม
สันติสุขของพระเยซูเจ้าเกิดมาจากความอ่อนโยนและไม้กางเขน นั่นเป็นความรับผิดชอบที่เราพึงมีต่อคนอื่น ดังเช่นพระเยซูเจ้าทรงเอาชนะบาปและความชั่วร้าย และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อช่วยเราให้รอดพ้น
การทรยศอย่างเหยียดหยามต่อองค์ปัสกา (A blasphemous betrayal of the Lord of Passover)
สันติสุขที่พระเยซูเจ้านำมาให้ ไม่ใช่การมีอำนาจเหนือคนอื่น หรือการใช้อาวุธบีบบังคับ แต่อาวุธของพระวรสารคือการสวดภาวนา ความอ่อนโยน การให้อภัย และการให้ผู้อื่นด้วยความรักอย่างอิสระ
สงครามไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความขัดแย้งเท่านั้น แต่เป็นความชั่วร้ายที่ต่อต้านพระเจ้า เป็นการทรยศอย่างเหยียดยามต่อองค์ปัสกา (พระเยซูเจ้า) เป็นการปรากฏโฉมหน้าของพระเท็จเทียมในโลกนี้ ซึ่งสันติสุขที่แท้จริงพบได้ในใบหน้าอันอ่อนโยนของพระเยซูเจ้าเท่านั้น การทำสงครามถือได้ว่าเป็นการบูชาพระเท็จเทียมบนโลกนี้
วิงวอนขอพระเยซูเจ้าเพื่อสันติภาพ (Asking Christ for peace)
ในพระโอวาทของพระเยซูเจ้าที่ตรัสว่า จงอย่ากลัวหรือจงอย่าได้หวั่นไหวเลย แม้ว่าอำนาจของโลกนี้จะทิ้งความตายและความพินาศไว้ก็ตาม แต่สันติสุขของพระเยซูเจ้าจะสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นใหม่ โดยเริ่มต้นในหัวใจของทุกคนที่ต้อนรับพระองค์ โดยเฉพาะในเทศกาลปัสกาที่กำลังจะมาถึง เป็นการฉลองเที่ยงแท้ของพระเจ้าและมนุษยชาติ เพราะสันติสุขที่พระเยซูเจ้านำมามอบให้ ทรงแลกมาด้วยกางเขน อาศัยความทุกข์ทรมาน และความตายของพระองค์เพื่อพวกเราทุกคน
คำว่า “ปัสกา” หมายถึง “การก้าวผ่าน” เป็นโอกาสดีที่เราจะก้าวผ่านจากพระเจ้าเท็จเทียมของโลกนี้ไปสู่พระเจ้าเที่ยงแท้ของคริสตชน จากความโลภที่เห็นแก่ตัวไปสู่กิจการแห่งความรัก ที่ทำให้พวกเราได้มีอิสระอย่างแท้จริง มากกว่าสันติภาพที่ได้มาด้วยกำลังและการใช้อาวุธ แต่เป็นการพยายามดำเนินชีวิตด้วยการเป็นประจักษ์พยานถึงองค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงนำสันติสุขที่แท้จริงมาสู่โลก
ให้เราได้วางตัวเองต่อหน้าพระเยซูเจ้าผู้ทรงถูกตรึงกางเขน ผู้ทรงเป็นพุน้ำแห่งสันติสุขของเรา และวิงวอนขอสันติสุขจากพระองค์ในจิตใจของเรา และสันติสุขในโลกนี้ ...