#พระเมตตาของพระเยซูเจ้านำเราไปสู่ความทุกข์ทรมานของผู้อื่น (Divine Mercy opens us to suffering of others)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2022 โอกาสฉลองพระเมตตาของพระเยซูเจ้า พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงมอบหมายให้อาร์คบิชอปริโน ฟิสิเชลลา (Archbishop Rino Fisichella) ประธานสมณสภาเพื่อการประกาศข่าวดีในยุคใหม่ (Pontifical Council for Promoting the New Evangelization) เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณ (เพราะพระองค์ท่านทรงเจ็บหัวเข่ามากทำให้ยืนเป็นระยะเวลานานไม่ได้)
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงกล่าวถึงคำพูดของพระเยซูเจ้าจำนวน 3 ครั้งกับบรรดาศิษย์ว่า “สันติสุขจงอยู่กับท่าน” หลังจากทรงสิ้นพระชนม์และทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว คำพูดเหล่านี้แสดงให้เห็นถึง 1) พระเมตตาของพระเจ้าที่นำสันติสุขมาให้คริสตชน 2) การอภัยบาป และ 3) ทรงช่วยเหลือเราในยามยากลำบากของชีวิต
#ทรงเติมเต็มเราด้วยความชื่นชมยินดี (Filling us with joy)
ครั้งแรกที่พระเยซูเจ้าตรัสว่า “สันติสุขจงอยู่กับท่าน” กับบรรดาศิษย์ในค่ำวันอาทิตย์ที่พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพ ในห้องที่บรรดาศิษย์ปิดประตูอยู่เพราะกลัวชาวยิว เมื่อให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และสีข้างของพระองค์แล้ว พวกเขาก็มีความชื่นชมยินดี (ยน 20:19-20)
หลังจากที่พวกเขารวมตัวกันด้วยความหวาดกลัวเป็นระยะเวลา 3 วัน พวกเขารู้สึกแบกความล้มเหลวเอาไว้ หลังจากที่ละทิ้งอาจารย์ของพวกเขา และปฏิเสธพระองค์ในช่วงระยะเวลาแห่งพระมหาทรมาน พวกเขาจึงรู้สึกละอายใจที่พบพระเยซูเจ้าท่ามกลางพวกเขา การมอบสันติสุขของพระคริสตเจ้าแสดงถึงการอภัย และไม่พูดถึงเรื่องอดีตที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ทำให้พวกเขาได้ปลดปล่อยตนเองให้เป็นอิสระจากความรู้สึกเหล่านั้น และเปลี่ยนความสนใจมาที่พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ
พระเยซูเจ้าไม่ได้ไปกล่าวโทษพวกเขาถึงสิ่งที่พวกเขาได้กระทำ แต่ทรงสำแดงความสุภาพอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด และสิ่งนี้เอง ที่ทำให้บรรดาศิษย์มีสันติสุข ที่ขาดหายไปในหัวใจของพวกเขา ทำให้พวกเขาเป็นบุคคลใหม่ พวกเขาได้รับการชำระล้างด้วยการอภัย แม้ว่าไม่สมควรจะได้รับก็ตาม
ความชื่นชมยินดีที่พระเยซูเจ้านำมาให้ ช่วยขจัดความล้มเหลวของเราออกไป และช่วยเหลือเราให้สามารถสวมกอดพระเมตตาของพระเจ้าได้ เป็นความยินดีที่เกิดขึ้นจากการได้รับการอภัย พระเยซูเจ้าช่วยยกเราขึ้นมา โดยไม่ทำให้เราอับอายขายหน้า
#ยกโทษให้กับเรา (Granting us forgiveness)
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “สันติสุขจงอยู่กับท่าน” เป็นครั้งที่สอง กับบรรดาศิษย์อีกครั้งติดต่อกัน หลังจากที่ทรงกล่าวว่า “พระบิดาทรงใช้เรามาฉันใด เราก็ใช้ท่านทั้งหลายไปฉันนั้น” (ยน 20:21) หลังจากบรรดาศิษย์ได้รับการอภัยแล้ว พวกเขาถูกแต่งตั้งให้เป็น “ตัวแทนแห่งการคืนดี” เพื่อแจกจ่าย “พระเมตตาที่พวกเขาได้รับ”
ในวันนี้และในทุก ๆ วัน การให้อภัยในพระศาสนจักรจะต้องถูกกระทำเช่นเดียวกัน อาศัยความสุภาพอ่อนโยนของผู้ที่ประกาศความรักความเมตตา มิใช่ด้วยอำนาจบางอย่างที่มีอยู่ แต่เป็นท่อธารแห่งความเมตตาที่หลั่งไหลไปสู่ผู้อื่น ด้วยการอภัยบาปเช่นเดียวกับที่พวกเขาเองก็ได้รับเช่นเดียวกัน พระเยซูเจ้าได้ทำให้พระศาสนจักรทั้งหมดเป็นชุมชนที่แจกจ่ายความเมตตา เป็นเครื่องหมายและเครื่องมือแห่งการคืนดีของมนุษยชาติ เราแต่ละคนต้องแจกจ่ายพระเมตตาของพระเจ้า กับบุคคลที่อยู่รอบข้างเรา ในทุก ๆ สถานการณ์ของชีวิต
#บรรเทาใจพวกเรา (Offering us comfort)
พระเยซูเจ้าทรงตรัสว่า “สันติสุขจงอยู่กับท่าน” เป็นครั้งที่สาม ในวันที่เก้าหลังจากทรงกลับคืนพระชนมชีพ ซึ่งโทมัสผู้ที่ไม่เชื่อว่าพระองค์กลับคืนพระชนมชีพแล้วอยู่ร่วมกับศิษย์คนอื่น ๆ แทนที่พระเยซูเจ้าจะทรงตำหนิโทมัส แต่กลับเรียกเขามา และอนุญาตให้เขาเอามือแหย่เข้าไปในบาดแผลอันศักดิ์สิทธิ์ที่สีข้าง (ด้านข้างพระวรกาย) ของพระองค์ (ยน 20:26-27)
พระเยซูเจ้าไม่ทรงกริ้วโกรธโทมัส ทำให้ท่านซาบซึ้งถึงพระเมตตาของพระองค์ในครั้งนี้ จากผู้ที่มีความสงสัย ไม่เชื่อ กลายเป็นบุคคลที่มีความเชื่อ และประกาศความเชื่อออกมาอย่างเรียบง่ายที่สุดและดีที่สุดว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้า” (ยน 20:28)
#พระเมตตาของพระเจ้านำเราไปสู่ความทุกข์ทรมานของผู้อื่น (Divine Mercy opens us up to suffering of others)
ความศรัทธาที่เรามีต่อพระเมตตาของพระเจ้า ช่วยให้เราได้มองเห็นบาดแผลของบรรดาพี่น้องชายหญิงของเรา ลองคิดดูว่า หากเรากำลังได้รับความเจ็บปวดอย่างที่เราไม่สามารถจะทนได้ ในขณะที่คนอื่นรอบข้างเรายืนดูความเลวร้ายอยู่เงียบ ๆ หากเราใส่ใจกับบาดแผลของเพื่อนพี่น้องของเรา และหยิบยื่นยาหม่องแห่งความเมตตา (the balm of mercy) เราจะพบว่า ได้มีความหวังเกิดขึ้นในตัวของเรา ที่คอยปลอบประโลมเราในวันที่เหนื่อยล้า
โอกาสฉลองพระเมตตาของพระเจ้า ให้เราได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือผู้อื่น ฟังเสียงของผู้อื่นที่อยู่รอบข้างเรา ที่กำลังทุกข์ทรมานอยู่ สายตาของบรรดาผู้ที่กำลังแบกภาระหนักจะมองกลับมาที่เราด้วยความเมตตา และพูดกับเราเช่นเดียวกับที่พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “สันติสุขจงอยู่กับท่านทั้งหลาย” ...