การเป็นครูคือการดำเนินชีวิตตามพันธกิจที่ได้รับ (To be a teacher is to live a mission)
เมื่อวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2022 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงต้อนรับคณะซิสเตอร์จากสถาบันมาเอสเทร พีเอ ฟิลิปปินี่ (Maestre Pie Filippini Institute) โอกาสครบรอบวันเกิด 350 ปี ของนักบุญลูชีอา ฟิลิปปีนี่ (Lucia Filippini) ผู้ก่อตั้งคณะ และนักการศึกษาที่นำพระเยซูเจ้ามาเป็นศูนย์กลางของชีวิต, คณะผู้แสวงบุญจากสังฆณฑลวิเทร์โบ (Viterbo), สังฆมณฑลชิวิตาเว็คเคียอา-ทาร์ควีนีอา (Civitavecchia-Tarquinia) ประเทศอิตาลี รวมถึงเด็ก ๆ ที่กำลังเตรียมตัวเพื่อรับศีลมหาสนิทเป็นครั้งแรก
การสอนและพันธกิจ (Teaching and mission)
เมื่อไตร่ตรองการทำงานของซิสเตอร์คณะนี้ ซึ่งมีบทบาทในการเป็น “อาจารย์” หรือ “ครู” พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงยกสุภาษิตที่ว่า “เราไม่ได้สอนในสิ่งที่รู้ แต่สิ่งที่เราเป็น” เราถ่ายทอดไปยังผู้อื่นในสิ่งที่อยู่ภายในของเรา การเติมเต็มความรู้ให้กับผู้อื่นอย่างเดียวเป็นสิ่งที่ไม่เพียงพอ การให้การศึกษาคือการถ่ายทอดชีวิต การเป็นครูคือการดำเนินชีวิตตามพันธกิจที่ได้รับ โดยบรรดาซิสเตอร์ควรจะเลียนแบบผู้ก่อตั้งคณะของตน
การถ่ายทอดความเชื่อ (Transmission of faith)
นักบุญลูชีอารู้วิธีการสอนอันหลากหลาย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ตัวของเธอเองไม่เคยหยุดที่จะเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นอาจารย์ที่เที่ยงแท้ และยืนอยู่แทบไม้กางเขนของพระองค์ สิ่งที่เธอเก็บรักษาไว้อยู่ในใจเสมอก็คือ “ความรักในพระเจ้า” เราไม่สามารถที่จะสอนเรื่องพระเยซูเจ้าได้ หากเราไม่ได้เป็นพยานถึงพระองค์
พระเจ้าจะสื่อสารได้ก็ต่อเมื่อ พระองค์ทรงสถิตในชีวิตของเรา เติมเต็มความรักของเรา ทรงรวมความคิดของเรา และเป็นแรงบันดาลใจในการกระทำของเรา คนที่รู้จักพระเจ้าจะไม่ปิดตัวเองในอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ออกไปรับใช้ผู้อื่น โดยไม่ต้องสนใจว่าเราถูกขอให้ทำอะไรที่ไหนหรือทำอะไร เป็นการทำให้พระเยซูเจ้าทรงกระทำงานผ่านทางตัวของเราแต่ละคน ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนา เราจะเป็นครูที่ดีได้ถ้าหากเรายังคงเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า ด้วยการได้รับเรียกให้รับใช้ในแต่ละวันด้วยความชื่นชมยินดี
ความลับของนักบุญลูชีอา (St Lucia’s secret)
เธอมีความเชื่อที่มันคงในพระเจ้าในฐานะที่เป็นบิดาของเธอ หลายครั้งในชีวิตที่เรากังวลเพราะต้องละทิ้งหลายสิ่งหลายอย่างไว้ข้างหลัง ความปลอดภัย ความเยาว์วัย สุขภาพ และบุคคลที่เรารัก
หากในชีวิตมีคนและสิ่งต่าง ๆ ที่เราต้องละทิ้งไม่ช้าก็เร็ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่จะไม่มีวันทอดทิ้งเรา เป็นความแน่นอนพื้นฐานที่จะอยู่กับเราเสมอ และไม่มีสิ่งใดและไม่มีใครสามารถลบล้างได้ นั่นก็คือ พระเจ้ายังคงเป็นบิดาของเราเสมอ แม้ทุกสิ่งสามารถทำให้เราได้ผิดหวัง แต่ไม่ใช่ความอ่อนโยนของพระเจ้า
ขอให้เราได้จดจำสิ่งนี้ไว้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เรามืดมน พระเจ้าไม่ทรงเคยทอดทิ้งเรา พระองค์ไม่สามารถละทิ้งการเป็นพระบิดาของเราได้ ...