ให้เราดำเนินชีวิตตามความฝันของพระเจ้าด้วยความชื่นชมยินดีเช่นเดียวกับบรรดานักบุญที่ได้รับการสถาปนาในวันนี้ (Like new saints, let's live God's dream joyfully)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2022 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงประกอบมหาพิธีบูชาขอบพระคุณเพื่อสถาปนานักบุญ 10 องค์ใหม่ ณ จัตุรัสนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน ท่ามกลางบรรดาคริสตชนผู้ศรัทธากว่า 50,000 คน
การสถานปนานักบุญองค์ใหม่ 10 องค์ (Canonization of 10 New Saints) ได้แก่
1. นักบุญทิตัส บรานด์สมา (Titus Brandsma)
2. นักบุญลาซาลัส ดีวาสะหะยาม (Lazzarus Devasahayam)
3. นักบุญเซซาร์ เด บุส (César de Bus)
4. นักบุญหลุยจี มารีอา พาลาสโซโล (Luigi Maria Palazzolo)
5. นักบุญจิอุสติโน่ มารีอา รุสโซลิลโล่ (Giustino Maria Russolillo)
6. นักบุญชาร์ล เดอ ฟูโก (Charles de Foucauld)
7. นักบุญมารีอา ริเวียเออร์ (Maria Rivier)
8. นักบุญมารีอา ฟรานเซสคา แห่ง พระเยซู รูบาสโต (Maria Francesca of Jesus Rubatto)
9. นักบุญมารีอาแห่งพระเยซู ซานโตคานาเล (Maria of Jesus Santocanale)
10. นักบุญมารีอา โดเมนีกา ทานโตวานี (Maria Domenica Mantovani)
หัวข้อบทเทศน์ของพระสันตะปาปาฟรังซิสนำมาจากพระวรสารของนักบุญยอห์นที่กล่าวว่า “เราให้บทบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลายให้ท่านรักกัน เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด” (ยน 13:34)
นี่เป็นมรดกที่พระเยซูเจ้าทรงมอบให้กับเรา และเป็นมาตรฐานที่ชี้วัดว่า เราได้เป็นศิษย์ของพระองค์จริง ๆ หรือไม่ เป็นกฎบัญญัติแห่งความรัก ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประการ คือ
1) ความรักของพระเยซูเจ้าที่ทรงมีต่อเรา
2) ความรักที่พระองค์ทรงเรียกร้องให้เราปฏิบัติต่อคนอื่น
ความรักเป็นคำจำกัดความของการเป็นคริสตชน (Love, defines our being Christian)
พระเยซูเจ้าทรงรักเราเป็นอย่างมาก พระองค์ประทานพระหรรษทานของพระองค์ทังหมดให้กับพวกเรา พวกเราจงจดจำว่า ความสามารถและความดีงามของเราทั้งหมดไม่ใช่ศูนย์กลางของสรรพสิ่งทั้งหลายที่เรากระทำ แต่เป็นความที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้า อิสระเสรีภาพ และความรักอันไม่มีขอบเขตของพระเจ้าที่มีต่อเราแต่ละคน
ในชีวิตของเราคริสตชนไม่ได้เริ่มต้นจากข้อความเชื่อหรือคุณงามความดีเพียงแค่อย่างเดียว แต่เป็นความประทับใจที่เกิดจากการตระหนักว่า เราเป็นที่รักของพระเจ้า (we are loved) จากนั้นจึงเป็นการตอบสนองความรักนี้ด้วยความเชื่อ และการกระทำคุณงามความดีของเรา
โลกพยายามโน้มนำคุณค่าของชีวิตและสิ่งของต่าง ๆ ว่าขึ้นอยู่กับความสามารถในการผลิต (productive) ความสามารถในตัวเอง และความมีประโยชน์ หากของสิ่งใดหรือแม้กระทั่งชีวิตที่ไม่สามารถทำงานได้ ไม่ให้ประโยชน์ สิ่งนั้นไม่มีคุณค่าในตัวเอง แต่ในพระพระวรสารเตือนใจของเราว่าพระเจ้าทรงรักเรา การได้รับความรักเป็นส่วนสำคัญของเอกลักษณ์ของคริสตชน และความเข้มแข็งของเรา
การทบทวนความหมายของคำว่าศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งหนึ่ง (Rethinking the meaning of holiness)
เมื่อเราคิดถึง “ความศักดิ์สิทธิ์” หลายครั้งเราคิดถึงการทำความดีต่าง ๆ เราคิดถึงความศักดิ์สิทธิ์อันอยู่บนพื้นฐานตัวของเราเอง ความกล้าหาญส่วนบุคคลของเรา ความสามารถในการเสียสละของเรา ความพร้อมของเราสำหรับการเสียสละเพื่อที่จะไปรับรางวัล ด้วยวิธีนี้ เราได้เปลี่ยนความศักดิ์สิทธิ์เป็นเป้าหมายที่ไม่สามารถบรรลุได้ เราได้แยกมันออกจากชีวิตประจำวัน แทนที่จะมองหามันและโอบรับมันในชีวิตประจำวันของเรา
การเป็นศิษย์ของพระเยซูและการก้าวไปสู่เส้นทางแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ความหมายประการแรกก็คือ การยอมให้ตัวเราถูกเปลี่ยนแปลงด้วยพลังแห่งความรักของพระเจ้า ความรักที่เราได้รับมาจากพระเจ้า เป็นพลังที่เราจะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลง และเปิดหัวใจของเราเพื่อสามารถที่จะรัก
ในทางปฏิบัติเราจะสามารถดำเนินชีวิตในความรักนี้ได้อย่างไร? นั่นคือการรับใช้และการมอบชีวิตของตนเอง การรับใช้นั่นหมายถึง การไม่ได้คิดถึงตนเองมาเป็นอันดับแรก แต่เป็นการล้างพิษแห่งความโลภ และการแข่งขันของตนเองกับผู้อื่น เพื่อต่อสู้กับมะเร็งแห่งความเฉยเมย และหนอนแห่งการอ้างแต่เหตุผลของตนเอง เพื่อแบ่งปันพรสวรรค์และพระพรที่พระเจ้าประทานให้แก่เรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราควรที่จะถามตัวเราเองว่า “เรามีความรักสำหรับผู้อื่นหรือไม่?”
กิจการเล็กๆของความรักประจำวัน (Small acts of daily love)
“การอุทิศชีวิตของตนเอง” แตกต่างจากการมอบสิ่งของหรือวัตถุของตนเองให้กับผู้อื่น แต่เป็นการยอมมอบตัวตนของตนเอง ต้องเอาชนะความเห็นแก่ตัว เพื่อที่จะทำให้ชีวิตของตนเองเป็นของขวัญให้กับคนอื่น โดยการมองความต้องการของบุคคลที่อยู่รอบข้าง พยายามที่จะช่วยเหลือผู้อื่น การฟังด้วยความอดทน การใช้เวลากับพวกเขา หรือการโทรศัพท์ไปพูดคุยด้วย ความศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่การกระทำที่กล้าหาญใหญ่โตอะไร แต่เป็นกิจการแห่งความรักเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรากระทำในแต่ละวัน
- หากคุณถูกเรียกมาให้ดำเนินชีวิตนักบวช จงดำเนินชีวิตด้วยการอุทิศตนเองด้วยความชื่นชมยินดี
- หากคุณแต่งงาน จงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยการรักและดูแลสามีหรือภรรยาของคุณ ดังเช่นพระเยซูเจ้าทรงรักพระศาสนจักร
- หากคุณเป็นผู้ที่ทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพ จงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยการทำงานอย่างบูรณาการและใช้ทักษะในการรับใช้เพื่อนพี่น้องของคุณ
- หากคุณเป็นพ่อแม่ผู้ปกครอง จงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ในความพากเพียรอดทนเพื่อสั่งสอนลูกของคุณให้รู้จักติดตามพระเยซูเจ้า
- หากคุณอยู่ในตำแหน่งผู้มีอำนาจ จงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ในการทำหน้าที่เพื่อคุณงามความดีของส่วนรวมและปฏิเสธการแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวเอง (Gaudete et Exsultate 14)
- กระแสเรียกของเรามีเพื่อการรับใช้ผู้อื่น และมอบชีวิตของตนเองให้โดยไม่หวังว่าจะได้สิ่งใดกลับคืนมา
ความฝันของพรเจ้าสำหรับชีวิตของเรา (God's dream for your life)
เช่นเดียวกับบรรดานักบุญองค์ใหม่ 10 องค์ ที่ได้รับการแต่งตั้งในวันนี้ พวกเขาดำเนินชีวิตในความศักดิ์สิทธิ์ มีความกระตือรือร้นในการดำเนินชีวิตตามกระแสเรียกที่พวกเขาได้รับ ดังเช่น พระสงฆ์ นักบวชหญิง หรือคริสตชนฆราวาส พวกเขาได้อุทิศชีวิตของตนเองเพื่อเห็นแก่พระวรสาร พวกเขาได้ค้นพบความชื่นชมยินดีอย่างหาที่เปรียบมิได้ และได้กลายเป็นภาพสะท้อนอันเจิดจ้าของพระเจ้าแห่งประวัติศาสตร์
จงเลียนแบบบรรดานักบุญเหล่านี้ ตามกระแสเรียกที่เราได้รับ ในรูปแบบความศักดิ์สิทธิ์ของเราเอง ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน จงอย่าลืมว่า พระเจ้ามีความฝันสำหรับชีวิตของเรา จงต้อนรับความฝันนั้น และไล่ตามด้วยความชื่นชมยินดี ...