ผู้นำของรัฐบาลและผู้นำศาสนจักรของสหรัฐฯ ผลักดันมาตรการควบคุมอาวุธปืนให้ดีขึ้น (US State and Church leaders push for better gun-control measures)
จากปรากฎการณ์การใช้อาวุธปืนในที่สาธารณะที่เกิดขึ้นในปี 2022 ซึ่งมีมากกว่า 200 ครั้ง เมื่อวันอังคารที่ 31 พฤษภาคม 2022 สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา และนายโจ ไบเด็น ประธานาธิบดีแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อเรียกร้องให้มีมาตราการการใช้อาวุธปืนให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงประณามเหตุการณ์กราดยิง และการค้าอาวุธโดยปราศจากการควบคุมที่ดี
เช่น
- การกราดยิงครั้งใหญ่ในรัฐเท็กซัสและรัฐนิวยอร์ก เด็กวัยรุ่นอายุ 18 ปี ได้ใช้ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติยิงผู้คนเสียชีวิต 31 ราย
- วันพุธที่ 1 มิถุนายน 2022 ที่เมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา มือปืนอีกคนหนึ่งยิงผู้เคราะห์ร้ายเสียชีวิต 4 คนและตัวเขาเองที่โรงพยาบาล
- ในรัฐเท็กซัสสัปดาห์ที่แล้ว โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเมืองอูวาลเด นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 19 คน และครูจำนวน 2 คน ถูกยิงเสียชีวิต
- เมื่อเดือนที่แล้ว ในนิวยอร์ก มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บอีก 3 คน จากการยิงกันที่ร้านขายของชำในเมืองบัฟฟาโล
#ใบอนุญาตถืออาวุธปืน (Gun-control Bill at stake)
ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรกำลังดำเนินการเรื่องใบอนุญาตการถืออาวุธปืน คณะกรรมการตุลาการก็ได้มีมติเพิ่มขีดจำกัดอายุสำหรับการซื้อปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติจาก 18 ปี เป็น 21 ปี จากการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน 2022 ที่ผ่านมา
ร่างกฎหมายดังกล่าวยังทำให้การนำเข้า ผลิต หรือนิตยสารที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนต้องได้ขออนุญาตจากรัฐบาลกลาง และจะมีงบประมาณเพื่อซื้อนิตยสารดังกล่าวกลับคืนมา
พระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสว่า พอได้แล้ว (Enough!)
พระสันตะปาปาฟรังซิสเรียกร้องให้ยุติการค้าอาวุธตามอำเภอใจ ในวันรุ่งขึ้นหลังเกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนประถมในรัฐเท็กซัส โดยกล่าวว่า พระองค์ทรงสวดอ้อนวอนให้เด็กและผู้ใหญ่ที่เสียชีวิต และครอบครัวของพวกเขา และกล่าวว่า “ถึงเวลาต้องแล้วที่จะหยุดการค้าอาวุธตามอำเภอใจ ขอให้พวกเราทุกคนมุ่งมั่นเพื่อที่โศกนาฏกรรมดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีก”
พระองค์ยังส่งข้อความไปยังอาร์คบิชอป กุสตาโว การ์เซีย-ซิลเลอร์ แห่งสังฆมณฑลซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส (Archbishop Gustavo Garcia-Siller of San Antonio) เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ด้วยความใกล้ชิดทางจิตวิญญาณของพระองค์ กล่าวว่า “ด้วยความเชื่อมั่นในองค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ อย่าให้ความชั่วชนะเราได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี” (โรม 12:21) และทรงอธิษฐานภาวนาว่า “ขอให้ผู้ได้รับความรุนแรงจงเลือกหนทางแห่งความเป็นพี่น้องกันอย่างแท้จริงและความรัก” (การให้อภัยกันแทนการแก้แค้น)
ไม่สามารถที่จะเป็นวิถีชีวิตใหม่ (Cannot be the new ‘normal’)
โดยอาร์คบิชอป กุสตาโว ได้กล่าวว่า “เมื่อไหร่จะสิ้นสุดการกระทำรุนแรงที่บ้าคลั่งเหล่านี้? มันเป็นเรื่องใหญ่โตเกินไปกว่าที่จะสามารถรับได้ คำว่าโศกนาฏกรรมไม่สามารถที่จะบรรยายสิ่งที่ได้เกิดขึ้นนี้ได้ การสังหารหมู่เหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นวิถีชีวิตใหม่”
มาตรการความปลอดภัยของปืนจะช่วยสร้างความแตกต่าง (Gun-safety measures make a difference)
พระคาร์ดินัลบลาซ โจเซฟ คูปิช แห่งอัครสังฆมณฑลชิคาโก (Cardinal Blase Joseph Cupich, Archbishop of Chicago) ยังกล่าวประณามการสังหารหมู่ด้วยว่า "สิทธิในการถืออาวุธจะไม่มีความสำคัญมากกว่าชีวิตมนุษย์ ลูกหลานของเราก็มีสิทธิเช่นกัน และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการเลือกตั้งของเรามีหน้าที่ทางศีลธรรมในการปกป้องพวกเขา"
มาตรการใบอนุญาตการถืออาวุธปืนช่วยป้องกันการก่อการร้ายได้ 10 ครั้ง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และการต่อใบอนุญาตการถือปืนเมื่อหมดอายุก็มีความสำคัญ เพราะหากไม่มีการต่อใบอนุญาตการถือปืนก็จะช่วยทำให้ลดการยิงฝูงชนจำนวน 30 ครั้ง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 339 ราย และบาดเจ็บอีก 1,139 ราย
ถวายดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตไว้ในความดูแลของพระนางมารีย์ (Entrusting the deceased to Our Lady)