ผู้สูงอายุแสดงให้เราเห็นความอ่อนโยนของพระเจ้า (The elderly show us the tenderness of God)
เมื่อวันพุธที่ 9 มิถุนายน 2022 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงสอนคำสอนต่อเนื่องเรื่องผู้สูงอายุ ณ จัตุรัสนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน โดยนำเรื่องของนิโคเดมัส (ยน 3) มาเปรียบเทียบเรื่องความอ่อนโยนของบรรดาผู้สูงอายุและปู่ย่าตายาย ซึ่งเทียบเท่ากับความอ่อนโยน ปรีชาญาณ และความรักของพระเจ้า
จงดูเถิด เวลาปู่ย่าตายายได้มองดูไปยังลูกหลานของเขา เวลาที่พวกเขาโอบกอดบรรดาเด็ก ๆ นั่นคือความอ่อนโยนที่ปราศจากความทุกข์ของมนุษย์ ที่เอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิตของมนุษย์ ทำให้เราสามารถรักคนอื่นได้อย่างอิสระ เป็นความรักอย่างใกล้ชิดของคน ๆ หนึ่งกับบุคคลอื่น
ความอ่อนโยนที่สามารถเห็นได้นี้ เป็นการเปิดประตูไปสู่ความเข้าใจความอ่อนโยนของพระเจ้า พระองค์ทรงทราบดีว่าจะสวมกอดพวกเราแต่ละคนอย่างไร
การเกิดใหม่ไม่ใช่ดำเนินชีวิตอยู่อย่างเดิมตลอดไป (Born anew, not living forever)
พระเยซูเจ้าทรงตรัสกับนิโคเดมัสว่า “ไม่มีใครสามารถเห็นอาณาจักรของพระเจ้าได้ ถ้าพวกเขาไม่ได้เกิดใหม่ด้วยน้ำและด้วยพระจิตเจ้า” (ยน 3:3) นี่เป็นการเกิดใหม่ทางจิตวิญญาณ มิใช่การเกิดใหม่ทางร่างกาย ซึ่งไม่ได้ลบล้างหรือเบี่ยงเบนคุณค่าต่าง ๆ ของการดำรงอยู่บนโลกของเรา แต่เป็นสาเหตุแห่งการได้รับชีวิตนิรันดรและความชื่นชมยินดีแห่งสวรรค์
ในยุคของเรานี้ ผู้คนกำลังไล่ล่าเพื่อให้ได้มาซึ่งความเยาว์วัยตลอดนิรันดร แต่เราจำเป็นต้องเรียนรู้จากความจริง และมองให้เห็นว่า ทุกวัยของชีวิตเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับความสุขนิรันดรที่พระเจ้าเตรียมมอบไว้ให้กับเรา
เช่นเดียวกับที่พระเยซูเจ้าทรงตรัสกับนิโคเดมัสว่า “พระเจ้าทรงรักโลกนี้อย่างมา จึงทรงยอมมอบพระบุตรพระองค์เดียว เพื่อที่ทุกคนที่เชื่อในพระองค์จะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร” (ยน 3:16)
การเป็นพยานถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าท่ามกลางเรา (Witness to God's presence in our midst)
ผ่านทางความเชื่อของบรรดาผู้สูงอายุ ปรีชาญาณ และประสบการณ์ สามารถเป็นพยานยืนยันถึงการประทับอยู่ของอาณาจักรของพระเจ้าท่ามกลางเรา และความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ซึ่งเปรียบเสมือนการลิ้มชิมรสล่วงหน้าถึงความหนุ่มสาวนิรันดร (eternal youth) ที่เราจะได้รับจากการเป็นสิ่งสร้างใหม่ผ่านทางพระเยซูเจ้าและพระจิตเจ้า
ความงดงามของผู้สูงอายุ (the beauty of old age)
บรรดาผู้สูงอายุกำลังเดินไปข้างหน้าสู่เป้าหมาย ไปยังสวรรค์ของพระเจ้า ดังนั้น จึงเป็นช่วงระยะเวลาพิเศษที่จะแยกแยะชีวิตฝ่ายร่างกาย และการดำเนินชีวิตแบบหุ่นยนต์ (ไร้ชีวิตชีวา) ไปสู่การการเป็นสิ่งสร้างใหม่ที่สร้างสรรค์ของพระเจ้า ในความอ่อนโยนของพระองค์
ขอพระจิตเจ้าได้เปิดจิตใจของเราสำหรับการบังเกิดใหม่ฝ่ายจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นพันธกิจของผู้สูงอายุ ในการคืนดีกับพระเจ้าและการบังเกิดใหม่จากเบื้องบน
เมื่อเราได้คิดถึงวัยชราในมุมมองเหล่านี้ ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมวัฒนธรรมแบบทิ้งขว้าง จึงตัดสินใจทอดทิ้งผู้สูงอายุ โดยพิจารณาว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ แต่ตรงกันข้าม บรรดาผู้สูงอายุเป็นผู้ส่งสารจากอนาคต สารแห่งความอ่อนโยน เต็มเปี่ยมไปด้วยปรีชาญาณและประสบการณ์ในชีวิต ให้เราก้าวหน้าไปด้วยกันและช่วยกันดูแลผู้สูงอายุ ...