อัครสาวกของพระคริสตเจ้าคือการเป็นพยานถึงพระองค์ (An apostle of Christ is a witness)
เมื่อวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2022 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงตรัสกับผู้เข้าร่วมสมัชชาใหญ่ของคณะมิชชันนารีแห่งแอฟริกาหรือคุณพ่อชุดขาว (Missionaries of Africa หรือ The White Fathers) ณ นครรัฐวาติกัน
ความกตัญญู (Gratitude)
พระสันตะปาปาทรงเน้นถึงความสำคัญของการมองย้อนกลับไปด้วยความสำนึกคุณ เมื่อได้ยินว่าบรรดามิชชันนารีมีการสมัชชาใหญ่ในหัวข้อ “ด้วยความกตัญญูและด้วยความหวัง” การมองย้อนกลับไปด้วยความกตัญญูเป็น “สัญญาณของการมีสุขภาพที่ดีทางจิตวิญญาณ” และเป็นทัศนคติในเชิงเฉลยธรรมบัญญัติ (Deuteronomic attitude) ที่พระเจ้าสอนประชากรของพระองค์
ปลูกฝังความทรงจำที่สำนึกในพระคุณบนหนทางที่พระเจ้าทรงนำเราไป ความกตัญญูนี้เป็นต้นเหตุของเปลวไฟแห่งความหวัง” ผู้ที่ไม่รู้จักขอบคุณพระเจ้าสำหรับของขวัญที่ได้รับจากพระองค์ แม้ว่าบางครั้งออกจะแรงและเจ็บปวด เป็นผู้ที่ไม่มีจิตวิญญาณแห่งความหวัง ไม่เปิดรับความอัศจรรย์และความหวังจากพระเจ้า และในพระญาณเอื้ออาทรของพระองค์
ความกตัญญูทางด้านจิตวิญญาณนี้เป็นสิ่งจำเป็น ที่จะทำให้เมล็ดพันธ์แห่งกระแสเรียกของพระเจ้า ที่จะให้ผลของพระจิตเจ้า และพระวาจาของพระองค์เติบโต
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงให้กำลังใจพวกเขาในการก้าวเดินต่อไปด้วยความกตัญญูและความหวัง เพราะชุมชนใดที่รู้จักกล่าวคำว่า “
ขอบคุณ
” สำหรับพระเจ้าและต่อบรรดาเพื่อนพี่น้อง จะช่วยให้พวกเขาได้ช่วยเหลือกันและกันมีความหวังในองค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ ผู้ทรงดึงดูดและสนับสนุนบุคคลที่ได้รับกระแสเรียก
พันธกิจแห่งการเป็นพยานของประกาศก (Mission as prophetic witness)
จากหัวข้อการสมัชชาที่ว่า “พันธกิจแห่งการเป็นพยานของประกาศก” ทำให้เราได้ซื่อสัตย์ต่อรากเหง้าของเรา และต่อพระพรที่พระจิตเจ้าประทานให้กับพระคาร์ดินัลลาวิเกอรี (Cardinal Lavigerie) ผู้ก่อตั้งคณะชาวฝรั่งเศส แม้ว่าทุกวันนี้ทวีปแอฟริกาและโลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก พระพรของพระเจ้าก็ยังสนับสนุนการทำงานของบรรดามิชชันนารีให้มีความหมายและเข้มแข็ง ซึ่งนำกลับมาหาพระเยซูเจ้าและพระวรสารอยู่เสมอ
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเตือนพวกเขาให้คิดถึงคำพูดของผู้ก่อตั้งคณะที่ว่า “จงเป็นอัครสาวกของพระเยซูเจ้าเท่านั้น มิใช่เป็นอย่างอื่น” นั่นหมายถึง การเป็นประจักษ์พยานถึงพระองค์ เป็นการทำให้มโนคติอันสูงส่งเป็นความจริงในทุก ๆ แห่งหนในพระศาสนจักรและเสมอไป เป็นพิเศษ เมื่อบรรดามิชชันนารีคุณพ่อชาวได้มีกระแสเรียกให้ไปประกาศข่าวดีในท่ามกลางเพื่อนพี่น้องมุสลิมในครั้งแรก
การเป็นประจักษ์พยานนี้แสดงออกมาให้เห็น 2 ประการ คือ การสวดภาวนา และ ความเป็นพี่น้องกัน (prayer and fraternity) เป็นการเปิดจิตใจต้อนรับพระเจ้าและเปิดใจต้อนรับเพื่อนพี่น้องคนอื่น ๆ การอยู่ในการประทับของพระองค์และให้พระองค์มองมายังเรา ในทุก ๆ วันที่เราได้นมัสการพระองค์ พระองค์ประทับอยู่ที่นั่น การอยู่เคียงข้างพระเยซูเจ้าเป็นเงื่อนไขของการเป็นอัครสาวก คุณไม่สามารถออกไปประกาศข่าวดีได้ หากคุณไม่ได้มีพระเจ้าอยู่ในหัวใจ
การสวดภาวนานี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การสวดภาวนาที่เป็นทางการเท่านั้น แต่ยังถูกแสดงออกมาให้เห็นหลายรูปแบบตามพระพรของแต่ละกระแสเรียกที่ได้รับ การทำหน้าที่ของศาสนบริกร และองค์กรต่าง ๆ เช่นเดียวกับวันที่พระจิตเจ้าเสด็จลงมา และประทานพระพรให้กับบรรดาศิษย์แต่ละคน
การเป็นประกาศก (Prophecy)
หลายคนอาจจะคิดถึงรูปแบบการเป็นประกาศกในพระคัมภีร์เท่านั้น แต่ยังคงหมายถึงการเป็นประกาศกในชีวิตประจำวันอีกด้วย ความเป็นพี่น้องกันท่ามกลางประเทศทั้งหลายและความแตกต่างกันทางด้านวัฒนธรรม โดยยอมรับว่า เป็นการท้าทายที่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากพระจิตเจ้า
ชุมชนเล็ก ๆ ที่ดำเนินชีวิตร่วมกัน อธิษฐานภาวนาร่วมกัน และมีความเป็นพี่น้องกัน ได้ถูกเรียกให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในบริบทที่พวกเขาอาศัยอยู่ รวมถึงในความยากจน ความไม่ปลอดภัย และความเสี่ยงต่าง ๆ ในชีวิต ชุมชนต่าง ๆ เหล่านี้กำลังได้รับประสบการณ์แห่ง “ความสุขอันแสนหวานของการประกาศข่าวดี” ...