#จงหลีกเลี่ยงรูปเคารพแห่งความมั่งคั่งแต่จงแสวงหาสิ่งที่แท้จริงของชีวิต (Avoid idolatry of wealth and seek life's true goods)

เมื่อเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2022 ณ นครรัฐวาติกัน พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงนำสวดบททูตสวรรค์แจ้งสารตามปกติ หลังจากทรงกลับมาจากแคนาดาเมื่อวานนี้ โดยทรงเทศน์สอนจากพระวรสารประจำวันอาทิตย์ เรื่องชายคนหนึ่งที่เข้ามาขอร้องให้พระเยซูเจ้าให้ไปบอกพี่ชายของเขาแบ่งมรดกให้ (ลก 12:13-21)

แทนที่จะพูดถึงปัญหาในครอบครัวเขา พระเยซูเจ้ากลับพูดถึงสาเหตุที่แท้จริงของความแตกแยกระหว่างพี่น้องทั้งสอง นั่นก็คือ “ความโลภ” ซึ่งเป็นสาเหตุของความทุกข์ การทำลายชีวิต และสร้างการเสพติด

#อันตรายของความโลภ (The danger of greed)

คนที่มีความปรารถนาที่ไม่รู้จักเพียงพอ เพื่อที่จะครอบครอบสิ่งต่าง ๆ ความโลภนั้นจะทำลายตัวของเขาเอง ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสิ่งที่ต้องเป็นทาสของตนเอง แต่ตนเองกลับกลายเป็นทาสของสิ่งนั้นแทน ทำให้ชีวิตปราศจากอิสระ เสรีภาพ และความสงบสุข

ความโลภก็เป็นโรคที่เป็นอันตรายต่อสังคมเช่นกัน โลกของเราทุกวันนี้ เต็มไปด้วยความไม่เท่าเทียมอย่างมาก ความอยุติธรรมที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ คนจำนวนน้อยแต่ครอบครอบสิ่งของจำนวนมาก ตรงกันข้าม คนจำนวนมากกลับครอบครองสิ่งของจำนวนเล็กน้อย

ให้เราได้มองไปยังสงครามและวิกฤติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ตัณหาได้เป็นต้นเหตุ และการแสวงหาความมั่งคั่งถูกซ่อนอยู่เบื้องหลัง กำไรหรือผลประโยชน์จำนวนมหาศาลได้เกิดขึ้นเบื้องหลังของการทำสงคราม หนึ่งในนั้นคือ การค้าอาวุธ

#การเผชิญหน้ากับความโลภของตนเอง (Facing our own covetousness)

พระเยซูเจ้าสอนเราให้รู้จักการเผชิญหน้ากับความโลภที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของตนเอง มิใช่เกิดขึ้นจากบุคคลภายนอก หรือระบบเศรษฐกิจในสังคม พระองค์ได้ทรงแนะนำให้เรากลับมาพิจารณาถึงชีวิตของเราเอง ว่าเรายึดติดกับทรัพย์สินหรือความมั่งคั่งมากเกินไปหรือไม่

เรามีความต้องการครอบครองมากยิ่งขึ้น หรือเราบ่นว่าไม่เพียงพอ เราได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเสียสละเวลาเพื่อคนอื่นมากน้อยเพียงใด หรือว่าเพกเฉยต่อกฎบัญญัติต่าง ๆ และความซื่อสัตย์ กลับสาละวนอยู่บนโต๊ะแห่งความโลภ

ความโลภสามารถกลายเป็นลัทธิได้ ซึ่งเป็นการบูชารูปเคารพแบบหนึ่ง และนี่คือเหตุผลที่พระเยซูได้ใช้คำพูดที่หนักแน่นเพื่อเตือนเราว่า เราไม่สามารถปรนนิบัตินายสองคนได้ ระหว่างพระเจ้ากับความมั่งคั่ง เมื่อเรารับใช้ความมั่งคั่งก็เท่ากับเราปฏิเสธต่อพระเจ้า

#ความร่ำรวยตามที่พระเจ้าปรารถนา (Rich according to God)

เราแต่ละคนมีสิทธิที่จะปรารถนาความร่ำรวยและกลายเป็นคนที่มั่งคั่ง แต่มิใช่ทางด้านทรัพย์สินเงินทองเพียงอย่างเดียว ต้องเป็นความร่ำรวยทางด้านความรักและความเมตตา เป็นความร่ำรวยที่ไม่ได้ทำร้ายผู้อื่นให้ยากจนลง หรือทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท แตกแยก ตรงกันข้าม ความร่ำรวยของพระเจ้า อยู่ที่การให้ แจกจ่าย และแบ่งปัน

#ร่ำรวยในความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น (Rich in good relationships)

เราไม่เพียงแต่สะสมสิ่งต่าง ๆ เพื่อที่เราจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่เราควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้าและกับเพื่อนพี่น้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุคคลที่มีน้อยกว่าเรา บุคคลที่เราสามารถช่วยให้เขาได้เติบโตและเป็นผู้ใหญ่ เพื่อที่จะส่งต่อมรดกที่ดีให้กับผู้อื่นต่อไป

ขอแม่พระได้ช่วยให้เราเข้าใจว่า สิ่งที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร และสิ่งใดที่จะคงอยู่ตลอดนิรันดร...