รัฐบาลเมียนมาร์ยกระดับความเข้มงวด (Myanmar junta escalates crackdown)
เมื่อรัฐบาลเมียนมาร์ประกาศจำคุกนางอองซานซูจี Aung San Suu Kyi ต่อไปอีก 6 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม 2022 ที่ผ่านมา หลังจากที่เธอได้ถูกกักขังบริเวณมาแล้ว 11 ปี ในข้อหาคอร์รัปชั่นและอีกหลายข้อหา
#รัฐบาลเมียนมาร์สั่งจำคุกผู้นำประชาธิปไตยเพิ่มเติม (Junta further sentences democratic leader)
นางซูจีเป็นผู้นำรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งถูกโค่นล้มเมื่อรัฐบาลทหารของเมียนมาร์เข้ายึดอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว และประกาศภาวะฉุกเฉิน (a state of emergency)
นับตั้งแต่รัฐประหาร นางซูจีถูกกักบริเวณในบ้านและถูกจำคุก เมื่อสถานการณ์เลวร้ายลง ทูตพิเศษของสหประชาชาติ (UN) ได้ถูกกำหนดให้เดินทางเยือนเมียนมาร์ ประชาคมระหว่างประเทศประณามความโหดร้ายของการทำรัฐประหารของทหารเมียนมาร์ จากนั้น พระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จเยือนเมียนมาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2017 พระองค์ได้ทรงอธิษฐานภาวนาให้กับประเทศเมียนมาร์รวมถึงประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
#พระคาร์ดินัลโบเตือนเรื่องการข่มขู่ (Cardinal Bo's warnings of intimidation)
ระหว่างการเยือนประเทศออสเตรเลีย พระคาร์ดินัลโบแห่งเมียนมาร์ (Cardinal Charles Maung Bo of Yangon) ได้กล่าวกับผู้นำพระศาสนจักรคาทอลิกที่นั่นว่า รัฐบาลทหารกำลังพยายามที่จะข่มขู่ประชากรทั้งประเทศ เพื่อให้เกิดความหวาดกลัว และความสงบเรียบร้อย เพราะจะมีทหารจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้ามาช่วยเหลือในปลายปีนี้
#ความโหดร้ายและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (Brutal, crimes against humanity)
พระคาร์ดินัลโบกล่าวว่า รัฐบาลทหารได้สังหารชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 2,100 คน รวมทั้งเด็กจำนวนมาก และได้ควบคุมตัวอีกประมาณ 15,000 คน สถานการณ์ปัจจุบันซับซ้อนมาก และในขณะเดียวกันก็สับสนและคาดเดาไม่ออก หมู่บ้านต่าง ๆ ถูกทำลายและเผาทิ้ง
ขณะที่ประชากรจำนวน 50% อยู่ในความยากจน, 8 ล้านคนต้องการอาหารเพื่อประทังชีวิต และอีกหลายคนต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน เช่นเดียวกับสหประชาชาติที่ออกมากล่าวหารัฐบาลทหารของประเทศเมียนมาร์ว่าได้าก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ...