เยาวชนควรเป็นเชื้อแป้งของสังคม (youth to become "leaven" in society)
ผู้นำเยาวชนขององค์กรคาทอลิกอิตาลี (young leaders of the Italian Catholic Action) ได้เข้าเฝ้าพระส้นตะปาปาฟรังซิสเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2022 ณ หอประชุมเปาโลที่ 6 นครรัฐวาติกัน พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเทศน์สอนพวกเขาให้ช่วยกันทำงานในวัดและเสริมสร้างความเป็นพี่น้องกันให้เกิดขึ้น
บรรดาเยาวชนเป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้คนช่วงวัย (Generation) ต่าง ๆ เพื่อช่วยบรรดาคุณพ่อเจ้าอาวาสและผู้ช่วยเจ้าอาวาสทำงานอภิบาลในวันอาทิตย์ การสอนคำสอน และการให้บริการศีลศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ
ปัจจุบันความเป็นจริงทางด้านวัฒนธรรมสังคมเปลี่ยนแปลงไปมากทั่วโลก ทำให้พันธกิจของพระศาสนจักรและวัดต่าง ๆ ต้องคิดทบทวนอีกครั้ง แต่สิ่งที่สำคัญที่จะคงอยู่ต่อไปก็คือ “การเดินทางของความเชื่อและการเติบโต” ซึ่งวัดมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างเรื่องเหล่านี้
วัดเป็นสถานที่เราเรียนและได้ฟังพระวรสาร ได้รู้จักพระเยซูเจ้า ได้รับใช้ด้วยความกตัญญู ได้สวดภาวนาร่วมกัน ได้แบ่งปันการทำงานและการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ทำให้เราได้รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของประชากรศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
องค์กรคาทอลิกและชุมชนวัด (Catholic Action and the parish community)
อาศัยศีลล้างบาปทำให้เราแต่ละคนเป็นพี่น้องกัน เราเป็นบุคคลสำคัญและมีความรับผิดชอบ โดยการใช้พระพรที่เราได้รับมาจากพระเจ้าเพื่อความดีส่วนร่วมของหมู่คณะ ตลอดจนกระแสเรียกต่าง ๆ ที่เราแต่ละคนได้รับในการติดตามพระเยซูเจ้า ความเชื่อเป็นของประทานที่เราได้รับมาจากพระองค์ เราต้องเป็นประจักษ์พยานในเรื่องนี้
บรรดาคริสตชนจะต้องสนใจต่อความเป็นไปทางด้านสังคม ช่วยเหลือและแบ่งปัน ใส่ใจกันและกัน โดยเฉพาะผู้ที่มีความทุกข์ยากอันเกิดมาจากความยุติธรรมและถูกขับไล่ออกไป เราสามารถสังเกตเห็นสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ได้ในชุมชนวัดของเรา
เยาวชนที่รักทั้งหลาย เรามาจากวัย (generation) ที่แตกต่างกัน แต่เราต่างก็มีความรักในพระศาสนจักร รักในชุมชนวัดของเรา ซึ่งเป็นเสมือนบ้านของเรา ท่ามกลางครอบครัวและผู้คนทั้งหลาย
มีส่วนสนับสนุนการเติบโตของพระศาสนจักรในความเป็นพีน้องสากล (Contributing to the growth of the Church in fraternity)
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแนะนำหนทางที่องค์กรคาทอลิกสามารถทำให้พระศาสนจักรเติบโตในความเป็นพี่น้องกันได้ คือ
อย่าตื่นตระหนกแม้ต้องเผชิญกับความอ่อนแอของชุมชน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงทางสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด คนหนุ่มสาวปัจจุบันไม่ชอบการประชุมเหมือกนับ 50 ปี ที่แล้ว ซึ่งก็เป็นการดีเพราะการประชุมไม่ได้ทำให้พระศาสนจักรก้าวหน้าเสมอไป
แต่จงระวังการมีโลกส่วนตัวมากเกินไป การปิดตัวอยู่กับกลุ่มเล็ก ๆ และแนวโน้มต่าง ๆ ที่จะทำให้เรารู้สึกว่าห่างไกลกันและกัน ซึ่งมีผลต่อชีวิตของชุมชนของเรา เราจึงควรตอบโต้และเริ่มต้นการทำงานที่ตัวของเรา
ทำงานกับตัวเอง (“Working” on ourselves)
“การทำงาน” เป็นการเดินทางที่ท้าทายและต้องการความคงเส้นคงวา ความเป็นพี่น้องกันไม่ได้เกิดขึ้นชั่วคราว ไม่ได้สร้างขึ้นด้วยอารมณ์ คำขวัญ และเหตุการณ์เท่านั้น แต่ต้องร่วมงานกับพระจิตเจ้า ผู้ทรงสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันท่ามกลางความหลากหลาย (จงไปอ่านพระสมณสาส์นพระคริสต์ทรงพระชนม์ หรือ Christus vivit เรื่อง เส้นทางแห่งภราดรภาพ อีกครั้ง)
จุดเริ่มต้นคือการออกจากตัวเองเพื่อเปิดตัวเองสู่ผู้อื่น และออกไปพบพวกเขา ความสัมพันธ์นี้จะทำให้เรารู้จักตนเองและเติบโตไปด้วยกัน ความเป็นจริงพื้นฐานสำหรับเราก็คือ ในพระศาสนจักร เราประสบกับการเคลื่อนไหวนี้ในพระเยซูเจ้า ผ่านทางศีลมหาสนิท พระองค์ออกมาจากพระองค์เองและเข้ามาประทับอยู่ในเรา เพื่อที่เราจะออกมาจากตัวเราและเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์และในพระองค์ เราพบว่าตนเองอยู่ในความเป็นหนึ่งเดียวที่เป็นอิสระ ไม่มีเงื่อนไข และเป็นหนึ่งเดียว
ความเป็นพี่น้องในพระศาสนจักรถูกก่อตั้งโดยพระเยซูเจ้า ในการประทับอยู่ของพระองค์ ในเราและท่ามากลางเรา ขอบคุณพระองค์ที่ได้ทำให้เราได้ต้อนรับกันและกัน อดทน และให้อภัยแก่กันและกัน
จงระวังการนินทา (gossiping) อันเป็นเหตุทำให้ชีวิตชุมชนแห่งวามเชื่อต้องเจ็บป่วย เพราะมันสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในพระศาสนจักร
เชื้อแป้งของสังคม (“Leaven” in society)
หากเราอยู่ในองค์พระเยซูเจ้าและได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้า เราจะเป็นเชื้อแป้งของสังคม เพราะพระเยซูเจ้าทรงเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และพระวาจาของพระองค์ก็เป็นพลังแห่งมนุษยธรรม
ดังหัวข้อของการประชุมองค์กรคาทอลิกในครั้งนี้ที่ว่า “การถูกคลุกเคคล้าในโลกใบนี้” (being kneaded in this world) นั่นก็คือการเข้าไปอยู่ในโลก เป็นหนทางของพระเยซูเจ้าที่จะนำชีวิตใหม่ให้เกิดขึ้นจากภายใน
จงเป็นเชื้อแป้งของสังคม เกลือดองแผ่นดิน และแสวงสว่างส่องโลก จงอย่าเป็นของโลกกนี้ และสูญเสียความใหม่ในพระเยซูเจ้า (มธ 5:13) ...