คริสต์มาสเป็นช่วงเวลาแห่งการรู้จักพระเจ้าในหนทางใหม่ (Advent offers us a time to know the Lord in new ways)
เมื่อเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2022 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงต้อนรับผู้แสวงบุญ ณ จัตุรัสนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาครอบครัวทั้งหลาย ที่ได้นำรูปปั้นพระกุมารมาให้พระองค์ทรงอวยพร ตามธรรมเนียมที่ได้ปฏิบัติมากว่า 50 ปี ตั้งแต่สมัยนักบุญพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงแบ่งปันข้อคิดจากพระวรสารประจำวันเรื่อง นักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้างที่กำลังถูกจองจำอยู่ในคุกได้ส่งศิษย์ไปถามพระเยซูเจ้าว่า “พระองค์คือพระเมสสิยาห์หรือไม่?”
นักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้างทราบว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระผู้ไถ่อย่างแท้จริงทั้งในคำพูดและการกระทำ โดยเฉพาะการรักษาคนเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยพระเมตตาของพระองค์ ทำให้คนตาบอดได้มองเห็น ปลุกคนตายให้กลับคืนชีพ ประกาศข่าวดีสำหรับคนยากจน ดังที่บรรดาประกาศกได้ทำนายล่วงหน้าเอาไว้
เอาชนะความสงสัย (Overcoming doubt)
การที่นักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้างอยู่ในเรือนจำ เช่นเดียวกับที่เราในบางครั้งที่มีประสบการณ์อยู่ในความมืดมนและความทุกข์ยากในชีวิต ทำให้เราได้เห็นบางสิ่งบางอย่างไม่ชัดเจน สับสน ไม่แน่ใจ ท่านรู้ดีว่าท่านอยู่ในเรือนจำ ชีวิตของท่านอาจจะจบลงในไม่ช้า ท่านจึงส่งศิษย์ของท่านไปถามพระเยซูเจ้า เพื่อต้องการที่จะรู้ความจริง
การเติบโตทางด้านจิตวิญญาณ (Spiritual growth)
แม้ว่ายอห์นผู้ทำพิธีล้างจะทราบแล้วว่า “พระเยซูเจ้าคือลูกแกะของพระเจ้า” ขณะที่ท่านได้ทำพิธีล้างให้กับพระเยซูเจ้าในแม่น้ำจอร์แดน แต่นั่นหมายความว่า แม้แต่ผู้เชื่อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดยังต้องผ่านอุโมงค์แห่งความสงสัย และนี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ตรงกันข้าม บางครั้งมันจำเป็นต่อการเติบโตฝ่ายวิญญาณ มันช่วยให้เราเข้าใจว่า พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่กว่าเสมอ มากกว่าเราที่เราจะจินตนาการว่าพระองค์ทรงเป็นอะไร
เปิดจิตใจ (Open minds)
เราต้องเปิดใจรับความประหลาดใจเสมอ ว่าพระเจ้าจะทรงทำงานอย่างไร และการกระทำของพระองค์แตกต่างไปจากที่เราคาดคิดไว้อย่างไร ซึ่งเกินความต้องการ และความคาดหวังของเรา
ดังนั้นเราต้องแสวงหาพระเจ้าอยู่เสมอ เปิดตาของเรา และรับการเปลี่ยนแปลงจากพระองค์ เมื่อนึกถึงงานของนักเทววิทยาชื่อ อองรี เดอ ลูบัค (Henri de Lubac) เขากล่าวว่า พระเจ้าจำเป็นต้องได้รับการค้นพบใหม่ในหลาย ๆ ขั้นตอน บางครั้งด้วยความคิดที่ว่า เราอาจจะสูญเสียพระองค์ไป เช่นเดียวกับนักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้าง ขอให้เราค้นพบพระองค์อีกครั้ง ด้วยการเปิดใจ และอย่าให้ความคิด และกรอบความคิด จำกัดความเข้าใจของเราต่อพระองค์
แปลกประหลาดใจด้วยพระเมตตาของพระองค์ (Surprised by God's mercy)
บางครั้งเราอาจไม่เห็นความแปลกใหม่ ในองค์พระผู้เป็นเจ้าตามที่ข้าพเจ้าได้แนะนำ และถูกควบคุมโดยความคิดของเราว่าเรารู้เรื่องพระองค์มากแล้ว บางทีเราอาจเห็นพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ แต่กลับมองข้ามความสุภาพถ่อมตน ความเมตตา และความรักของพระองค์ “ผู้ทรงแทรกแซงเข้ามาในชีวิตของเราเสมอ แต่ด้วยความเคารพในเสรีภาพและการเลือกของเรา” ความคิดหรืออคติของเราเกี่ยวกับพระเจ้า และแม้แต่คนอื่น ๆ จำเป็นต้องได้รับการท้าทาย เทศกาลคริสต์มาสจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการ "เปลี่ยนมุมมองของเรา เพื่อให้ตัวเราประหลาดใจในพระเมตตาของพระองค์"
“การเตรียมถ้ำพระกุมาร เราได้เรียนรู้อีกครั้งว่าพระเจ้าของเราคือใคร เวลาที่จะละทิ้งความคิดและอคติบางอย่างเกี่ยวกับพระเจ้าและพี่น้องของเรา เป็นเวลาที่แทนที่เราจะคิดหาของขวัญให้กับตัวเอง เราสามารถให้คำพูดและท่าทางปลอบโยนผู้บาดเจ็บได้ เหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำกับคนตาบอด คนหูหนวก และคนง่อย”
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเชื้อเชิญให้ทุกคนยอมให้พระนางมารีย์มา "จูงมือเรา" ขณะที่เราเตรียมตัวสำหรับคริสต์มาส และรับรู้จากความเล็กน้อยของพระเยซูกุมารถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่จะเสด็จมาประทับอยู่ท่ามกลางเรา
จากนั้นสมเด็จพระสันตะปาปาทรงทักทายเด็ก ๆ ที่อยู่ที่จัตุรัสและอวยพรพวกเขา ให้แต่ละครอบครัวมีความสุขในวันคริสต์มาส ทรงอวยพรรูปแกะสลักของพระกุมารเยซูที่พวกเขานำมาจากนั้น พวกเขาจะนำไปไว้ในถ้ำพระกุมารที่บ้านของพวกเขาเอง
“ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านอธิษฐานภาวนาต่อหน้าถ้ำพระกุมารว่า การประสูติขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะนำแสงแห่งสันติภาพมาสู่เด็ก ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก ๆ ที่ถูกบังคับให้ใช้ชีวิตในช่วงสงครามอันเลวร้ายและมืดมน สงครามในยูเครนครั้งนี้ได้ทำลายล้างผู้คนจำนวนมากมาย ชีวิตหลายชีวิต และลูกมากมาย”