ให้พระเยซูเจ้าเป็นศูนย์กลางในชีวิต พันธกิจ และเป็นประจักษ์พยานถึงความรักของพระเจ้าในทุกสิ่งที่คุณกระทำ (Place Christ at the center of your life and mission, and witness the love of God in all you do)
เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2023 ณ นครรัฐวาติกัน พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงต้อนรับ สมาชิกคณะออกัสติเนียน ในการประชุมใหญ่ครั้งแรกขอสมาพันธ์คณะนักบุญออกัสติเนียน ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1959 สมัยนักบุญพระสันตะปาปายอห์นที่ 23
ชีวิตที่ถวายแด่พระเจ้าแล้วเปรียบเสมือนกับ “น้ำ” “ถ้าน้ำไม่ไหลก็จะนิ่ง” และเหมือนกับเกลือ “ถ้าเสียรสชาติไปก็ไร้ประโยชน์” จงระวังการแยกตัวเองออกจากหมู่คณะ และโรคที่คิดถึงแต่ตัวเอง แต่ให้ทำงานร่วมกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกันเสมอ
“จงเรียนรู้จากอดีต ใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างเต็มที่ และปราศจากความกลัว เพื่อเปิดรับอนาคตด้วยความหวัง พวกท่านมีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ที่จะต้องสานต่อ และพระจิตเจ้าจะทรงมอบอำนาจให้พวกท่านทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ใหม่”
พระคริสตเจ้าดำรงอยู่ในตัวฉัน (Christ lives in me)
กฎพื้นฐานของชีวิตทางศาสนา คือการปฏิบัติตามสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงสอนในพระวรสาร ควรถือเป็นกฎหรือคู่มือแห่งชีวิต ดังคำพูดของนักบุญเปาโลที่กล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่พระคริสต์ทรงสถิตอยู่ในข้าพเจ้า’”
พระวรสารจะช่วยเตือนสติตัวของเราให้รอดพ้นจากการผจญล่อลวงต่าง ๆ และไม่ลืมอุดมการณ์ของเรา พระวรสารเป็นดังจิตวิญญาณและชีวิตสำหรับเราเสมอ
รักครั้งแรกของเราที่มีต่อพระเยซูเจ้า (Our first love is Christ)
พระวรสารเตือนเราอย่างต่อเนื่อง ให้วางพระเยซูเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิตและพันธกิจของเรา มันทำให้เรากลับไปสู่ 'รักครั้งแรก' และการรักพระเยซูเจ้าหมายถึง การรักพระศาสนจักร พระกายของพระองค์”
“พระเจ้าทรงสร้างเราเพื่อพระองค์เอง และใจของเราจะสงบนิ่งจนกว่าสิ่งนั้นจะสงบอยู่ในพระองค์” ดังนั้น จึงควรเป็นหน้าที่ของเราที่จะแสวงหาพระเจ้าเสมอในชีวิตประจำวันของเรา
จงกระทำทุกวิถีทางที่จะแสวงหาพระเจ้า (All the ways to seek the Lord)
เรามีหลายวิธีที่จะพบกับพระเจ้า รวมถึงในชีวิตหมู่คณะ ในการอ่านพระคัมภีร์อย่างขะมักเขม้น การทำหน้าที่ต่อพระเยซูเจ้า และการอุทิศตนเองเพื่อพระศาสนจักร
ชาวออกัสติเนียนควรแสวงหาพระองค์ในการอธิษฐานภาวนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพิธีบูชาขอบพระคุณ ซึ่งเป็น "จุดสูงสุดของชีวิตคริสตชน" ตลอดจนในการศึกษาและในงานอภิบาลทั่วไป
“จงแสวงหาพระเจ้าในความเป็นจริงของยุคสมัยของเราด้วย โดยรู้ว่าไม่มีมนุษย์คนใดสามารถแปลกแยกสำหรับเรา และเป็นอิสระจากความครอบงำต่าง ๆ ในโลกนี้ เราสามารถทำให้โลกมีชีวิตชีวาด้วยเชื้อแห่งอาณาจักรของพระเจ้าได้”
พระเจ้าทรงส่องสว่าง (The Lord illuminates)
มีหนทางต่าง ๆ ที่จะทำให้เราเดินไปถึงเป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือ การเจริญชีวิตภายใน การแสวงหาความรู้ และความรักที่เรามีต่อพระเจ้า ดังคำสอนของนักบุญออกตัสติน ที่ให้เราเดินทางเข้าสู่ภายในของเรา และค้นพบความจริงที่อยู่ในนั้น ด้วยวิธีการนี้ก็จะทำให้เราได้พบแสวงสว่างแห่งความจริงที่พระเป็นเจ้าได้ทรงมอบไว้ให้กับเรา แสงสว่างนั้นจะส่องสว่างหนทางที่เราพึงเดิน
ขอให้พวกท่านเติบโตในจิตตารมณ์ของหมู่คณะ มีความใกล้ชิดกันในหมู่คณะ ประการแรกและประการสุดท้ายคือการแสวงหาและความรักที่มีต่อพระเจ้า ขอบคุณพวกคุณที่เป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้าในพระศาสนจักร ขอพระนางมารีย์ทรงอวยพระพรมายังพวกคุณ และข้าพเจ้าขออวยพรท่านและหมู่คณะของท่าน ด้วยความจริงใจของข้าพเจ้า ...