การแต่งงานที่ถูกต้องทั้งหมดเป็นดังพระพร (All true marriage is a gift)
เมื่อวันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2023 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงพบปะกับสมาชิกศาลฎีกาแห่งโรมันโรต้า (the Roman Rota) สำหรับการเข้าเฝ้าประจำปี ณ นครรัฐวาติกัน สำหรับการเปิดปีแห่งการตัดสินพิจารณาคดีความต่าง ๆ ใหม่ 2023 เกี่ยวกับคู่มรส
ทรงตรัสว่า การประกาศพระวรสารเกี่ยวกับครอบครัวเป็นหน้าที่สำคัญของพระศาสนจักร (proclaiming the “Gospel of the Family” is one of the essential tasks of the Church)
พระศาสนจักรและโลกในยุคปัจจุบันมีความจำเป็นอย่างมาก ที่จะค้นพบความหมายและคุณค่าของการอยู่ร่วมกันระหว่างสามีและ ภรรยา คือระหว่างชายและหญิง ซึ่งเป็นรากฐานของครอบครัว ส่องสว่างและรักษาไว้ซึ่ง พระธรรมล้ำลึกอันยิ่งใหญ่ที่เป็นความรักของคู่สมรสและครอบครัว
การแต่งงานคือพระพร (Marriage is a gift)
จากการเปิดเผยของคริสตชน การแต่งงานเป็นมากกว่าพิธีการหรืองานสังคม มันไม่ได้เป็นเพียงพิธีการหรืออุดมคติเชิงนามธรรมเท่านั้น แต่เป็นความจริงที่มีความถูกต้องแน่นอนในตัวของมันเอง
จากความเป็นจริงดังกล่าว และข้อเท็จจริงที่ว่า การแต่งงานเกิดขึ้นระหว่างชายและหญิงที่แท้จริง ภายใต้ข้อจำกัดและความล้มเหลวต่าง ๆ พระสันตะปาปาจึงตรัสถามว่าการแต่งงานจะมีส่วนร่วม ซื่อสัตย์ และถาวรได้อย่างไร?
คำตอบก็คือ การแต่งงานที่ถูกต้องทั้งหมดตามจารีตพิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงการแต่งงานแบบต่างคนต่างถือ ซึ่งแม้ไม่ใช่ศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการสมรสที่สมบูรณ์ก็ตาม ต่างก็เป็นของประทานที่พระเป็นเจ้าได้มอบให้กับคู่สมรสทั้งหลาย
“การแต่งงานเป็นพระพรเสมอ! ความซื่อสัตย์จงรักภักดีของคู่สมรสนี้ ขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ที่มีต่อพระเจ้าพระเจ้าด้วย ความบริบูรณ์ของการสมรส ก็ขึ้นอยู่กับความบริบูรณ์ของคู่สมรสที่มอบให้กับพระเป็นเจ้าด้วย”
ด้วยเหตุผลนี้เอง การแต่งงานจึงไม่สามารถที่จะถูกลดทอนคุณค่าลงเหลือแค่ในระดับความรู้สึก ความพอใจชั่วคราว หรือความต้องการที่เห็นแก่ตัวได้ นั่นก็คือ เราต้องปฏิเสธความคิดที่ว่า การแต่งงานจะคงอยู่ตราบเท่าที่ความรักแบบโรแมนติกยังคงอยู่เท่านั้น หากหมดความรักแบบนี้ไปแล้ว การสมรสก็หมายความสิ้นสุดลง ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด
“ความรักระหว่างสมรสนั้นแยกออกจากการแต่งงานไม่ได้ ซึ่งความรักของมนุษย์ที่เปราะบางและมีความจำกัด มาบรรจบกับความรักอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งซื่อสัตย์และเมตตาเสมอ”
เราสามารถทำตามคำสั่งของพระเยซูที่ให้เรา “รักกันและกัน” ซึ่งรวมถึงการแต่งงานด้วย เพราะ “พระองค์เองเป็นผู้ค้ำจุนชีวิตคู่ด้วยพระหรรษทานของพระองค์”
การสมรสเป็นสิ่งที่ดี (Marriage is good)
และอันที่จริง “เป็นสิ่งที่มีค่าเป็นพิเศษสำหรับทุกคน” ไม่ใช่เฉพาะแค่คู่สมรสและบุตรเท่านั้น แต่รวมถึงครอบครัวอื่น ๆ ซึ่งรวมกันในระดับศาสนจักร และทั้งโลกอีกด้วย ซึ่งถือเป็นครอบครัวใหญ่หรือครอบครัวสากล
ในหนทางแห่งความรอดพ้นของคริสตชน การแต่งงานถือเป็นหนทางแรก และสำคัญที่สุดที่นำไปสู่ความบริสุทธิ์ ความบริสุทธิ์ ที่สามารถนำไปสู่ดำเนินชีวิตตามปกติในชีวิตประจำวันได้ จับต้องได้ ซึ่งเป็นเป็นลักษณะสำคัญของพระวรสารแห่งครอบครัว
ชีวิตสมรสในภาวะวิกฤต (marriages in crisis)
พระศาสนจักรต้องติดตามคู่สมรสที่ประสบปัญหาด้วยความรักและให้การสนับสนุน ผู้อภิบาลครอบครัวของศาสนจักรจะต้องช่วยกันต่ออายุของสถาบันครอบครัว ซึ่งถือเป็นพระหรรษทานของพระเจ้าที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ อาศัยการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ทางด้านสังคมศาสตร์ การได้รับการส่องสว่างบนหนทางแห่งการคืนดีกันระหว่างคู่สมรสในศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการแต่งงาน
พระสันตะปาปาทรงตระหนักดีว่าการแต่งงานเกี่ยวข้องกับ “ความเปราะบาง” อยู่เสมอ แต่อาศัย “ความช่วยเหลือจากพระจิตเจ้า” ความยากลำบากในชีวิตแต่งงานไม่จำเป็นต้องนำไปสู่การแตกหักในที่สุดเสมอไป