ความเชื่อคือเรื่องราวความรักกับพระเจ้า (Faith is a love story with God)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2023 ก่อนนำสวดบททูตสวรรค์แจ้งสาร พระสันตะปาปาฟรังซิสได้นำผู้แสวงบุญไตร่ตรองพระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่ 6 เทศกาลธรรมดา เรื่องมาตรฐานใหม่ของพระเยซูเจ้า “ทำให้เราเข้าใจว่ากฎทางศาสนาเป็นสิ่งที่จำเป็น เป็นสิ่งที่ดี แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ จำเป็นต้องทำมากกว่าตัวอักษรและดำเนินชีวิตตามความหมาย ” โดยอ้างอิงจากพระวรสารของ น.มัทธิวที่พระเยซูตรัสว่า “อย่าคิดว่าเรามาเพื่อลบล้างธรรมบัญญัติหรือคำของบรรดาประกาศก เราไม่ได้มาเพื่อทำลายล้างแต่เพื่อทำให้สำเร็จ” (มธ 5:17) การทำให้สำเร็จเป็นคำสำคัญที่จะเข้าใจพระเยซูเจ้าและข่าวสารของพระองค์
การปฏิบัติตามพิธีกรรมเพียงอย่างเดียวนั้นไม่มีเป้าหมาย (Ritualistic observance is pointless)
การดำเนินชีวิตโดยเคารพกฎหมายเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ แต่ควรละเว้นจากการฆ่าผู้อื่นแม้เพียงการใช้วาจาที่ไม่สมควร งดเว้นจากการเป็นชู้แต่ใช้ชีวิตด้วยความรัก การกระทำด้วยความหน้าซื่อใจคด "สิ่งเหล่านี้" เขาเน้นย้ำ "ไม่ใช่ความสำเร็จ"
เราถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้า เป็นการตอบแทนพระคุณของพระองค์ที่ประทานสิ่งสารพัดมาให้กับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักที่พระองค์มอบให้กับเราก่อน เป็นการให้แบบฟรี ๆ พระองค์ทรงเป็นบุคคลแรกที่ก้าวเข้ามาหาชีวิตของเรา แม้ว่าเราไม่สมควรจะได้รับก็ตาม
“เราไม่สามารถเฉลิมฉลองความรักของพระองค์ได้ หากไม่ได้เริ่มต้นก้าวแรกแห่งการคืนดีกับคนที่ทำร้ายเรา มิฉะนั้น การถือปฏิบัติภายนอกที่เป็นพิธีกรรมล้วน ๆ ก็ไร้ความหมาย”
"กฎทางศาสนาเป็นสิ่งที่จำเป็น เป็นสิ่งที่ดี แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ จำเป็นต้องทำมากกว่าตัวอักษรและดำเนินชีวิตตามความหมาย"
“พระบัญญัติที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่เรา ต้องไม่ถูกขังไว้ในห้องใต้ดินที่ไร้อากาศของการปฏิบัติตามอย่างเป็นทางการ”
ปฏิบัติให้มากที่สุด (Aspire to the maximum)
นี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และเตือนผู้ที่มีความเชื่อทั้งหลายว่า ความเชื่อไม่ใช่ “การถือปฏิบัติอย่างเป็นทางการ ซึ่งพอใจกับสิ่งเล็กน้อยที่สุดเท่านั้น ขณะที่พระเยซูเชื้อเชิญให้เราปรารถนาดำเนินชีวิตให้สูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
“พระเจ้าไม่ได้คิดหาเหตุผล หรือคิดตารางคำนวณ เพื่อที่จะมอบความรักให้กับเรา พระองค์ไม่ได้รักเราเพียงแค่น้อยนิด หรือกำหนดระดับความรักที่ให้กับเรา แต่ทรงรักเรามากที่สุด ความรักที่แท้จริง ไม่เคยถึงจุดหนึ่ง และไม่มีวันพอใจ ความรักไปไกลเกินกว่าที่ใครจะทำไม่ได้”
พระเจ้าทรงแสดงให้เราเห็นสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ “โดยการสละชีวิตของพระองค์บนไม้กางเขน และให้อภัยผู้ที่ฆ่าพระองค์ และพระองค์ได้มอบพระบัญญัติอันเป็นที่รักที่สุดแก่เรา นั่นคือให้เรารักกันและกันเหมือนที่พระองค์ทรงรักเรา “นี่คือความรักที่ทำให้ธรรมบัญญัติ ความเชื่อ และชีวิตสัมฤทธิผล!”
เราควรถามตนเองว่า พวกเราดำเนินชีวิตตามความเชื่อของตนอย่างไร: “มันเป็นเรื่องของการคิดคำนวณ พิธีการ หรือเรื่องราวความรักกับพระเจ้า? ฉันพอใจกับการไม่ทำอันตราย การรักษา "หน้าตาภายนอก" ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพียงเท่านั้น หรือฉันพยายามรักพระเจ้าและคนอื่น ๆ มากขึ้น?”
ให้เราได้ตรวจสอบตัวเองตามบัญญัติข้อสำคัญของพระเยซูเจ้าบ่อย ๆ ว่า "ฉันรักเพื่อนบ้านเหมือนที่พระเจ้าทรงรักฉันไหม"
“เพราะบางทีเราไม่ยืดหยุ่นในการตัดสินผู้อื่นและลืมที่จะเมตตา เพราะพระเจ้าทรงสถิตกับเรา”