การเดินทางในเทศกาลมหาพรตของเราคือการก้าวเดินไปด้วยกัน (Our Lenten journey is synodal)
โอกาสฉลองการกลับใจของนักบุญเปาโล เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2023 พระสันตะปาปาฟรังซิสได้ออกสาส์นสำหรับเทศกาลมหาพรตปี 2023 ทรงเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างการเดินทางในเทศกาลมหาพรตและการเดินทางของสมัชชา ซึ่งมีรากฐานมาจากประเพณีและการเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ
“การแสดงพระกายอย่างรุ่งโรจน์ของพระเยซูเจ้าบนภูเขาทาบอร์” (Transfiguration) เป็นพระวรสารที่พระองค์ทรงหยิบยกมาเป็นเป้าหมายของการจำศีลอดอาหารในเทศกาลมหาพรต และรูปแบบในการก้าวเดินไปด้วยกันในกระบวนการทำสมัชชาของพระศาสนจักรในปัจจุบัน (มธ 17:1-8) (ดูตัวบทพระวรสารในช่องความคิดเห็นใต้ภาพพระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระองค์อย่างรุ่งโรจน์)
การเดินทางในเทศกาลมหาพรตคือการก้าวเดินไปด้วยกัน (Our Lenten journey is synodal)
พระสันตะปาปาฟรังซิสได้รับแรงบันดาลใจจากพระวรสารเรื่องการแสดงพระกายอย่างรุ่งโรจน์ของพระเยซูเจ้าบนภูเขาทาบอร์ ซึ่งเป็นพระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่สองในเทศกาลมหาพรต ที่กล่าวถึงอัครสาวก 3 คน ที่ได้รับเลือกให้เป็นประจักษ์พยานในอัศจรรย์ครั้งนั้น เช่นเดียวกับพวกเราทุกคน ที่พระเยซูเจ้าพาเราไปยังที่ห่างไกล (จากความสะดวกสบายฝ่ายเนื้อหนัง) ไปสู่สถานที่อันห่างไกล (การจำศีลอดอาหาร การพลีกรรม การอธิษฐานภาวนา การช่วยเหลือผู้เดือดร้อน) ในช่วงเทศกาลมหาพรตนี้
"การจำศีลอดอาหาร" คือการมุ่งมั่นอุทิศตนที่ได้รับการสนับสนุนจากพระวรสาร เพื่อเอาชนะการขาดความเชื่อ และการต่อต้านของเราในการติดตามพระเยซูบนทางแห่งไม้กางเขน
สิ่งนี้ต้องใช้ความพยายาม ความเสียสละ และสมาธิ ซึ่งเป็นข้อกำหนดสำหรับการเดินทางในกระบวนการสมัชชาด้วย และด้วยเหตุนี้เราจึงกล่าวได้ว่า “การเดินทางในเทศกาลมหาพรตก็คือการก้าวเดินไปด้วยกันนั่นเอง” เนื่องจากเราร่วมเดินทางไปในเส้นทางเดียวกันในฐานะศิษย์แห่งพระอาจารย์องค์เดียวกัน”
“ทั้งในการเดินทางตามพิธีกรรมที่พระศาสนจักรกำหนดและในการเดินทางของกระบวนการสมัชชา พระศาสนจักรไม่ได้ทำสิ่งใดนอกจากเข้าไปสู่พระธรรมล้ำลึกของพระเยซูเจ้า องค์พระผู้ไถ่ อย่างลึกซึ้งและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น”
การช่วยเราให้เข้าใจพระประสงค์ของพระเจ้ามากยิ่งขึ้น (Helping us understand God's will)
เช่นเดียวกับการเดินทางของบรรดาอัครสาวกขึ้นไปบนภูเขาทาบอร์ กระบวนการสมัชชาอาจดูยากลำบากและนำไปสู่ความท้อแท้ใจ ถึงกระนั้น “สิ่งที่รอเราอยู่ท้ายที่สุดนั้นเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์และน่าทึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจพระประสงค์ของพระเจ้าและพันธกิจของเราในโลกได้ดีขึ้น”
การปรากฏตัวของโมเสสและประกาศกเอลียาห์ ซึ่งเป็นตัวแทนของธรรมบัญญัติและประกาศกว่า “ในทำนองเดียวกัน การเดินทางของสมัชชามีรากฐานมาจากประเพณีของศาสนจักร และในขณะเดียวกันก็เปิดรับสิ่งใหม่ ๆ อีกด้วย ประเพณีเป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจในการแสวงหาเส้นทางใหม่ และเพื่อหลีกเลี่ยงการล่อลวงที่ทำให้เราไม่ปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงใด ๆ และการกระทำแบบไม่ได้ใส่ใจ”
การฟังและความพยายามในชีวิตประจำวัน (Listening and daily effort)
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงหรือการกลับใจ ทั้งในระดับส่วนตัวและในระดับพระศาสนจักร พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเสนอ 2 แนวทางที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการแสดงพระวรกายอย่างรุ่งโรจน์ของพระเยซูเจ้าบนภูเขาทาบอร์ คือ
1) การฟังพระวาจาของพระเจ้าและการฟังพี่น้องของเรา การฟังพระเยซูเจ้ามักเกิดขึ้นจากการฟังพี่น้องของเราในพระศาสนจักร
2) การเผชิญหน้ากับความเป็นจริงของการดิ้นรนต่อสู้ในชีวิตแต่ละวัน จะต้องไม่กลัวการออกไปเผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริงภายนอก หรือสงวนตัวเองไว้แต่ในเขตปลอดภัยของตนเอง (Safety Zone) แต่โดยอาศัยความเชื่อ ความไว้ใจ และความรักในองค์พระเยซูเจ้า
เทศกาลมหาพรตไม่ได้สิ้นสุดลงในตัวของแม้นเอง แต่นำเราไปสู่พระธรรมล้ำลึกปัสกาของพระเยซูเจ้า เมื่อเราพบพระเยซูเจ้าบนภูเขาแล้ว ให้เราลงไปข้างล่าง เพื่อดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยานถึงสิ่งที่เราได้เห็นและมีประสบการณ์ และดำเนินชีวิตดังเช่น “ศิลปินแห่งการก้าวเดินไปด้วยกัน” ในชีวิตประจำวันอันเรียบง่ายและในหมู่คณะของเรา
ดูสาส์นมหาพรตของพระสันตะปาปาฟรังซิสปี 2023 ภาษาอังกฤษได้ที่ https://press.vatican.va/content/salastampa/en/bollettino/pubblico/2023/02/17/230217c.html?fbclid=IwAR1SfJfXC3KTrNNK47ImJ_79lljl8gRXcV2e_SHR7-VQY2-RQEvAD4LAcNk