ถ้าเตือนเราให้ระลึกถึงความเป็นจริงเกี่ยวกับตัวของเราเอง (Ashes remind us of the truth about ourselves)
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงให้ความหมายของการรับเถ้าที่หน้าผาก ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการเริ่มต้นเทศกาลมหาพรต ในพิธีบูชาขอบพระคุณวันพุธรับเถ้า ทรงเชื้อเชิญให้ผู้ที่มีความเชื่อออกไปบนท้องถนนแห่งความเมตตา การอธิษฐานภาวนา และการพลีกรรมอดอาหาร
พระเจ้าทรงเป็นองค์ความรักและเราเป็นผลงานจากฝีพระหัตถ์ของพระองค์ (The Lord is God, we are the work of His hands)
เถ้าเตือนเราว่าเราเป็นใคร โดยนึกถึง “ความจริงที่สำคัญในชีวิตของเรา นั่นก็คือ พระเจ้าแต่เพียงผู้เดียวคือพระเจ้า และเราเป็นผลงานจากฝีพระหัตถ์ของพระองค์” ดังนั้น เทศกาลมหาพรตจึงกลายเป็นช่วงเวลาที่ต้องจดจำว่า เราต้องพึ่งพาพระองค์
การรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้าและผู้อื่น (Rebuilding relationships with God and others)
ขั้นตอนที่สองในการเดินทางกลับไปหาพระเจ้า นั่นก็คือ การกลับมาหาพระเจ้า และกลับไปหาพี่น้องของเรา โดยการละทิ้งการพึ่งพาตนเอง (หรือการปฏิเสธพระเจ้าและความช่วยเหลือของพระองค์) และการบูชารูปเคารพในทุกรูปแบบ เราสามารถเริ่มเรียนรู้ว่า “ชีวิตคือความสัมพันธ์ที่เราได้รับมาจากพระเจ้าและพ่อแม่ของเรา” และเราสามารถรื้อฟื้นและต่ออายุความสัมพันธ์ของเราได้เสมอ “ขอบคุณพระเจ้าและผู้ที่พระองค์ทรงมอบไว้ให้กับเรา”
“เทศกาลเมหาพรตเป็นเทศกาลแห่งพระหรรษทาน เมื่อเราสามารถสร้างความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าและกับผู้อื่นได้อีกครั้ง เปิดใจของเราในความเงียบของการอธิษฐานภาวนา และออกจากป้อมปราการแห่งความพึงพอใจส่วนตัวของเรา”
ท้องถนนแห่งความเมตตา การอธิษฐานภาวนา และการพลีกรรมอดอาหาร (The paths of charity, prayer, and fasting)
ประการสุดท้าย เพื่อให้การเดินทางครั้งนี้ ประกอบไปด้วยแนวทางสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1) การให้ทาน 2) การอธิษฐานภาวนา และ 3) การอดอาหาร ซึ่งเป็นประเพณีที่ได้รับการสนับสนุนในช่วงเทศกาลมหาพรต
“ตามที่เราได้ยินในพระวรสาร พระเยซูเจ้าทรงเตือนเราว่า แทนที่จะเป็นเพียงพิธีกรรมภายนอก สิ่งเหล่านี้ต้องเป็นการกระทำที่แสดงออกถึงการฟื้นฟูจิตใจภายในของเรา”
บ่อยครั้งที่เราแสดงออกเพียงแค่ท่าทางและพิธีกรรมภายนอกของเรา แต่มันไม่มีผลกระทบอะไรต่อชีวิตภายในของเรา ผิวเผิน หากเรายังคงถ่อมตนในสายพระเนตรของพระเจ้า “การให้ทาน การอธิษฐานภาวนา และการอดอาหารของเรา จะไม่แสดงออกมาเพียงแค่การกระทำภายนอก แต่จะแสดงออกถึงสิ่งที่เราเป็นอย่างแท้จริง นั่นก็คือ เราเป็นลูกของพระเจ้า และเป็นพี่น้องกัน”
เพ่งสายตาไปที่ไม้กางเขน (Fixing our gaze on the Cross)
จงก้มศีรษะของตนเองลง รับเถ้า และทำให้จิตใจของเราให้สูงขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมออกเดินทางไปยังหนทางแห่งความเมตตา การอธิษฐานภาวนา และการพลีกรรมอดอาหาร
จงอย่ามองข้ามพระหรรษทานในเทศกาลมหาพรตนี้ จงเพ่งมองไปที่ไม้กางเขนและออกเดินทาง เมื่อสิ้นสุดการเดินทาง เราจะพบกับความสุขที่ยิ่งใหญ่ เพราะพระเจ้าแห่งชีวิตผู้เดียวที่สามารถชุบชีวิตเราขึ้นมาจากเถ้าของเราได้