พระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนใจหินของเราให้เป็นใจเนื้อ (Jesus turns our hearts of stone to hearts of flesh)
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเป็นประธานในพิธีมหาบูชาขอบพระคุณ วันอาทิตย์พระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า (วันอาทิตย์ใบลาน) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน 2023 ซึ่งเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกหลังออกจากโรงพยาบาลเจเมลลี่ ในกรุงโรม เมื่อวันเสาร์ที่ 1 เมษายน โดยร่วมกับบรรดาผู้ที่มีความเชื่อประมาณ 60,000 คน ซึ่งจบลงด้วยการอธิษฐานภาวนาในบททูตสวรรค์แจ้งสารร่วมกัน
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงนำไตร่ตรองถึงเสียงร้องของพระเยซูเจ้าจากไม้กางเขนว่า “พระเจ้าของข้า พระเจ้าของข้า” ถ้อยคำเหล่านั้นนำเราไปสู่หัวใจแห่งความรักของพระองค์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของความทุกข์ยากที่พระองค์ทรงอดทนเพื่อความรอดของเรา นี่เป็นถ้อยคำเดียวจากไม้กางเขนที่ถูกบันทึกไว้ในพระวรสารของนักบุญมัทธิว
พระเยซูเจ้าผู้ทุกข์ทรมาน (The suffering Jesus)
ความทุกข์ทรมานของพระเยซูเจ้ามีมากมาย และเมื่อใดก็ตามที่เราฟังเรื่องราวพระทรมานขอ
พระองค์ สิ่งเหล่านั้นมิได้เป็นเพียงแค่ความทุกข์ทรมานด้านร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจิตใจและจิตวิญญาณของพระองค์ด้วย แต่ท่ามกลางความเศร้าโศกเหล่านี้ พระเยซูเจ้ายังคงแน่ใจในสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือ “ความใกล้ชิดของพระบิดา” (the closeness of the Father)
ความทุกข์ทรมานทางด้านวิญญาณของพระเยซูเจ้า สะท้อนให้เห็นในคำอุทานของพระเยซูที่ว่า "พระเจ้าข้า ทำไมพระองค์ทรงทอดทิ้งข้าพระองค์" ในชั่วโมงที่น่าเศร้าที่สุดของพระองค์ พระเยซูทรงถูกทอดทิ้งโดยพระเจ้า ซึ่งพระองค์ไม่เคยเรียกพระบิดาด้วยชื่อทั่วไปของพระองค์ว่า “พระเจ้า" มาก่อนเลย
มีเหตุผลสำหรับทุกสิ่ง (A reason for everything)
ความรู้สึกห่างเหินจากพระเจ้า เป็นความรู้สึกแปลกแยกโดยสิ้นเชิงต่อการเป็นอยู่ของพระเยซูเจ้า เหตุผลเดียวก็คือ “พระองค์ทรงทำเพื่อเรา” พระองค์กลายเป็นหนึ่งในพวกเราจนถึงที่สุด เพื่อที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับเราอย่างสมบูรณ์ และแน่นอน เพื่อไม่ให้พวกเรารู้สึกโดดเดี่ยวและสิ้นหวังอีกต่อไป พระเยซูเจ้าประสบกับการถูกทอดทิ้ง เพื่อไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อของความสิ้นหวัง เพื่อที่จะอยู่เคียงข้างเราตลอดไป
ขอให้พวกเราระลึกว่า ด้วยวิธีนี้เองที่พระเจ้าทรงช่วยเรา และระลึกว่า "บนไม้กางเขน แม้ในขณะที่พระองค์ทรงรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งอย่างสิ้นเชิง พระเยซูเจ้าทรงปฏิเสธที่จะยอมจำนนต่อความสิ้นหวัง พระองค์กลับอธิษฐานภาวนาและไว้วางใจแทน โดยมอบพระองค์เองให้อยู่ในพระหัตถ์ของพระบิดา แม้ว่าพระองค์จะทรงรู้สึกอยู่ห่างไกลก็ตาม
ความรักของพระเยซูเจ้า (Jesus' love)
“พี่น้องทั้งหลาย ความรักเช่นนี้ โอบกอดเราไว้จนสุดชีวิต สามารถเปลี่ยนใจที่แข็งกระด้างของเราให้เป็นใจเนื้อ และทำให้เรามีความเมตตา ความอ่อนโยน และความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้ ในการถูกทอดทิ้งของพระเยซูเจ้า ปลุกใจให้เราแสวงหาพระองค์ รักพระองค์ และผู้ที่ได้ทอดทิ้งตัวเองอีกด้วย"
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงรำลึกถึงผู้ถูกทอดทิ้งที่อยู่รอบ ๆ ตัวเราในวันนี้ โดยเฉพาะทรงระลึกถึงชายจรจัดชาวเยอรมันที่ชื่อ เบอร์ฮาร์ด เชฟฟเลอร์ (Burkhard Scheffler) ซึ่งเสียชีวิตในเดือนพฤศจิกายน 2022 ใต้เสาทางเดินของจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ผู้คนจำนวนมากต้องการความใกล้ชิดจากเรา หลายคนถูกทอดทิ้ง และเช่นเดียวกับที่เราทุกคนต้องการการใกล้ชิดของพระเยซูเจ้าในชีวิตของเรา เราก็ต้องออกไปตามหาพระเยซูเจ้าในผู้ที่ถูกทอดทิ้งซึ่งอยู่ตามลำพังเช่นเดียวกัน
ขอให้พวกเราจงจดจำไว้ว่า "ผู้ถูกปฏิเสธและผู้ถูกกีดกันคือภาพลักษณ์ที่มีชีวิตของพระเยซูเจ้า พวกเขาเตือนเราให้นึกถึงความรักอันแรงกล้าของพระองค์ การทอดทิ้งพระองค์ที่ปลดปล่อยเราจากความเหงาและความโดดเดี่ยวในทุกรูปแบบ ให้เราได้วิงวอนขอพระหรรษทานนี้จากพระองค์ ให้รักพระเยซูเจ้าในการถูกทอดทิ้ง และรักพระเยซูเจ้าในสิ่งที่ถูกทอดทิ้งรอบตัวเรา ในเวลานั้นเอง เราจะเป็นจิตหนึ่งใจเดียวกับพระองค์ผู้ทรงทำตัวเองให้ว่างเปล่า เพื่อโอบกอดเราแต่ละคน”