นักบวชชายเป็นพยานยืนยันถึงความเป็นพี่น้องกันในการเสียสละตนเองอย่างเงียบๆ (Religious brothers bear witness to fraternity in silent self-giving)
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงพบปะกับนักบวชชายกลุ่มเล็ก ๆ (Diocesan Oblate Brothers) จากอัครสังฆมณฑลมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อวันศุกร์ที่ 14 เมษายน 2023 พระองค์ทรงแบ่งปันข้อคิด 3 ประการที่นักบวชชายได้มอบให้กับพระศาสนจักร
ความเป็นพี่น้องกันในพระวรสาร (Gospel fraternity)
นักบวชชายถูกเรียกให้เป็นพยานถึง “ความเป็นพี่น้องกันตามพระวรสาร” พวกเขาทำเช่นนั้นด้วยอัตลักษณ์ในฐานะพี่น้อง มากกว่ากิจกรรมเผยแพร่ศาสนา
“ความเป็นพี่น้องกัน” ถูกสร้างขึ้นด้วยรูปแบบที่เป็นรูปธรรมของชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่มั่นคง และดำรงอยู่ตามธรรมชาติในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย ด้วยบุคลิกภาพ พระหรรษทาน และข้อจำกัดของแต่ละคน
ความเป็นพี่น้องกันควรทำให้พี่น้องที่นับถือศาสนามี “ความปิติยินดีภายใน” เนื่องจากเป็นการแสดงถึงวิธีการที่ไม่เหมือนใครในการเป็นเหมือนกับพระเยซูเจ้า “การเป็นพี่น้องกับทุกคน” เป็นลักษณะที่เหมาะสมกับพระธรรมล้ำลึกเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับเอากาย
การรับใช้ด้วยใจสุภาพ (Humble service)
คำว่า "Oblates" ซึ่งมาจากคำภาษาละติน “oblatio” หรือ "oblation" ซึ่งหมายถึง "ของขวัญของตนเอง" ได้รับเพื่อนำไปรับใช้ผู้อื่น
พระเยซูเจ้าเสด็จมาในฐานะผู้รับใช้สำหรับทุกคน พระองค์ทรงทำเช่นนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการสรรเสริญจากคนอื่น ๆ
การรับใช้ของเราเป็นการรับใช้ที่ซ่อนเร้น อ่อนน้อมถ่อมตน และบางครั้งก็น่าขายหน้า อย่างที่เรารู้ นี่คือเส้นทางสำหรับคริสตชนทุกคนที่จะเดินตาม
นักบวชชายของสังฆมณฑล (The Diocesan Oblate Brothers) มีความสุขกับการรับใช้ในรูปแบบนี้จากพระพร (charism) ที่ตนเองได้รับ และด้วยเหตุนี้จะได้รับความสุขภายในเป็นพิเศษจากพระจิตเจ้า
นอกจากนี้เขายังยกตัวอย่างของพระนางมารีย์ ที่ไปช่วยลูกพี่ลูกน้องของเธอคือนางเอลิซาเบธจากการตั้งครรภ์ โดยที่ “ไม่มีช่างภาพหรือนักข่าวรอเธออยู่” แต่มีความสุขที่อยู่ภายใน พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ และนี่คือความสุขจากการรับใช้”
ความซื่อสัตย์ต่อสถานที่และผู้คนที่เฉพาะเจาะจง (Faithfulness to a specific place and people)
บางครั้งเราก็อยากจะกอบกู้โลก อยากจะทำสิ่งที่ใหญ่โต แต่พระเจ้าบอกเราว่า “จงซื่อสัตย์ต่อการรับใช้ ในสถานที่ที่คุณอยู่ บุคคลที่อยู่ตรงหน้าคุณ ทำงานที่คุณได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด”
พระเยซูเจ้าทรงเสด็จมาเพื่อช่วย “แกะหลงของอิสราเอล” และด้วยเหตุนี้จึงทรงเติมเต็มความสัตย์ซื่อของพระองค์ต่อพระบิดา “กฎแห่งความรัก” จะเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เรารักและรับใช้ทุกคนโดยปราศจากเงื่อนไข
ความรักแท้ไม่ใช่เป็นเพียงนามธรรมที่จับต้องไม่ได้ แต่จะต้องทำให้เป็นรูปธรรมที่แสดงออกมาให้เห็น โดยไม่เลือกบุคคลที่จะรักและรับใช้ สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด ๆ โดยเฉพาะ แต่ทุกแห่งหนและกับทุกคน