นักพรตในอารามแสดงออกถึงความรักสากล (Cloistered religious demonstrate universal love)
ในการสอนคำสอนประจำวันพุธที่ 26 เมษายน 2023 พระสันตะปาปาฟรังซิสยังคงพูดถึงหัวข้อ “ความกระตือรือร้นในการเป็นอัครสาวก” และไตร่ตรองถึง “การอธิษฐานภาวนาของบรรดานักพรตชายหญิง” ที่เปรียบเสมือนกับ "หัวใจที่เต้นแรง" ของพันธกิจของพระศาสนจักร
แบบอย่างของนักบุญเกรกอรีแห่งนาเรก (Saint Gregory of Narek) พระสงฆ์ชาวอาร์เมเนียในยุคกลาง ได้เป็นตัวอย่างที่ส่องแสงของความรักสากล ที่โอบล้อมทุกสิ่งซึ่งคริสตชนถูกเรียกให้ดำเนินชีวิต
บทบาทของนักพรตในอาราม (The role of monks and nuns)
ผู้ที่อาศัยอยู่ในอารามสามารถทำอะไรได้บ้าง ต่อพันธกิจของพระศาสนจักรในการประกาศข่าวดี “จะดีกว่าไหมถ้าพวกเขาจะอุทิศพละกำลังของตนเองเพื่อประกาศข่าวดีภายนอกอาราม?”
“นักพรตในอาราม เป็นหัวใจที่เต้นแรงของคำประกาศข่าวดีของพระศาสนจักร คำอธิษฐานของพวกเขา คือออกซิเจนสำหรับสมาชิกทุกคนในพระกายของพระคริสต์เจ้า เป็นพลังที่มองไม่เห็นแต่ค้ำจุนพันธกิจต่าง ๆ”
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซูเป็นนักพรตหญิงในอารามคาร์แมล ได้กลายเป็นองค์อุปถัมภ์ของงานแพร่ธรรมในพระศาสนจักร
นักบุญเกรกอรี นาเร็ก (Saint Gregory Narek)
อีกตัวอย่างหนึ่งของการกระแสเรียกนี้ คือนักบุญเกรกอรีแห่งนาเร็ก พระสงฆ์ชาวอาร์เมเนียในศตวรรษที่ 10 นักบุญเกรกอรี ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในอาราม ซึ่งท่าน "เรียนรู้ที่จะมองลึกลงไปในจิตวิญญาณของมนุษย์ และด้วยการผสมผสานบทกวีและการอธิษฐานภาวนาเข้าด้วยกัน ทำให้เขาบรรลุจุดสูงสุดของทั้งวรรณกรรมอาร์เมเนียและจิตวิญญาณ”
สิ่งที่สำคัญมากที่สุด คือ “ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่เป็นสากล” บรรดานักพรตได้อุทิศตนเองทั้งครบในการอธิษฐานภาวนาเพื่อผู้อื่น
นักบุญเกรกอรีไม่ได้มองเห็นข้อบกพร่องของคนอื่นมาเป็นอุปสรรค หรือตราบาปของพวกเขา แต่ท่านได้นำมาไตร่ตรอง และได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า “หนังสือแห่งการคร่ำครวญ” โดยมีประโยคที่สำคัญกล่าวว่า “ข้าพเจ้าสมัครใจรับความผิดทั้งหมด ตั้งแต่ความผิดของบิดาคนแรกจนถึงผู้สืบทอดสุดท้ายของเขา ข้าพเจ้ารับผิดชอบแทนพวกเขา"
ทำไมต้องอธิษฐานภาวนา? (Why pray?)
ด้วยความสากลแห่งความรักที่โอบล้อมผู้อื่นและคำอธิษฐานภาวนาของท่าน นักบุญเกรกอรีแห่งนาเรก จึงเป็นตัวอย่างความกระตือรือร้นในการประกาศข่าวดีแก่เรา ดังที่บรรดานักพรตชายหญิงกำลังดำเนินชีวิตอยู่ในปัจจุบัน
นี่คือความสำคัญ และความยิ่งใหญ่ ของชีวิตที่จะต้องประกอบไปด้วยการอธิษฐานภาวนา ที่ควบคู่ไปกับงานประกาศข่าวดี การอธิษฐานภาวนานี้พระเจ้าไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้กับเรา แต่เราแต่ละคนจะต้องกระทำด้วยตนเอง
นี่คือ "ความลึกลับที่ยิ่งใหญ่” ซึ่ง “พระเจ้าทรงเคารพเสรีภาพของเราเสมอ ดังนั้น เพื่อให้แผนการแห่งความรอดของพระองค์เป็นจริง พระองค์ต้องการใครสักคนที่อธิษฐานภาวนาและอุทิศให้กับผู้อื่นโดยไม่ถูกบังคับ แต่กระทำด้วยหัวใจและชีวิตทั้งหมดของพวกเขา ซึ่งจะนำให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลได้มาหาพระองค์"
ขอให้เราได้เลียนแบบนักบุญเกรกอรีแห่งนาเรก โดยการกลับไปหาพระเจ้าด้วยการอธิษฐานภาวนา และเป็นผู้เสนอคำวิงวอนในนามของทุกคน