พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงท้าทายให้เยาวชนชาวฮังการีตั้งเป้าหมายในชีวิตให้สูง (Pope tells young Hungarians to aim high in life)
โอกาสเสด็จเยือนประเทศฮังการีอย่างเป็นทางการ พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงพบปะกับคนหนุ่มสาวประมาณ 20,000 คน ณ สนามกีฬาลาซโล ปาปป์ สปอร์ต อารีน่า (Papp László Sport Arena) ในกรุงบูดาเปสต์ โดยเตือนพวกเขาว่าไม่มีใครสามารถแทนที่พวกเขาได้ ในประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรและของโลก
"จงลงทุนในเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต! จากนั้นฝึกสนทนากับพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นเพื่อน พี่ชาย และโค้ชที่ดีที่สุด เอาชนะความกลัว และก้าวไปข้างหน้าเสมอ”
ในงานนี้บิชอปเฟเรนซ์ ปาลันกิ (Ferenc Palánki) จิตตาธิการงานอภิบาลเยาวชนฮังการีระดับประเทศ ได้กล่าวสุนทรพจน์ร่วมกับเยาวชนสี่คนที่แบ่งปันประสบการณ์ในชีวิตของพวกเขา ได้แก่ เบอร์ทาลัน และ ดอร่า (Bertalan, Dóra) นักเรียนมัธยมปลายสองคน, ทูดอร์ (Tódor) หนุ่มชาวกรีกคาทอลิก และ คริสติน่า (Krisztina) นักศึกษามหาวิทยาลัย
ใครที่กล้าชนะ (Who dares wins)
“พระเยซูเจ้าต้องการให้เราทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จ” ในชีวิตและ “อย่าดูถูกความคาดหวังของเรา”
“พระเยซูเจ้าไม่ต้องการให้เราขี้เกียจ ไม่ต้องการให้เราเงียบและขี้อาย แต่เขาต้องการให้เรามีชีวิตชีวา กระฉับกระเฉง พร้อมที่จะรับผิดชอบ พระเยซูเจ้าคงเห็นด้วยกับสุภาษิตของคุณ ซึ่งฉันหวังว่าฉันจะออกเสียงได้ดี: Aki mer az nyer [ผู้กล้า ชนะรางวัล]”
แต่เราจะชนะในชีวิตได้อย่างไร? “เช่นเดียวกับกีฬา มีสองขั้นตอนพื้นฐาน” ขั้นตอนแรกคือ “ตั้งเป้าหมายให้สูง” นำความสามารถของเรา “ไปใช้ให้เกิดประโยชน์” ลงทุน “ในเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของชีวิต”
“เราไม่ได้บรรลุความยิ่งใหญ่ด้วยการเหยียบย่ำผู้อื่น แต่ด้วยการรับใช้ผู้อื่น!”
สนทนากับพระเยซูเจ้า (Dialoguing with Jesus)
ขั้นตอนที่สองคือการฝึกสนทนากับพระเยซู “ผู้เป็นโค้ชที่ดีที่สุด” พระเยซูเจ้าให้กำลังใจคุณ เชื่อในตัวคุณ และเชื้อเชิญให้คุณทำงานเป็นทีมอยู่ตลอดเวลา ไม่โดดเดี่ยว แต่ร่วมกับผู้อื่น ในพระศาสนจักร ในชุมชน ในการแบ่งปันประสบการณ์ของคุณกับผู้อื่น”
องค์ประกอบที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการฝึกอบรมนี้ คือ #ความเงียบ (Silence) ซึ่งเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ของคริสตินา ในโลกที่ “เต็มไปด้วยข้อความว่า เราต้องรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และใช้งานได้จริง สมบูรณ์แบบเหมือนเครื่องจักร” พระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสว่า “เราต้องเรียนรู้วิธีหยุดและเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพื่อชาร์จแบตเตอรีของเรา” ปล่อยใจให้ “อารมณ์ขุ่นมัวหรือครุ่นคิด” อยู่เหนือปัญหาของเรา
ความเงียบ “ไม่ใช่การนั่งติดอยู่กับโทรศัพท์มือถือ หรือโซเชียลมีเดีย” แต่เป็น “ดินที่เราบ่มเพาะความสัมพันธ์ที่ดี” มัน “ช่วยให้เราสามารถไว้วางใจพระเยซูเจ้าในสิ่งที่เรารู้สึก (…) เพื่อแบ่งปันความยากลำบากของเรา เพื่อระลึกถึงเพื่อนของเรา และอธิษฐานภาวนาเพื่อพวกเขา”
ดังนั้น ความเงียบจึงเป็น "ประตูสู่การอธิษฐาน" ซึ่งเป็น "การสนทนากับพระเยซูเจ้า" ซึ่งเราแบ่งปันความเปราะบางของเราได้อย่างเสรีภาพ
“การอธิษฐานไม่น่าเบื่อ เป็นการเผชิญหน้ากับพระคริสต์”
พระเจ้าต้องการคนที่แท้จริง (The Lord wants authentic people)
“พระวรสารบอกกับเราว่า พระเจ้าไม่ได้ทรงทำสิ่งยิ่งใหญ่กับคนพิเศษ แต่กับคนธรรมดา จงอย่าเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง และกังวลอยู่เสมอที่จะดูดีต่อหน้าผู้อื่น เพราะนั่น เป็นสาเหตุที่ทำให้พระเจ้าทรงอยู่ห่างจากใจของพวกเรา”
พระเยซูรักคุณในแบบที่คุณเป็น (Jesus loves you the way you are)
จงช่วยให้โลกอยู่อย่างสงบสุขด้วยการรับใช้ผู้อื่น ดังเช่นประสบการณ์ของทูดอร์ หนุ่มชาวกรีก-คาทอลิก การแบ่งปันประสบการณ์ของเขาถึงความกระตือรือร้นในภารกิจ "สามารถลดทอนได้จากการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย" ในขณะที่สงครามและความทุกข์ทรมานอยู่ไม่ไกลจากเรา หรือจากความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน”
“สิ่งนี้เองเป็นความท้าทายที่แท้จริง ที่จะควบคุมชีวิตของเรา เพื่อช่วยให้โลกของเราอยู่อย่างสงบสุข โดยการรับใช้ผู้อื่นอย่างกว้างขวางและไม่เห็นแก่ตัว ตามที่พระเยซูเจ้าทรงสอนเรา”
ความเชื่อเริ่มต้นด้วยการให้ (Faith starts with giving)
ความเชื่อ “เริ่มต้นด้วยการให้อย่างเสรีภาพ ด้วยความกระตือรือร้น และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เอาชนะความกลัวของเรา และก้าวไปข้างหน้า!” เช่นเดียวกับอัศจรรย์ของพระเยซูเจ้าที่ทรงทวีขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวในพระวรสารของนักบุญยอห์น ซึ่งชายหนุ่มได้แบ่งปันขนมปังและปลาเล็กน้อยที่เขามีให้กับพระเยซูเจ้าเพื่อเลี้ยงฝูงชน
เราต้องเรียนรู้ที่จะฝากสิ่งต่างๆไว้ในพระหัตถ์ของพระเยซูเจ้า (We have to learn to leave things in the hands of Jesus.)
“พวกคุณทุกคนมีค่าสำหรับพระเยซูเจ้า และสำหรับข้าพเจ้าด้วย! โปรดจำไว้ว่าไม่มีใครสามารถแทนที่คุณได้ในประวัติศาสตร์ของ