พระสันตะปาปาฟรังซิสจะเสด็จไปเยือนมองโกเลียอย่างเป็นทางการ (Pope Francis’ apostolic visit to Mongolia)
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม 2023 สำนักข่าววาติกันได้เปิดเผยกำหนดการ ตราสัญลักษณ์ และคำขวัญของการเสด็จเยือนมองโกเลียของพระสันตะปาปาฟรานซิส ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม ถึงวันจันทร์ที่ 4 กันยายน 2023 ตามคำเชิญของประธานาธิบดีแห่งมองโกเลียและเจ้าหน้าที่พระศาสนจักรท้องถิ่น โดยมีคำขวัญที่ว่า “การหวังไปด้วยกัน” (Hoping Together) และนับได้ว่าเป็นการเดินทางเพื่องานอภิบาลในต่างประเทศครั้งที่ 43 ของพระองค์
ในระหว่างการเยือนมองโกเลียครั้งประวัติศาสตร์นี้ พระสันตะปาปาฟรังซิสจะพบกับเจ้าหน้าที่ทางการเมือง ตัวแทนของพระศาสนจักรคาทอลิก และมีส่วนร่วมในการประชุมระหว่างศาสนาระดับโลก เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ และพิธีบูชาขอบพระคุณในสนามกีฬา โดยพระสันตะปาปาจะประทับอยู่ในกรุงอูลานบาตอร์ (Ulaanbaatar) เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย ตลอดการเยือนของพระองค์
พระสันตะปาปาฟรังซิสจะเสด็จออกจากท่าอากาศยาน “ฟิอูมิชิโน” (Fiumicino) ของกรุงโรมในเย็นวันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม 2023 เพื่อเสด็จถึงท่าอากาศยานนานาชาติ “ชิงกิสข่าน” (Chinggis Khaan) กรุงอูลานบาตอร์ในวันศุกร์ที่ 1 กันยายน 2023 เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (เวลาที่มองโกเลียเร็วกว่าอิตาลี 6 ชั่วโมง)
ตารางเวลา (The Programme)
ในวันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2023
มีพิธีต้อนรับที่จัตุรัสซุคบาตอร์ (Sukhbaatar Square) กรุงอูลานบาตอร์ ก่อนเข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีมองโกเลียที่ทำเนียบรัฐบาล
นายอุคนากิอิน คูเรลซุก (Ukhnaagiin Khürelsükh) หรือที่เรียกว่านายคูเรลซุก อุคนา ปKhürelsükh Ukhnaa) เป็นประธานาธิบดีคนที่ 6 และคนปัจจุบันของมองโกเลีย เริ่มดำรงตำแหน่งในวันที่ 25 มิถุนายน 2021 หลังจากชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีมองโกเลียในปีเดียวกัน
จากนั้น พระสันตะปาปาฟรังซิสจะทรงแสดงปาฐกถาอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างการพบปะกับเจ้าหน้าที่ ประชาสังคม และคณะทูตานุทูตในห้องโถง “อิคห์ มองโกล” (Ikh Mongol) ในทำเนียบรัฐบาล และพบกับนายเกรซ ฮูรัล (Great Hural) ประธานรัฐ ณ รัฐสภามองโกเลีย และนายลูฟซานนัมไซเรน โอยุน-เออร์ดีน (Luvsannamsrain Oyun-Erdene) นายกรัฐมนตรี
ในช่วงบ่ายพระองค์จะพบกับบรรดาบิชอป บาทหลวง มิชชันนารี และนักบวชชายหญิง ผู้ทำงานอภิบาล ซึ่งพระองค์จะปราศรัยในอาสนวิหารนักบุญเปโตรและเปาโล
ในวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2023
ช่วงเช้า การประชุมทั่วโลกและระหว่างศาสนาในหอประชุมฮน (Hun Theatre) ช่วงบ่ายจะเป็นพิธีมหาบูชาขอบพระคุณ ณ สนามกีฬาสเตปป์อารีน่า (Steppe Arena)
วันจันทร์ที่ 4 กันยายน 2023
เป็นวันสุดท้ายของการเสด็จเยือน พระองค์จะทรงเปิดศูนย์การกุศล (House of Mercy) และพบปะกับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครขององค์กร ก่อนอำลาระหว่างพิธีอำลาที่สนามบินเจงกิสข่าน พระองค์มีกำหนดออกเดินทางในเวลาเที่ยงวันตามเวลาท้องถิ่น และถึงกรุงโรมในวันเดียวกันในช่วงเย็น
การหวังไปด้วยกัน (Hoping Together)
จากคำขวัญในการเดินทางนี้ให้เน้น "ความหมายสองประการของการเดินทางของพระสันตะปาปาฟรังซิสไปยังประเทศมองโกเลียคือ 1) การเยี่ยมเยียนทางด้านอภิบาล และ 2) การเยือนของรัฐ"
“ความหวัง” ซึ่งเป็นคุณธรรมของคริสตชนล้วน ๆ เป็นสิ่งที่แบ่งปันกันอย่างกว้างขวางในแวดวงที่คริสตชน “เมื่อเชื่อมโยงกับคำวิเศษณ์ 'ร่วมกัน' (together) คำขวัญนึ้จึง “เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือกันระหว่างสันตะสำนักและมองโกเลีย”
“การหวังไปด้วยกัน จึงแสดงถึงอุดมคติร่วมกัน และยังเป็นองค์ประกอบที่จะกำหนดลักษณะของการเดินทาง
“การประทับอยู่ของพระสันตะปาปาฟรังซิส จะเป็นเครื่องหมายแทนความหวัง และกำลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนส่วนเล็ก ๆ ของประชากรของพระเจ้า และในทางกลับกัน พระศาสนจักรที่อยู่ในมองโกเลียซึ่งมีขนาดเล็กและชายขอบ สามารถให้สัญญาณแห่งความหวังแก่พระศาสนจักรสากล"
ตราสัญลักษณ์ (The logo)
ตราสัญลักษณ์ประกอบไปด้วย
1. แผนที่ของประเทศมองโกเลียที่แสดงเป็นสีแดงและสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีของธงชาติ
2. ภายในเส้นขอบเป็นรูปเจอร์ (“Jer” ที่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิมของชาวมองโกเลีย) ซึ่งมีควันสีเหลือง (สีของวาติกัน) พุ่งขึ้นไปด้านบน
3. ทางขวาของเจอร์คือ “ไม้กางเขน” เจอร์และไม้กางเขนอยู่ระหว่างจารึกแนวตั้งสองแผ่น ในภาษามองโกเลียแบบดั้งเดิม ซึ่งสะท้อนคำขวัญที่ว่า “การหวังไปด้วยกัน”
พระสันตะปาปาองค์แรกที่เสด็จเยือนมองโกเลีย (The first Pope to visit Mongolia)
พระสันตะปาปาฟรังซิส เป็นพระสันตะปาปาองค์แรกที่เสด็จเยือนประเทศในเอเชียตะวันออกที่มีพรมแดนติดกับรัสเซียและจีน มีประชากรเพียง 3.3 ล้านคน รัฐนี้เป็นรัฐอธิปไตยที่มีประชากรเบาบางมากที่สุดในโลก
หลังจากการล่มสลายของราชวงศ์ชิงของจีนในปี 1911 มองโกเลียได้รับเอกราชจากสาธารณรัฐจีนในปี 1921 หลังจากนั้นก็ดำเนินการในฐานะรัฐบริวารของสหภาพโซเวียต
หลังจากการปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตยอย่างสงบ และการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 พรรคประชาชนมองโกเลียที่เป็นสังคมประชาธิปไตยในปัจจุบัน ได้ปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมืองของประเทศและนำเสนอรัฐธรรมนูญใหม่
การยุติการกดขี่ทางศาสนาในปี 1990 ทำให้มีเสรีภาพทางศาสนาเกิดขึ้นอีกครั้ง และในประเทศที่นับถือศาสนาพุทธส่วนใหญ่ มิชชันนารีคาทอลิกกลับมาสร้างวัดขึ้นใหม่อีกครั้งในปี 1992 ปัจจุบันมีชาวคาทอลิกที่รับศีลล้างบาปประมาณ 1,300 คน ในประเทศนี้ปกครองโดยโดยพระคาร์ดินัลจอร์โจ มาเรนโก (Cardinal Giorgio Marengo) ชาวอิตาลี